วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ครบรอบ10 ปี กลุ่มพุทธธรรมกรรมฐานฯ จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร(อาหารเเห้ง) พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2563 โดยได้รับความเมตตาจากพ่อเเม่ครูอาจารย์ พร้อมพระภิกษุสงฆ์ รับบิณฑบาต ลานหน้าหอประชุมพ่อขุนรามคำเเหงฯ

 



      โดยงานในครั้งนี้ได้มีการบรรยายเผยเเพร่ประวัติปฏิปทาธรรมะคำสอนของพระธุดงค์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงได้รวบรวมปฏิปทาพอสังเขป

       "...หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เป็นพระเกจิอาจารย์ทางวิปัสสนาชื่อดัง ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นอริยสงฆ์หรือพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ได้รับยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่งจากบรรดาศิษย์ผู้อยู่ใกล้ชิดท่าน ว่าเป็นอาจารย์วิปัสสนาชั้นเยี่ยมแห่งยุคสมัย ท่านมีศิษยานุศิษย์และคนเคารพนับถือมากมาย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปูชนียบุคคลอันทรงคุณค่ายิ่งของสยามประเทศ สมกับการได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก




“องค์การ UNESCO” ได้ประกาศยกย่องให้ “หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต” ในวาระที่มีชาตกาล ครบ 150 ปี ในปี 2563 “เป็นบุคคลสำคัญของโลก” ประจำวาระปี 2563-2564 นับเป็นพระอริยสงฆ์รูปที่ 3 ของประเทศไทย จากวันที่หลวงปู่มั่นถือกำเนิด

หลวงปู่มั่นได้วางแนวทางในการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนากรรมฐานตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันควรแก่สมณะและประชาชนอย่างกว้างขวาง ด้วยความถึงพร้อมทั้งปฏิบัติ ปริยัติและปฏิเวธ ท่านกล่าวว่า ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ จะแยกกันไม่ได้ ดังหนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ต้องอิงอาศัยกันอยู่ฉันใด ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ก็อาศัยกันอยู่อย่างนั้น สัทธรรม 3 อย่างนี้จะแยกกันไม่ได้เลย..."

ประวัติหลวงปู่มั่นโดยสังเขป

หลวงปู่มั่น ถือกำเนิดในวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม วันที่ 20 มกราคม 2413 ที่บ้านคำบง ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ บ้านคำบง ต.สงยาง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี) ท่านเป็นบุตรชายในสกุลแก่นแก้ว มีบิดาคือนายคำด้วง มารดาคือนางจันทร์





















 


วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563

“กฤษดา พุ่มฤทธิ์” SK.Record ปั้นสองศิลปินสาว.. ประเดิม“น้ำท่วมพ่ายน้ำใจ 2020”ให้กำลังใจคนไทย

 



กฤษดา พุ่มฤทธิ์ บิ๊กบอส ค่าย SK.Record เปิดตัว 3 ซิงเกิ้ลใหม่ 2020 ของสองสาวศิลปินในสังกัด คือ น้อง “พลอย-พุ่มพวง” มาพร้อมกับสองซิงเกิ้ล “น้ำท่วมพ่ายน้ำใจ 2020” และ “เอาเลยพ่อใหญ่” ศิลปินสาวคนที่สอง คือ“บาสเบอรี่” ที่มากับเพลง “คนเริ่มมีความรัก 2020”  สนับสนุนโดยสมุนไพร PM ตังถั่งเช่าผสมโสม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ

 


สำหรับ"พลอย พุ่มพวง"ลูกทุ่งรุ่นใหม่ ของ SK.Record   เรียกได้ว่าจังหวะเหมาะกับกระแสช่วงน้ำท่วม ส่งซิงเกิ้ล “น้ำท่วมพ่ายน้ำใจ 2020”ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ

