วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

“สรรค์สร้างไทย.....อนาคตไทย” รวมพลังกันสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ทางการเมืองให้มีภาวะผู้นำที่ดีในอนาคต

 


          นักวิชาการ สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Thai Sangsan Institute มองปัญหาสังคมวันนี้คนที่มีบทบาทหน้าที่”ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบสาธารณะ”  หรือ ไม่มี Accountability เดินหน้าสร้างภาวะผู้นำให้ New Gen” ในโครงการ Young Political Leadership มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นผู้นำมิติใหม่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูง พร้อมเปิดตัวประธานคนรุ่นใหม่ 4 ภาค(โปรเจ็คภาวะผู้นำรุ่นใหม่) 

            นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Thai Sangsan Institute กล่าวถึงการเดินหน้าโครงการ”สรรค์สร้างไทย.....อนาคตไทย” ที่ประกอบด้วยคณะกรรมการที่มีจิตอาสา จะรวมกันทำสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในแผ่นดิน อันประกอบด้วย ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์ นักวิชาการด้านศาสนา,Prof.อิน  นฤหล้า นักวิชาการนานาชาติ(Program Leadership)และอดีตคณะบริหารธุรกิจเอแบค, อ.สุพัฒก์  ชุมช่วย นักวิชาการ(GTO), Prof.ปีแอร์ เดอลาลองด์  ,  Prof.สก็อต  บัดเล่ย์,  อาจารย์นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติฯม.รังสิต) , พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้”ประธานมูลนิธิต่อต้านป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติด(หนึ่งในแกนนำรวมพลังทำดีเพื่อแผ่นดินที่ไปจัดตั้งพรรคสร้างสรรค์Creativity Party) รวมท้งนักวิชาการอีกหลายสาขาที่มารวมพลังกันสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่ทางการเมืองให้มีภาวะผู้นำที่ดีในอนาคต แม้ว่าโลกทุกวันนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสโลกาวิวัฒน์และเป็นโลกในยุคเทคโนโลยี่และเอไอ AI(หุ่นยนต์) แต่สำหรับประเทศไทยของเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรต้องนึกถึง 3 สถาบันหลักไว้ให้แน่นก็คือ ชาติ ศานสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมฯนี้ทางสถาบันฯจะเปิดตัวเยาวชนคนรุ่นใหม่ Young Political Leadership ทั้ง 4 ภาค  ที่จะมารวมกันขับเคลื่อนทำในสิ่งดีๆในแผ่นดินเป็นพลังรุ่นใหม่ของสถาบันฯ และปลูกฝังจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสาธารณะต่อสังคมให้สูงมาก ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อจะไม่ให้เขาไปคิดหรือทำในสิ่งที่ผิด ๆ  ถ้าจิตสำนึกของเขาถูกปลูกฝังให้คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมต่อประเทศชาติแล้วเราเชื่อว่าเขาจะไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

            สถาบันฯเรามีนักวิชาการที่มีความรู้และประสบการณ์การอบรมองค์กรระดับนานาชาติมาแล้ว ในการที่จะมาร่วมกันผลักดันให้เกิดพลังของคนรุ่นใหม่ที่จะมาร่วมกันสร้างและทำในสิ่งที่ดี ๆในสังคมและประเทศชาติและเดินไปพร้อมกับคนที่อาวุโสกว่าไปด้วยกันเราจะไม่ขัดแย้งกัน...อย่างผมและท่านอาจารย์สุพัฒก์และหลาย ๆท่านได้กล่าวในหลายเวทีที่ฝึกอบรมว่า” คนส่วนหนึ่ง..หรือคนที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในบ้านเมืองของเรา บางที(บางคน)ขาดภาวะผู้นำ)และขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบสาธารณะหรือ Accountability  ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าในจิตส่วนลึกของคนๆคนหนึ่ง ถ้ามีจิตที่มีความรับผิดชอบต่อสาธารณะต่อสังคม การตัดสินใจที่จะทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามก็มักจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเรามองปัญหาของสังคมหรือแม้กระทั่งเรื่องของการเมือง สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปัญหาประชาชนยอมรับไม่ได้ก็เพราะสิ่งที่เกิดขี้นมานั้นไม่โปร่งใสตรงไปตรงมา  เล่นพรรคเล่นพวก จึงเกิดความไม่เป็นธรรม ความรู้สึกของคนจึงยอมรับไม่ได้  ซึ่งพวกเรานักวิชาการในสถาบันฯทุกคนมองเห็นว่าเราต้องมาปลูกฝังและสร้างคนรุ่นใหม่ที่เขาจะต้องมามีบทบาททางสังคมหรือประเทศชาติ หรือบางคนในอนาคตอาจจะมาเป็นนักการเมือง  ให้บุคคลเหล่านี้ได้มีจิตความรับผิดชอบสาธารณะต่อสังคมและต่อประเทศชาติให้สูงมาก ๆ  ยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป เพื่อให้สังคมไทยเป๋นสังคมที่มีความสุขเราต้องรวมมือกันสร้างสรรค์ สรรค์สร้างสิ่งดี ๆ เพื่อประเทศไทยของเรา.