พลอย พุ่มพวง" หรือ บีม"พิมพ์พลอย สุขลิ้ม"ในชื่อนามศิลปิน “พลอย พุ่มพวง” มาจากชื่อจริงที่ว่า “พิมพ์พลอย”ส่วน “พุ่มพวง”มาจากรถที่มาขายกับข้าวเป็นพุ่มเป็นพวง เธอเป็นสาว จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันศึกษาอยู่ปี 1 คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชานาฏยศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา  เธอร้องเพลงประกวดตลอดมากับโรงเรียนที่ส่งในแต่ละเขตแต่ละจังหวัดได้ที่ 1 ,2 หรือที่ 3 และประกวดเวทีต่างๆคว้ารางวัลเรื่อยมา โดยพลอยเปิดใจว่าทุกวันนี้ ต้องการทำความฝันของแม่ที่อยากเห็นเธอประสบความสำเร็จบนเส้นทางดนตรี

 "กำลังใจทุกอย่างพลอยทำเพื่อแม่ ความใฝ่ฝันที่พลอยกำลังเดินเพื่อแม่ อยากทำให้ฝันของแม่เป็นจริง แม้พลอยจะลำบากจะเหนื่อยแค่ไหน หากเรามีจุดมุ่งหมายและนึกถึงคนที่อยู่ด้านหลัง เราไม่มีทางย่อท้อแน่นอน และวันนี้พลอยกำลังเริ่มต้นและจะทำให้แม่ภูมิใจให้ได้ แม้จะล้มสักกี่ครั้งก็ตาม แม่คือทุกอย่างในชีวิต แล้วสักวันจะทำให้ได้แม่อดทนรอหน่อยนะ”

 


ส่วนประวัติของ “บาส  ธัญญนัช ไกรนุกูล”หรือ “บาสเบอรี่” เป็นชาวจังหวัดสิงห์บุรี จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีลพบุรี คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ เธอเริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 7ขวบ จากการร้องประกวดที่โรงเรียน และเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงมาเรื่อยๆ ได้รางวัลบ้างไม่ได้รางวัลบ้าง ในสาขาเพลงลูกทุ่ง เคยเข้ารอบการประกวด kpn รอบ 30 คนสุดท้าย ในปี 2547 และได้รางวัลเพลงเทิดพระเกียติยอดเยี่ยม เพลงเอกองค์ราชา ในปีที่ฉลองสิริราชสมบัติครบ60ปี รัชกาลที่ 9 กับวงดนตรีลูกทุ่งเฟื่องฟ้า โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า (งานลูกทุ่ง สพฐ) โดยบาสเป็นนักร้องนำ  หลังจากที่โตขึ้น บาสก็ร้องเพลงเป็นอาชีพ ตามร้านต่างๆ โดยเธอเปิดใจว่าการร้องเพลงทำให้ตัวเองมีความสุข

 ตอนเด็ก ๆ พ่อเคยให้เลือก ระหว่างต่อยมวยกับร้องเพลง จะเลือกอะไร(ตอนนั้นพ่อทำค่ายมวย) เราเลือกร้องเพลง เหตุผล เพราะได้แต่งตัวสวย สนุก โดยเฉพาะการขึ้นเวทีประกวด ได้แต่งชุดสวยๆที่แม่ตัดให้ใหม่ตลอด บาสว่าความสามารถพิเศษของเรา เรื่องร้องเพลง ทำไห้เราได้โอกาสหลายอย่าง แถมได้เงิน มีทั้งเงินเก็บ ตั้งแต่เด็ก ได้เรียนฟรีเพราะเป็นนักร้องโควต้า การร้องเพลง”

 ติดตามผลงานของศิลปินสาวช้างเผือกแห่งวงการเพลง “พลอย พุ่มพวง” และ“บาสเบอรี่” ได้ที่ช่องทาง YouTube ช่อง SK RECORD





“โฮมโปร” สวนกระแส ทุ่มทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เปิด “มาร์เก็ตวิลเลจ” พร้อมผุดสาขาใหม่ โฮมโปร สาขา รังสิตคลอง 4 สาขาที่ 85 ดึงกำลังซื้อย่าน รังสิต-ธัญญบุรี

 



โฮมโปร สวนกระแส บุกตลาดย่านรังสิต ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท เปิด “มาร์เก็ตวิลเลจ” Life Style Shopping Center แห่งใหม่ บนถนนทำเลศักยภาพ รังสิต-ธัญญบุรี บนพื้นที่กว่า 25 ไร่ ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 35,000 ตร.ม. ชูแนวคิด ศูนย์การค้าสำหรับครอบครัว และชุมชน ด้วยคอนเซ็ปต์ ”สายน้ำ แห่งรังสิต” โดยใช้จุดเด่นของคลองรังสิต วัฒนธรรม และวิถีชีวิตทางน้ำของชาวรังสิต มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผสมผสานกันอย่างลงตัว พร้อมเปิดสาขา โฮมโปร รังสิต คลอง4 เปิดรับความสุข ให้คุณช้อปครบทุกความต้องการเรื่องบ้าน อย่างเต็มอิ่ม ด้วยพื้นที่กว่า 9,000 ตร.ม. พร้อมอัดโปรโมชั่นวันเปิด 30 ต.ค. รับสิทธิ์แลกซื้อ ลดมากกว่า 50 % พร้อมรับฟรีคูปองส่วนลด 500 บาทท้ายใบเสร็จ บัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลดทันที 3 % ตั้งแต่บาทแรก พร้อมรับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 2% บัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20,000บาท พร้อมผ่อน 0% สูงสุด 12 เดือน หรือผ่อนทั้งร้าน 0% สูงสุด 20 เดือน ตั้งเป้ายอดขายเดือนละ 100 ล้านบาท

 


นางสาวเสาวณีย์  สิราริยกุล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร”  ผู้นำสินค้าเรื่องบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท เปิด “ศูนย์การค้ามาร์เก็ต วิลเลจ รังสิต” (หนึ่งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ Homepro) Life Style Mall แห่งใหม่บนถนนทำเลศักยภาพ รังสิต-ธัญญบุรี พื้นที่กว่า 25 ไร่ รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 35,000 ตร.ม. ในเขตที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งหมู่บ้านจัดสรร โรงเรียน มหาวิทยาลัย ศูนย์ราชการ และสถานประกอบธุรกิจต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยมีแนวคิดเพื่อให้เป็นศูนย์การค้าสำหรับครอบครัว และชุมชนด้วย Concept ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “สายน้าแห่งรังสิต” ใช้จุดเด่นของคลองรังสิต วัฒนธรรม และวิถีชีวิตทางน้ำของชาวรังสิต มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบศูนย์การค้าผสมผสานกันอย่างลงตัว

 


ภายในโครงการของศูนย์การค้าประกอบไปด้วย ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำต่างๆ Homepro และTop Super Market และร้านค้าปลีกชื่อดังกว่า 100 ร้านค้า ศูนย์อาหาร Street Food Market ศูนย์รวมความบันเทิง และพักผ่อน The Fitness Society และ Play Tory (PlayLand) ที่การันตีความปลอดภัยแบบ Touchless Society  รวมถึงร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะเป็น ร้านโอ้กระจู่, แม่ศรีเรือน,   TEXAS   ข้าน้อยขอชาบู,  ตำมั่ว, เชสเตอร์กิล, ชินคันเซนซูชิ, วราภรณ์ซาลาเปา  รวมถึงร้านอาหารไตล์  Street  Food  รวมกว่า  50  ร้านค้า อาทิ หอยจ๋อปูทองเยาวราช   รสสยามนูเดิ้ล    คุง ราดหน้ากะทะเหล็ก  ขนมครกแม่พลอย  ซอยเซ้นหลุย  รวมถึง ร้านเครื่องดื่มสำหรับคอกาแฟ ชานม และร้าน  Bakery อื่นๆ อีกมากมาย  นอกจากนี้ยังมีการออกแบบพื้นที่จอดรถกว่า 700 คัน สะดวกสบายในการมาใช้บริการ ของลูกค้าในทุกๆ โอกาส และที่สำคัญ โฮมโปรยังได้มีการขยายสาขา ‘โฮมโปร รังสิต คลอง 4’ สาขาแห่งที่ 85 เป็นแลนมาร์คแหล่งใหม่ของชาวรังสิต –นครนายก บนพื้นที่กว่k 9,000 ตรม. ตั้งอยู่ชั้น 2 ของศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ  เพื่อเป็นการรองรับและตอบโจทย์ลูกค้า Total Home Solution อย่างเต็มรูปแบบ

 