 


วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2563

แพทย์แนะวิธีรักษา ‘โรคเบาหวาน’ นวัตกรรมยาตรวจสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย

 


สถานการณ์ผู้ป่วย โรคเบาหวาน” กำลังเพิ่มสูงขึ้นในประเทศไทย และยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยโรคนี้ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เพราะจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่าคนปกติ

จากผลสำรวจสุขภาพประชาชนปี 2557 พบว่าคนไทย 4.8 ล้านคนป่วยเป็นโรคเบาหวาน ในกลุ่มคนไทยอายุ 60-79 ปี พบว่าป่วยเป็นโรคเบาหวานถึง 19% ที่น่าตกใจคือเด็กและวัยรุ่นเป็นโรคนี้มากขึ้น โดยผู้ป่วยวัย 15 ปีขึ้นไป พบว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน 8.9% และส่วนมากไม่รู้ตัวมาก่อน

รศ.พญ.นันทกร ทองแตง แพทย์สาขาวิชาต่อมไร้ท่อ และเมตะบอลิสม ภาควิชาอายุรศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า โรคเบาหวานทำให้คนไทยอายุสั้นลงจากการเสียชีวิตก่อนวัย โดยพบผู้มีอายุ 60 ปีป่วยเป็นโรคเบาหวาน อายุจะสั้นลง 6 ปี หากเป็นโรคเบาหวานร่วมกับโรคหลอดเลือดหัวใจอายุจะสั้นลง 12 ปี และการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังต่ออวัยวะต่างๆ เช่น ตาบอด ไตวาย เท้าเป็นแผลเรื้อรัง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม โรคเบาหวานสามารถป้องกันได้ ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน หมั่นออกกำลังกาย และลดน้ำหนักตัวลงอย่างน้อย 5-7% ของน้ำหนักตั้งต้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานลงได้ 30-50% และควรตรวจคัดกรองโรค โดยผู้อายุ 35 ปีขึ้นไปควรเจาะเลือดตรวจ ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น มีน้ำหนักตัวเกิน หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรตรวจให้เร็วกว่าปกติ



รศ.พญ.นันทกร ระบุด้วยว่า สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานแล้ว มีวิธีการรักษาไม่แตกต่างจากการป้องกัน กล่าวคือ หัวใจสำคัญของการรักษา ได้แก่ การปรับพฤติกรรม ร่วมกับใช้ยารักษาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งปัจจุบันมียารักษาหลายกลุ่มทั้งยากินและยาฉีด เป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งยาฉีดมีทั้งที่เป็นยาฉีดอินซูลินและยาฉีดที่ไม่ใช่อินซูลิน หรือยาฉีดจีแอลพีวัน อะนาล็อก (GLP-1 Analogue) ยาชนิดใหม่ๆ ถูกพัฒนามาเพื่อลดผลข้างเคียงที่อันตราย ได้แก่ ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) นอกจากนี้ ยาบางชนิด เช่น ยาฉีดจีแอลพีวัน อะนาล็อก และยากินบางกลุ่ม ยังมีผลช่วยลดน้ำหนักตัวของผู้ป่วยได้ เป็นต้น โดยแพทย์จะเลือกใช้ยาตามความเหมาะสมและข้อบ่งใช้ของผู้ป่วยแต่ละราย