นางสาวเสาวนีย์  กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้จะยังมีปัจจัยลบจากสถานการณ์วิกฤติโควิด -19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภค รวมไปถึงการจับจ่ายใช้สอย แต่เรามองว่าการขยายสาขาในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ปลุกกำลังซื้อสินค้าเรื่องบ้าน สร้างบรรยากาศในการช้อปปิ้งให้กลับมาคึกคัก เห็นได้จากการจัดแคมเปญ และกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายของทางภาครัฐ โฮมโปรจึงเดินหน้าขยายสาขาในครั้งนี้ เพื่อรองรับ และตอบโจทย์ลูกค้าในรูปแบบ Total Home Solution ทั้งสินค้า และบริการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มสินค้าเรื่องบ้าน เพราะเรื่องบ้านทำได้ทุกวัน

 


สำหรับ โฮมโปร รังสิต คลอง 4 ในครั้งนี้ ได้มีการปรับโซนสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะโซนสินค้าเครื่องใช้ในบ้าน Home Organize จัดระเบียบบ้าน ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก และโซนครัว มีบริการ Kitchen Design Center ดีไซน์ตกแต่งห้องครัวตอบโจทย์พื้นที่บ้านแนวราบ และทาวน์โฮม  รวมถึงแผนกโซนสี Color Inspiration  มีการเพิ่มบริการ “ซื้อสีมีช่าง” อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการคัดสรรบริการ WATER TREATMENT SOLUTION นวัตกรรมครบวงจร  บริการตรวจคุณภาพน้ำ และการเลือกปั้ม แทงค์ พร้อมคำแนะนำ เกี่ยวกับเรื่องน้ำโดยเฉพาะ ที่รวบรวมหลากหลายของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำ รวมไปถึงเรื่องน่ารู้ และวิธีการดูแลเรื่องน้ำในบ้านแบบเจาะลึก พร้อมการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม รวมถึงสินค้าแผนก Bedroom & Home Textile ที่จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อลูกค้าโฮมการ์ด ลดเพิ่มด้วยบัตรเครดิตโฮมโปรวีซ่า คอลเล็คชั่นเครื่องนอน เพื่อที่สุดแห่งการพักผ่อน, แผนก Lighting & Electric อุปกรณ์ไฟ หลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน, Living room ตกแต่งโซน Inspire ใหม่ ให้คุณเลือกได้มากกว่า, Home Electric ครบทุกเทคโนโลยี ล้ำหน้า รุ่นใหม่ก่อนใคร, Bathroom & Tiles เพิ่มดีไซน์ห้องน้ำ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ ๆ กระเบื้อง  Hygienic ตอบโจทย์ยุค New Normal , Water Heater & Plumbing คัดสรรสินค้า เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี, Tools เครื่องมือครบทุกอุปกรณ์ต่อเติม และซ่อมแซมบ้าน และ Outdoor Living ครบครันทุกอุปกรณ์ตกแต่งสวน สร้างสวนสวย และความรื่นรมย์ในทุกช่วงเวลา, Small Lover โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเอาใจคนชอบ cooking @home &bakery และคนรักกาแฟโดยเฉพาะ

 


และเพื่อเป็นการฉลองเปิดสาขาใหม่ “โฮมโปร รังสิตคลอง 4” ใหม่ ทางโฮมโปรได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยเฉพาะวันเปิดที่ 30 ต.ค. รับสิทธิ์แลกซื้อ ลดมากกว่า 50 % จำนวนจำกัด 900 ชิ้น หมดแล้วหมดเลย เมื่อช้อปตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป รับฟรีคูปองส่วนลดท้ายใบเสร็จ 500 บาทเมื่อช้อปครบ 10,000 บาททุกวันพฤหัส – อาทิตย์ หรือลดเพิ่มสินค้าแผนก The Power หรือใช้คะแนนโฮมการ์ดเท่ากับยอดซื้อสามารถลดเพิ่มอีก 20% (เฉพาะวันศุกร์)  สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม ลดทันที 3 % รับเครดิตเงินคืนเพิ่ม 2% และบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 20,000 บาท พร้อมผ่อน 0%  12 เดือน และผ่อนทั้งร้าน 0% สูงสุด 20 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ

 