ยารักษาโรคเบาหวานในปัจจุบันยังมีการพัฒนาให้ผู้ป่วยบริหารยาได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และเจ็บตัวน้อยลง เช่น การรวมเม็ดยา จากเดิมที่ต้องกิน 2-3 เม็ดก็รวมเหลือ 1 เม็ด การรวมยาฉีด 2 ชนิดในเข็มเดียว การพัฒนาเข็มและอุปกรณ์การฉีดยาให้เล็กลง เพื่อให้เจ็บน้อยลง และ การพัฒนายาฉีดจากเดิมต้องฉีดทุกวันเป็นฉีดเพียงสัปดาห์ละครั้ง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วย เช่น เครื่องติดตามระดับน้ำตาลของผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ (real time) ติดบริเวณท้องหรือต้นแขน โดยเครื่องจะทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลโดยอัตโนมัติ ทุกๆ 5 นาที และแสดงผลให้ทราบทันทีทางหน้าจอ ผู้ป่วยและญาติสามารถทราบระดับน้ำตาลของตนเองโดยไม่ต้องเจาะเลือดที่ปลายนิ้ว ช่วยป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และช่วยให้แพทย์ปรับยาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีแอปพลิเคชัน หรือเครื่องมือช่วยคำนวณปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรือแคลอรี่ในอาหารแต่ละจาน เพื่อควบคุมการรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับภาวะของผู้ป่วย รวมถึงอุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย เช่น เครื่องนับก้าวในการเดิน การเผาผลาญพลังงานของร่างกาย เป็นต้น

แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกล มียาดีแค่ไหน ก็ต้องควบคุมพฤติกรรมการกินอยู่ไปพร้อมกันด้วย ที่สำคัญ คือ ต้องหมั่นสำรวจตนเองและรีบมาตรวจคัดกรองโรคแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยไปจนโรคเบาหวานลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนไปแล้ว เพราะมันอาจสายเกินไป” รศ.พญ.นันทกรกล่าวทิ้งท้าย



 



วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2563

‘สาธิตกรุงเทพธนฯ’ จัด ‘BTD Story Telling’ พัฒนาทักษะ สร้างความมั่นใจในการใช้ภาษา

 


ละครภาษาอังกฤษ

ครูเอิร์น-จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการบริหาร โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี เป็นประธานการแสดงละครภาษาอังกฤษ BTD Story Telling 2002 เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ, เสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ, ส่งเสริมให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก ซึ่งเหมาะสมกับวัยของนักเรียน และ เพื่อให้นักเรียนได้รับยความสนุกสนาน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ




นอกจากโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี จะอัดแน่นไปด้วยทักษะทางวิชาการแล้ว ทักษะทางด้านการแสดงของนักเรียน ที่นี่ก็ไม่เป็นสองรองใคร      รวมถึงการแสดงละครภาษาอังกฤษ BTD Story Telling 2002 ที่จัดขึ้นโดยฝ่าย English Program ที่บอกได้เลยว่า ทั้งร้อง เล่น เต้น โชว์ มีครบหมดในงานนี้



BTD Story Telling 2002 เป็นกิจกรรมการแสดงและการเล่านิทานของเด็ก ๆ โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี โดยมีเหล่าน้องๆ อนุบาล และประถมศึกษา ทั้งฝ่ายสามัญ และ English Program ออกมาโชว์ความสามารถในการเล่าเรื่อง ผ่านการเล่านิทาน และการแสดงที่แสนจะน่ารัก



กิจกรรม BTD Story Telling 2002 ในปีนี้ มี ครูเอิร์น-จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการบริหาร โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี เป็นประธาน พาน้องๆ ร่วมแสดงการเล่านิทานภาษาอังกฤษทั้งหมด 3 เรื่อง ประกอบด้วยการแสดงละครภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นเตรียมอนุบาล-อนุบาล 3 ในเรื่อง The Lion King, นักเรียนฝ่าย English Program เรื่อง The Little Mermaid และ นักเรียนฝ่ายสามัญ เรื่อง Snow White and The Seven Dwarfs



ครูเอิร์น-จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง ผู้อำนวยการบริหาร โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี กล่าวว่า โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี ฝ่าย English Program ร่วมกับการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ตลอดจนระดับชั้นประถมศึกษาฝ่ายสามัญ ดำเนินจัดกิจกรรมเล่านิทานเป็นประจำทุกปีการศึกษา เพราะเป็นกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียนครบทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การฟัง, การพูด, การอ่าน และ การเขียน จึงได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝน และพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ, เสริมสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ และส่งเสริมให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก ซึ่งเหมาะสมกับวัยของนักเรียน และ เพื่อให้นักเรียนได้รับยความสนุกสนาน เป็นการสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ



 การจัดกิจกรรม BTD Story Telling 2002 นอกจากจะเป็นการฝึกภาษาและการสื่อสารที่ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เด็กๆ มีความกล้าแสดงออก พร้อมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ฝึกสมาธิจากการเล่นและลงมือปฏิบัติจริง ที่น้องๆ ทุกคนมีความตั้งใจในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้กันมากทีเดียว



การส่งเสริมและให้ความรู้เพิ่มเติมที่ดีๆ แบบนี้ มีที่นี่ โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี ผู้ปกครองหรือนักเรียนที่สนใจ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.02-408-1919-28, 02-408-8111, 02-408-1555หรือ www.satitbtu.ac.th






 


กระทรวงวัฒนธรรมให้การสนับสนุน เดอะสเน็ค นางพญางู สืบทอดวัฒนธรรมไทย

 


           ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คุณสุรชัย ชินชัย ได้สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องเดอะสเน็ค นางพญางู และให้ภาพยนตร์เรื่องเดอะสเน็ค นางพญางู เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมหมู่บ้านงูจงอางให้เป็นวัฒนธรรมไทยสืบทอดต่อไป  ผู้กำกับ วิดิฐ  ธัญพันธุ์ ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง จากคุณสุรชัย ชินชัย มาเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ของภาพยนตร์เรื่องเดอะสเน็ค นางพญางู เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับตำนาน ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นแฟนซีคอเมดี้  ไม่ได้ทำให้ดูน่ากลัวหรือลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สร้างเพื่อความบันเทิง และให้คนทั่วประเทศได้รู้จักหมู่บ้านงูจงอางมากขึ้น ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้จดจำ

           คุณปู วิดิฐ ธัญพันธุ์ ขอขอบคุณ คุณสุรชัย ชินชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และท่านจาตุรนต์ ฉายแสง ที่มาร่วมให้การสนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้


            เดอะสเน็ค นางพญางู ดาราร่วมแสดง แซ็ค ชุมแพ , กระต่าย พรรณณิภา , เบสท์  คำสิงห์ , วินัย ไกรบุตร , สมรักษ์ คำสิงห์ ,ปุณ ศิริปัญญา, หมู ธีรภัทร์  ,ขวัญ กชชสร  ,ดาว  สเตลลา  ,หยก ธัญญพัทธ์  ,อี๊ด  โปงลาง, โจอี้ จาไมก้า ,อรชร เชิญยิ้ม , เท่งน้อย เอนจอยโชว์ ,ปู วิดิฐ   ,เก่ง  ชาติชาย, รอน สมูเรนเบิร์ก, ทนายเจมส์

              ติดตามได้เร็วๆนี้ ในโรงภาพยนตร์






สทท. ปิดจ๊อบ! ‘เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ’ อัพศักยภาพผู้ประกอบการ-แก้ปัญหาอย่างยั่งยืน

 


สทท. ปิดจ๊อบโปรเจ็กต์ “เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ” หลังจัดโรดโชว์เปิดเวทีสะท้อนปัญหา พร้อมหาแนวทางแก้อย่างยั่งยืนใน 5 จังหวัด ครอบคลุมทุกภูมิภาค หวังอัพเกรดศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย


นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สทท. ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมการท่องเที่ยว, กระทรวงสาธารณสุข, กรมอนามัย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) จัดโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ร่วมใจช่วยชาติ” ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพมาตรฐาน การท่องเที่ยวองค์รวม และแนวทางการจัดการของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวระหว่างและหลัง สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ (COVID-19)


ทั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน ได้ส่งผลต่อหลายประเทศทั่วโลก เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลัก ที่สามารถทำรายได้ให้กับประเทศและเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจประเทศไทย จึงทำให้การพัฒนาและการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเป็น สิ่งสำคัญ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น




สำหรับการจัดงานในวันนี้ (24 กันยายน 2564)จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการปิดโครงการดังกล่าวและสรุปผลการดำเนินงาน หลังจากได้จัดไปยัง 5 พื้นที่ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ และระยองในช่วงตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดย ภายในงานวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ที่จะมาเป็นประธานเปิดงาน พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ทิศทางการท่องเที่ยวไทยใน อนาคต” รวมถึงมีการบรรยายจากผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการ และเวทีระดมความคิดเห็น หัวข้อ “ทางออก อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทำอย่างไรให้รอด!!?”