ร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความสุข ที่ โฮมโปร รังสิต คลอง 4 ตั้งแต่วันนี้ – 29 พ.ย. 2563 พร้อมเปิดบริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น. โทร 02-029-7799 หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center หมายเลข 1284 และ www.homepro.co.th  FB : homeprothailand

 











วันหลอดเลือดสมองโลก ภัยเงียบใกล้ตัว รักษาได้ถ้ารู้จักสัญญาณ F.A.S.T “พูดลำบาก ปากตก ยกไม่ขึ้น”

 


องค์กรโรคหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Organization: WSO) ได้กำหนดให้ วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันหลอดเลือดสมองโลก (World Stroke Day) โดยรณรงค์ให้สังเกตอาการโรคหลอดเลือดสมองโดยใช้หลักการ F.A.S.T หากพบว่าใบหน้าอ่อนแรงหรือหน้าเบี้ยว (FACE)  แขนอ่อนแรง (ARM) พูดผิดปกติ (SPEECH) ให้นึกถึงเวลา (TIME) ควรนำส่งโรงพยาบาลโดยทันทีจะสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้

โรคหลอดเลือดสมองแบ่งเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการเกิดคือโรคหลอดเลือดสมองตีบตันและโรคหลอดเลือดสมองแตก

จากการสำรวจประชากรขององค์กรโรคหลอดเลือดสมองโลกพบว่าในปี 2563 มีผู้ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองกว่า 80 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 5.5 ล้านคน และยังพบผู้ป่วยใหม่ถึง 14.5 ล้านคนต่อปี โดย 1 ใน 4 เป็นผู้ป่วยที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และร้อยละ 60 เสียชีวิตก่อนวัยอันควร นอกจากนี้ ยังได้ประมาณการความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในประชากรโลกพบว่า ทุกๆ 4 คน จะป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง 1 คน โดยร้อยละ 80 ของประชากรโลกที่มีความเสี่ยงสามารถป้องกันได้ สำหรับในประเทศไทยโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุของความพิการและเสียชีวิตอันดับ 1 ในผู้สูงอายุ



ศ.พญ.นิจศรี ชาญณรงค์ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านโรคหลอดเลือดสมองแบบครบวงจร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “สำหรับการรักษาโรคหลอดเลือดสมองในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพขึ้น เช่น การรักษาโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน แพทย์จะทำหัตถการสอดใส่สายสวนเข้าไปทางหลอดเลือดแดงผ่านบริเวณขาหนีบจนไปถึงตำแหน่งที่อุดตัน และนำเอาลิ่มเลือดที่ไปอุดตันตามหลอดเลือดออกมา พบว่าผู้ป่วยใช้เวลานอนโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญในการรักษาโรคหลอดเลือดสมองคือ “เวลา” ดังนั้นหากผู้ป่วยหรือคนรอบตัวสามารถนำหลักการที่จะจำได้ง่ายๆ คืออาการที่พบบ่อย ได้แก่ พูดลำบาก ปากตก ยกไม่ขึ้น ไปสังเกตอาการของคนรอบตัว ถ้ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นทันทีทันใด ให้นึกถึงสโตรค หรือโรคหลอดเลือดสมอง การรีบไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วก็จะทำให้ การรักษาโรคหลอดเลือดสมองมีประสิทธิภาพสูงสุด”

พูดลำบาก ปากตก ยกไม่ขึ้น ประกอบด้วย 3 อาการที่สำคัญ

พูดลำบาก หมายถึงการพูดไปผิดปกติไป ไม่ว่าจะเป็นลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด พูดไม่ออก หรือพูดไม่รู้เรื่อง

ปากตก หมายถึงมุมปากข้างใดข้างหนึ่งตกลง เมื่อให้ยิ้มยิงฟันแล้วพบว่าปากเบี้ยว มุมปากสองข้างไม่เท่ากัน

ยกไม่ขึ้น หมายถึงแขนขาข้างใดข้างหนึ่งอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น

อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นเฉียบพลัน ดังนั้นหากผู้ป่วยหรือคนรอบข้างสามารถสังเกตุอาการเหล่านี้ได้เร็วเท่าไร จะสามารถช่วยลดการเสียชีวิตและความพิการได้”

“สำหรับแนวทางป้องกัน สามารถเริ่มทำได้เองที่บ้าน ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์  หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หวานจัด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ควบคุมระดับความดันโลหิต ระดับไขมันและระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดเหล้าบุหรี่ ลดน้ำหนัก ตรวจสุขภาพประจำปี สำหรับผู้ป่วยควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด” ศ.พญ. นิจศรี กล่าว




 


วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กรมเจ้าท่าเปิดตัวโครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน

 


จากความสำเร็จของโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา ที่ได้ปรับโฉมชายหาดพัทยา ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องที่ช่วยฟื้นฟู และกระตุ้นการท่องเที่ยวชายหาดพัทยา ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จึงได้เดินหน้า โครงการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน เป็นแห่งที่ 2 เพื่อรองรับธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี 

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า  จากรายงานการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี พ.ศ. 2552 พบว่าปัจจุบันชายหาดจอมเทียนประสบปัญหาการกัดเซาะอย่างรุนแรงและต่อเนื่องเช่นเดียวกับชายหาดพัทยา ส่งผลให้ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปทุกปี จนเหลือพื้นที่ทรายชายหาดจอมเทียนไม่เพียงพอ ที่จะรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนบนชายหาดได้ ในบางช่วงของชายหาดเมื่อน้ำขึ้น ชายหาดจะจมอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลทั้งหมดไม่หลงเหลือชายหาดเลย ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวให้มีแนวโน้มลดลงไปในอนาคต หากปล่อยทิ้งไว้ ภายในไม่ถึง 10 ปี ชายหาดจอมเทียนจะไม่มีทรายเหลืออยู่เลย  ดังนั้นจึงได้มีนโยบายเร่งด่วน เพื่อทำการเสริมทรายเพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายหาดเช่นเดียวกับที่ชายหาดพัทยา โดยจะเริ่มงานในระยะที่ 1 ก่อน เป็นระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 3.5 กิโลเมตร



“จากความสำเร็จของโครงการเสริมทรายชายหาดพัทยา ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือ บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี จนถึงชายหาดพัทยาใต้ บริเวณวอล์คกิ้ง สตรีท ที่ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากทั้งจากนักท่องเที่ยว ประชาชน พ่อค้าแม่ค้า และผู้ประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่ ทำให้ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบโดยตรงต่อการพัฒนาการขนส่งทางน้ำ และดูแลรักษาร่องน้ำและชายหาดของประเทศ ได้จัดหางบประมาณเพื่อทำการเสริมทรายในพื้นที่ ชายหาดจอมเทียน เป็นโครงการที่ 2 เพื่อเป็นการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการท่องเที่ยวและการสร้างการเติบโตบนคุณภาพ ให้มีการเจริญเติบโตของคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถสร้างมาตรการควบคุมผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด เป็นไปตามมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยทั่วไป” นายวิทยา กล่าว  



โครงการนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 586,047,000 บาท กรมเจ้าท่า ได้ว่าจ้างให้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบทำการเสริมทรายชายหาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระยะที่ 1 ในครั้งนี้ โดยเริ่มการทำงานตั้งแต่ 29 พฤษภาคม 2563 จนถึง 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นระยะเวลา 900 วัน สำหรับแหล่งทรายที่จะใช้เสริมชายหาดจอมเทียน นำมาจากบริเวณทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดจอมเทียนออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร และเป็นแหล่งเดียวกับที่ใช้เสริมทรายชายหาดพัทยามาแล้ว  โดยคาดว่าในครั้งนี้จะใช้ทรายรวมทั้งสิ้นราว 6.4 แสนลบ.ม.