นายชัยรัตน์กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของการจัดงานใน 5 พื้นที่ที่ผ่านมานั้น ได้รับฟังความคิดเห็นจาก ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งปัญหาของผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงปัญหาของพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังมีการนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ด้วย เช่น ปัญหาเรื่องการหดตัวของนักท่องเที่ยว การขาดหายของรายได้ การขาดสภาพคล่องของผู้ประกอบการ การเข้าไม่ถึงมาตรการเยียวยาทางการเงินของภาครัฐ เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังสะท้อนความต้องการในการแก้ปัญหา อาทิ การกระตุ้นอุปสงค์การท่องเที่ยวในพื้นที่แนวทางการจัดตั้งกองทุนหรือธนาคารเพื่อการท่องเที่ยว





 

 


การพิสูนจ์พระแท้พระเทียมแยกแยะอายุพระ ด้วยเทคโนโลยี่ทางวิทยาศาสตร์ ที่ได้ผลแม่นยำ 100%

 


นายอร่าม เริงฤทธิ์  ผู้อำนวยการสถาบันพระแท้สมเด็จโตประเทศไทย  พูดถึงการตั้งเป็นสถาบันขึ้นเพื่ออนุรักษ์-ตำนานพระสมเด็จของชาติไทย ให้ดำรงค์อยู่อย่างถูกต้อง พระสมเด็จที่ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ที่ทำการสร้างปลุกเสกพระพิมพ์ต่างๆในสมัยกาลครั้งหนึ่งของท่าน ซึ่งเป็นตำนานไปแล้วในปัจจุบัน การพิสูนจ์พระแท้พระเทียมแยกแยะอายุพระของท่านเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ทันยุคท่านปลุกเสกพระของท่านหรือไม่หรือเรียกว่าทันยุค และพระเครื่องอื่นๆอีกด้วย โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ ใช้เทคโนโลยีกล้องขยายกำลังสูง ตรวจแปลผล จากเนื้อพระสมเด็จ ผ่านการสร้างมาแล้วกี่ปี 50,100,150 ปี เนื้อพระจะมี แคลเซียมคาร์บอเนต ที่สามารถบอก อายุพระได้ โดยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา  #ทำไมถึงต้องตรวจพิสูจน์พระสมเด็จแท้ทางวิทยาศาสตร์ ?



สถาบันพระแท้สมเด็จโตประเทศไทย มีความเข้าใจต่อผู้ที่รักพระ นิยมพระ สะสมพระสมเด็จฯ   ต้องการตรวจพิสูนจ์เพื่อสะสมพระสมเด็จแท้ๆ เอาไว้เพื่อบูชาอาราธนาขอพรให้เกิดความสำเร็จ ให้เป็นมงคลกับชีวิต และเอาไว้ให้ลูกให้หลานสืบทอดตลอดไป

ด้วยเหตุนี้… ไม่จำเป็นต้องให้ผู้รู้ในวงการพระซึ่งมีอยู่น้อยมากๆ มายอมรับ หรือมารับรอง พระที่เราครองครองอยู่ สิ่งที่สำคัญที่สุด พระสมเด็จแท้หรือเก๊ ตัดสินที่ลักษณะทางกายภาพขององค์พระและหลักฐานที่บงชี้ว่ามีอยู่จริงในเนื้อพระเรียกว่า(มวลสาร) ลักษณะทางกายภาพสามารถนำหลักวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ให้คำตอบท่านได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แท้คือแท้ เก๊คือเก๊ วิทยาศาสตร์ พิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น เป็นข้อมูลใหม่ในการพิสูนจ์เนื้อแท้ขององค์พระ สามารถหักล้างข้อมูลเก่าที่ผู้รู้วิจารณ์มาได้อย่างแน่นอน และสร้างกรอบข้อมูลอ้างอิงขึ้นมาใหม่ที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้ เมื่อท่านรู้ว่าพระท่านแท้ คุณค่าของพระย่อมอยู่ที่จิตวิญญาณของท่าน