สำหรับขอบเขตของงานแบ่งเป็น 8 ประเภทด้วยกัน คือ

 1. งานเสริมทรายชายหาด ความยาว 3,575 เมตร

2. งานก่อสร้างแหล่งสำรองทรายชายหาด ความยาว 225 เมตร

3. งานติดตั้งระบบป้องกันชายหาดแห้งด้วยวิธีระบายน้ำลงสู่ชั้นนำใต้ดิน 2,105 เมตร

4. งานติดตั้งท่อระบายน้ำเชื่อมต่อท่อระบายน้ำเดิม ความยาว 51 เมตร

5. งานก่อสร้างบันไดคอนกรีต ขึ้น-ลง ชายหาด 67 จุด

6. งานติดตั้งป้ายประติมากรรมและป้ายมาตรฐานรวม 2 จุด

7. งานมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม

8. งานประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกับประชาชน



หลังจากการฟื้นฟูบูรณะชายหาดจอมเทียนเสร็จสิ้นแล้ว ชายหาดจะมีขนาดความกว้างเฉลี่ยประมาณ 50 เมตร มีความสวยงาม และใช้เป็นพื้นที่สันทนาการได้มากกว่าเดิม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่า เงิน 1 บาทที่ลงทุนไปในการเสริมชายหาดจอมเทียนในครั้งนี้   จะสร้างเม็ดเงินกลับคืนมาในระบบประมาณ 3.20 บาท

หากประชาชนท่านใดต้องการข่าวสารโครงการ มีข้อสงสัย ปัญหา หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์โครงการฯ บริเวณหน้าชายหาดจอมเทียน 14 โทรศัพท์ 062-490-9099 หรือติดต่อผ่านสายด่วนกรมเจ้าท่า 1199  และ www.jomtienbeachnourishment.com





 


สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดประชุมวิสามัญประจำเดือนตุลาคม 2563


สมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย โดยนายสุรชัย วิเศษโสภา นายกสมาคมฯ จัดประชุมวิสามัญประจำเดือน วาระสำคัญ มีสรุปรายรับโฆษณาจากหนังสือของสมาคมฯ, เตรียมงานวันลอยกระทงที่จะมาถึงจัดที่ห้องอาหารยกยอ-มารีน่า พร้อมกิจกรรมสังสรรค์ปีใหม่ของสมาคมฯ และคำกล่าว ของนายกสมาคมฯ ห่วงใยในท่าทีและภาพลักษณ์ของสื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวเหตุการณ์บ้านเมือง ณ ปัจจุบันด้วย

ส่วนกิจกรรมสังสรรค์ปีใหม่ของสมาคมช่างภาพข่าวสื่อมวลชนฯ ศกนี้ มีนายมนูญ พุฒทอง ที่ปรึกษาสมาคมฯ เสนอให้สมาชิกร่วมกิจกรรมเลี้ยงสังสรรค์ พร้อมกับ ชมรมช่างภาพการเมือง,ชมรมช่างภาพอาวุโสด้วย  ณ ห้องอาหารยกยอ-มารีน่า









วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กฟผ. พร้อมเสิร์ฟความสุข ผ่านกิจกรรม ‘เที่ยวอุ่นใจ ไปกับน้อง ENGY’ ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านการท่องเที่ยว

 


 กฟผ. เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเขื่อนและโรงไฟฟ้า พาผู้โชคดีจากกิจกรรม ‘เที่ยวอุ่นใจ ไปกับน้อง ENGY’ เที่ยวฟรี 4 ทริป โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่ ต.ค. - ธ.ค. 2563 พร้อมเดินหน้าจัด ‘เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ครั้งที่ 16’ ทุกวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ตลอดเดือน พ.ย. 2563 ประเดิมเสาร์แรก 7 พ.ย. เพื่อส่งมอบความสุขให้กับคนไทย พร้อมร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ฟื้นคืนจากวิกฤตโควิด – 19 ผ่านการท่องเที่ยว

 


 นายประเสริฐ อินทับ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. จัดกิจกรรมลุ้นเที่ยวฟรี ‘เที่ยวอุ่นใจ ไปกับน้องเอนจี้ (ENGY)’ 4 ทริป นำผู้ได้รับสิทธิ์ ทั้งหมด 120 คน แบ่งเป็นทริปละ 30 คน ออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษ โดยผู้ได้รับสิทธิ์ 30 คนแรก ออกเดินทาง ครั้งที่ 1 เส้นทางโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา 2 วัน 1 คืน ระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม 2563 – 18 ตุลาคม 2563 เพื่อร่วมกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากวิกฤติโควิด – 19 ผ่านการท่องเที่ยวในจังหวัดที่ตั้งเขตเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. นอกจากผู้ร่วมเดินทางจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติตลอดเส้นทางแล้ว ยังได้เยี่ยมชมภายในโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย พร้อมชมวิวหลักหมื่นล้าน ท่ามกลางทุ่งกังหันลมบริเวณอ่างพักน้ำตอนบนเขายายเที่ยง ลิ้มลองกาแฟสดจากเมล็ดกาแฟชั้นดีที่ปลูกและเติบโตในพื้นที่ป่าต้นน้ำเหนือเขื่อนและโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ร้านกาแฟคุณสายชล เยี่ยมชมทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ที่พลิกฟื้นเรือนจำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และอิ่มอร่อยกับร้านอาหารท้องถิ่น ตลอดจนอุดหนุนของดีในพื้นที่และผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อร่วมกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากตลอดเส้นทาง