สถาบันพระแท้สมเด็จประเทศไทย ยินดีต้อนรับท่านที่รักสะสมพระสมเด็จ ด้วยการบริการตรวจพิสูจน์พระสมเด็จทางวิทยาศาสตร์ทางกายภาพและทางเคมี พร้อมออกใบเซอร์รับรอง สนใจขอเชิญท่านมาตรวจพิสูจน์ได้ที่สถาบันฯ ตั้งอยู่เลขที่ 18/275 ม. 3 ซ. บุญศิริ ซอย 2 (ซอยอยู่ตรงข้าม ร.ร นายเรือ) ถ. สุขุมวิท อ. เมือง จ. สมุทรปราการ 10270

สอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 092-578-5155 , 02-756-1565 , ID LINE 5155 หรือเพจ ใน Face book พิมพ์ชื่อ “สถาบันพระแท้สมเด็จโตประเทศไทย” สถาบันฯ เปิด เวลา 10.00-17.00. วันจันทร์ ,พุธ , ศุกร์ ครับ . 


นายศตพล พรานไพร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงการพระเครื่อง “โรมปากน้ำลำพระเพลิง” อยู่ประจำคอยในบริการ ประชาชนที่สนใจมาหาความจริงกับ การครอบครองพระที่ตนมีอยู่ เป็นพระแท้หรือไม่…?






วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563

เริ่มแล้ว งานแสดงสินค้า ปริ้นท์เทค และจักรปัก สัญจร ครั้งที่ 6 26-27 กันยายน 2563 Kice ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น อย่าช้าของถูก ของแถมของแจกเพียบ

 



งานแสดงสินค้า ปริ้นเทคและจักรปัก สัญจร ครั้งที่ 6 ณ.ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ ไคซ์ จังหวัดขอนแก่น นำโดยคุณวรทัศน์ ธุลีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น



เป็นประธานเปิดงาน คุณมินท์ธิตา นิธิกรกุลนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันทูวัน ครีเอชั่น จำกัด ให้การต้อนรับพร้อมด้วย คุณทรงศักดิ์ ทองไทย  ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และคณะ, คุณกมลพงศ์ สงวนตระกูล ประธานหอการค้าขอนแก่นและคณะ, ผู้ประกอบการ, ร่วมกันจัดงานแสดงสินค้า ปริ้นท์เทค และจักรปัก สัญจร ครั้งที่ 6  จังหวัดขอนแก่น เป็นการนำผู้ประกอบการ บริษัท ชั้นนำจากทาง กรุงเทพฯ ไปจัดแสดงสินค้าแบบยิ่งใหญ่โดยมี  4 กลุ่มอุตสาหกรรม หลักมารวมตัวกัน ได้แก่งาน

1. ด้านงานพิมพ์ เป็นงานด้านธุรกิจด้านงานพิมพ์ อาทิ  เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท, เครื่องพิมพ์ดิจิตอล, เครื่องพิมพ์มัลติฟังค์ชั่น, เครื่องถ่ายเอกสารสี  ธุรกิจบริการงานป้ายโฆษณา อุปกรณ์ก่อน-หลังการพิมพ์ เป็นต้น

2. ด้านแอลอีดี เป็นงานธุรกิจด้านหลอดไฟแอลอีดี อาทิ ตู้ไฟ, ป้ายกล่องไฟสำเร็จรูป, เมนูบอร์ด, กรอบป้ายกระจายแสง, งานตกแต่ง และวัสดุอุปกรณ์ป้ายไฟ เป็นต้น

3. ด้านจักรปัก พิมพ์สกรีน และสิ่งทอ  เป็นธุรกิจของ กลุ่มเครื่องจักรสำหรับเสื้อผ้าสิ่งทอ อาทิ จักรปัก, พิมพ์สกรีน, เครื่องพิมพ์สกรีน, เครื่องทรานเฟอร์, สีสกรีน และอุปกรณ์งานปัก  เป็นต้น

4. ด้านงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เป็นธุรกิจงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ อาทิ งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์, เครื่องพิมพ์บนกล่อง, เครื่องพิมพ์ฉลากสินค้า, เลเบล, เครื่องพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ และสินค้าพรีเมี่ยม เป็นต้น



            ทั้งนี้ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมสัมมนา ความรู้ และWorkshop จากบริษัทชั้นนำที่จะนำ

1. กลุ่มคนทำป้ายจังหวัดขอนแก่น ประกอบตู้ไฟ LED ไฟเชียร์, อะคริลิค, คอมโพสิตสำหรับงานออกแบบตกแต่งงานภายในและภายนอก และอธิบายเกี่ยวกับการเลือกสี pantone, การใช้ค่าของสี RGB – CMYK

2. “Emb On Mask Workshop by GW ปักชื่อหน้ากากอนามัย เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร” จากบริษัท กู๊ดเวิร์ค อินเตอร์เทรด จำกัด



            นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ พร้อมของรางวัลอีกมากมาย พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นพิเศษสุดจากผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในครั้งนี้ ร่วมลุ้นรับรางวัลโทรทัศน์ และสร้อยคอทองคำ รวมมูลค่า 10,000 บาท โดยทั้งหมดนี้จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2563 Kice ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น ฮอลล์ 1 ตั้งแต่ 09.30-18.00 น.










LEGEND SIAM พัทยา LANDMARK การท่องเที่ยวแหล่งใหม่ของเมืองพัทยา เมืองแห่งตำนาน อารยะสยาม ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทย เหนือจินตนาการของสยามประเทศ ผนึกกำลังหนุนโครงการ ไทยเที่ยวไทย ปักหมุด 2-8 ต.ค.เทศกาลออกพรรษา “ฟรี”ทั้งโครงการ”

 


             LEGEND SIAM พัทยา ได้ฤกษ์เปิดตัว ถือเอาวันดี วันออกพรรษา 2 ตุลาคมนี้  เปิดประตูเมืองให้นักท่องเที่ยวทั่วประเทศ สัมผัสความอลังการที่เหนือจินตนาการอีกครั้ง

              ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ที่ผ่านมา นอกจากจะได้โอกาสปรับแผนกลยุทธและวางโครงสร้างให้กับ LEGEND SIAM   ในรูปแบบใหม่ ที่เน้นนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกัน ก็เตรียมพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต  โดยเริ่มที่ปรับปรุงและต่อเติมทัศนียภาพโดยรอบบริเวณบนพื้นที่กว่า 164 ไร่  ให้มีความสวยงามและร่มรื่นยิ่งขึ้น จัดให้มีร้านค้า ร้านอาหารกว่า 200 ร้านค้า เพื่อเอาใจขากิน ขาช้อปอย่างเต็มที่  นอกจากนี้ ยังเนรมิตตลาดน้ำ ตลาด 100 ปี และงานวัด ที่เต็มไปด้วยองค์ประกอบอย่างสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ให้มาอยู่รวมกันในพื้นที่เดียว



              แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดและถือเป็นไฮไลท์ของ LEGEND SIAM ที่โดดเด่นและแตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวในพัทยาก็คือ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์และองค์เทพต่างๆ  ที่เป็นที่นับถือสักการะและยังมีอิทธิฤทธิ์ปรากฏต่อคนที่เคยมากราบไหว้ขอพรมาแล้วอย่าง พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ พระพรหมทรงหงส์ และแม่ย่าศรีปทุมมา โดยเฉพาะพระพุทธรูป 9 องค์ ในโบสถ์พระศรีสรรเพชญ์จำลอง  ที่มีอายุรวมกันกว่า 4000 ปี  ถือได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว เสมือนได้ไหว้พระ 9   วัดได้ในสถานที่เดียว วันเดียวจบ

และยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ 2 และ 3 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 5   โมงเย็นเป็นต้นไป  ทาง LEGEND SIAM ได้เชิญซินแสเป็นหนึ่ง มาเป็นคนนำไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น   ถือเป็นความมงคลของชีวิตที่ได้มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่มงคล ในวันออกพรรษานี้



               พิเศษสุด สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาในวันที่ 2-8 ตุลาคมนี้ จะได้เล่น AR ATTRACTION ซึ่งถือเป็น AR ที่ดีที่สุดในโลก ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

มาร่วมเปิดประสบการณ์และพบกับความตื่นตาตื่นใจกับความยิ่งใหญ่และความอลังการ ภายใต้ CONCEPT ใหม่ สนุกทั้งวัน มหัศจรรย์ทั้งเมือง  FULLY FUN IN 1 DAY ของ LEGEND SIAM แหล่งท่องเที่ยวที่เหนือจินตนาการ ที่พร้อมจะเป็น LANDMARK แห่งใหม่ของพัทยา ในวันที่ 2   ตุลาคม  2563  นี้  แล้วพบกัน














 


GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...