 ทั้งนี้ กฟผ. มีกำหนดจัดกิจกรรม ‘เที่ยวอุ่นใจ ไปกับน้องเอนจี้ (ENGY)’ ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 จะนำผู้ได้รับสิทธิ์เที่ยวฟรี 3 วัน 2 คืน เส้นทางเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2563 ผู้ร่วมเดินทางจะได้สัมผัสกับแลนด์มาร์คยอดนิยมของ จ.กาญจนบุรี กับสะพานข้ามแม่น้ำแคว ชมวิวพาโนราม่าของเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมเจาะลึกวิถีชีวิตความเชื่อมโยงระหว่างชุมชนกับช้างป่า ผ่าน การเลี้ยงผึ้งกล่อง แนวกั้นธรรมชาติที่ช่วยให้คนและช้างป่าอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน พร้อมสนุกสนานไปกับการล่องแพเปียก และครั้งที่ 3 จะนำผู้ได้รับสิทธิ์เที่ยวฟรี 3 วัน 2 คืน เส้นทางเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2563 ผู้ร่วมเดินทางจะเดินทางขาไปด้วยรถไฟตู้ OTOP Train ขบวนพิเศษ สัมผัสความงดงาม 360 องศา ของเขื่อนวชิราลงกรณกับจุดเช็คอินล่าสุดที่เปิดใหม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกหลายจุด ซึ่งรวมถึงแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ทางเดินกระจกใส ‘เขาแหลมสกายวอล์ค’ กับสไลเดอร์เนินหญ้า พร้อมสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างสะพานมอญ สะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย และนั่งเรือชม วัดใต้น้ำ หรือวัดวังก์วิเวการาม



 จากนั้น จบกิจกรรม ครั้งที่ 4 ด้วยการนำผู้ได้รับสิทธิ์เที่ยวฟรี 3 วัน 2 คืน เส้นทางเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ระหว่างวันที่ 18 – 20 ธันวาคม 2563 ซึมซับศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของจังหวัดตาก ชมความงดงามของทัศนียภาพภายในเขื่อนภูมิพล สัมผัสความเข้มแข็งในการพึ่งพาตนเองของชุมชนรอบพื้นที่เขื่อน พิเศษกับกิจกรรมลอยกระทงสายเมืองตาก และอิ่มเอมใจไปกับอาคารเรือนไทยเฉลิมพระเกียรติ หรือ ‘บ้านของพ่อ’ ที่จัดแสดงพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจต่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขื่อนภูมิพล เขื่อนแห่งแรกในรัชกาล ที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรงานก่อสร้างด้วยพระองค์เอง นับตั้งแต่เริ่มสร้างจวบจนแล้วเสร็จ



 สำหรับ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม และร่วมลุ้นรับสิทธิ์เที่ยวฟรีในกิจกรรม ‘เที่ยวอุ่นใจ ไปกับน้อง ENGY’ ได้ทาง Facebook Fanpage : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นอกจากนั้น ในปีนี้ กฟผ. ยังกำหนดจัด ‘เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ครั้งที่ 16’ ขึ้น โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบ การจัดงาน และระยะเวลาให้สอดรับกับยุค New Normal โดยงานจะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เริ่มวันแรกเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage ของ กฟผ. หรือ เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและประเทศไทยให้ฟื้นฟูจากวิกฤติโควิด – 19 ได้โดยเร็วอีกทางหนึ่ง







 


GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...