วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ที่สุดปรากฏการณ์แห่งความภาคภูมิใจข้ามปี เซ็นทรัลเวิลด์ ฉลองเคาท์ดาวน์ระดับโลกแบบ New Normal ในงาน “centralwOrld bangkOk cOuntdOwn 2021” ตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลังบวกให้กำลังใจคนทั่วโลก ด้วยโชว์ตระการตาใจกลางกรุงเทพฯ ‘A Symbol of Hope’


·          เอกลักษณ์หนึ่งเดียวในไทย! ด้วยการแสดงพลุผสานเทคนิค Digital Synchronization ในรูปแบบสื่อผสม Audio & Visual Graphic Art อลังการบนจอ the panOramix ที่ยาวที่สุดในโลก

              กรุงเทพฯ – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล เซ็นทรัล ภูเก็ต และเซ็นทรัลวิลเลจ จับมือพันธมิตรธุรกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, มาสเตอร์การ์ด, บริษัท แพลน บี มีเดีย จํากัด (มหาชน), บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท วันสามสิบเอ็ด จำกัด (ช่อง ONE 31) สร้างปรากฏการณ์งานเคาท์ดาวน์ข้ามปีรูปแบบ New Normal ระดับโลก centralwOrld bangkOk cOuntdOwn 2021 – A Symbol of Hope” ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ผ่านทางช่อง ONE 31, LINE TV, Bangkok Post, Workpoint Entertainment, Post Today และ centralwOrld Facebook ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลกก็สามารถรับชมการแสดงสุดประทับใจได้ ด้วยเซอร์ไพรส์โชว์เพลงแห่งความหวัง และไฮไลท์นับถอยหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2021 ด้วยไฮไลท์โชว์พลุสุดตระการตาต่อเนื่อง 5 นาที ในธีม A Symbol of Hope’ สร้างสัญลักษณ์แห่งความหวัง เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ส่งต่อพลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก ให้สมกับที่เป็น Times Square แห่งเอเชีย

 


            ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์ทั่วโลกได้พร้อมใจกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน โดยรณรงค์ให้ทุกคนเฉลิมฉลองอยู่ที่บ้าน รวมถึงที่เซ็นทรัลเวิลด์ แลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เมนท์เคาท์ดาวน์ชั้นนำระดับโลกของประเทศมากว่า 20 ปี สำหรับไฮไลท์เด็ดของการฉลองเคาท์ดาวน์ในปีนี้คือพลุฉลองเทศกาลปีใหม่ที่จุดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ A Symbol of Hope สัญลักษณ์แห่งความหวัง ส่งต่อ Meaningful Positivity พลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก มีความตระการตาต่อเนื่องยาว 5 นาที พร้อมผสานเทคนิค Digital Synchronization ในรูปแบบสื่อผสม Audio & Visual Graphic Art อลังการบนจอ the panOramix ที่ยาวที่สุดในโลก ให้สมกับดีกรีแลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ที่ดีที่สุดตลอดกาล ปิดท้ายค่ำคืนด้วยการนับถอยหลังพร้อมกันกับเซ็นทรัลเวิลด์ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2021 ด้วยไฮไลท์พลุสุดตระการตาต่อเนื่อง 5 นาที ในธีม A Symbol of Hope’ สร้างสัญลักษณ์แห่งความหวัง เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ส่งต่อพลังจากคนไทยให้กำลังใจคนทั่วโลก ให้สมกับที่เป็น Times Square แห่งเอเชีย

 

ครั้งแรกกับการชมพลุย้อนหลังแบบ 5G and VR Live Broadcast สุดล้ำ ด้วยการร่วมมือครั้งสำคัญระดับอินเตอร์ กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด (Huawei) และ บริษัท บางกอก โพสต์ จำกัด (มหาชน) หรือ Bangkok Post ให้ทุกท่านได้รับชมการแสดงพลุ  A Symbol of Hope ย้อนหลังแบบจุใจอย่างง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ภายในศูนย์การค้า หรือดาวน์โหลด VR Application เพื่อรับชมแบบคมชัดบนมือถือของท่าน หรือรับชมที่จุด VR Experience ได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 7-18 มกราคม 2564

 


       ความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้การแสดงพลุ A Symbol of Hope ทั้ง 4 องก์ ได้แก่

·       องก์ที่ 1 : Spirit of Togetherness “ความสามัคคี” ของคนทั้งโลก คือวัคซีนล้ำค่า สื่อถึงจิตวิญญาณของผู้คนทั่วโลกที่ร่วมมือร่วมใจกันอย่างสมัครสมานสามัคคี เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19

·       องก์ที่ 2 : Believe in Positivity ส่งต่อ “พลังใจ” สู้ไปด้วยกัน สื่อถึงประกายแห่งความคิดบวก และการร่วมกันส่งพลังใจให้กับเพื่อนร่วมโลก

·       องก์ที่ 3 : Reunite Thailand & Our World เพื่อพวกเรา เพื่อประเทศชาติ เพื่อโลกของเรา พลุสามสี สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีของสีของธงไตรรงค์และสีของปลากัด สัตว์น้ำประจำชาติไทย สื่อถึงความสง่างาม ทรงพลัง อ่อนช้อย แต่มีความเป็นนักสู้อยู่ในตัว

·       องก์ที่ 4 : There is Always Hope ความหวังเป็นพลังของชีวิต พลุหลากหลายสีสัน สื่อถึง diversity ของผู้คนทั่วโลก และเน้นการใช้สีแดง ซี่งเป็นสีของกาชาดสากล เพื่อส่งต่อพลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้าสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19

 

เซ็นทรัลเวิลด์ในฐานะตัวแทนประเทศไทยและแลนด์มาร์กเอ็นเตอร์เทนเมนต์เคาท์ดาวน์ระดับโลกของประเทศมากว่า 20 ปี ขอร่วมส่งต่อพลัง Meaningful Positivity ให้กำลังใจคนทั่วโลก จุดประกายความหวังให้ทุกคนอดทน ไม่ย้อท้อ ช่วยกันส่งผ่านกำลังใจจากคนไทย ให้กับคนทั้งโลกที่กำลังร่วมกันก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปพร้อมกันอย่างเต็มไปด้วยความหวังที่เชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเอาชนะได้ในที่สุด

 


เรามีความห่วงใยในความปลอดภัยและสุขอนามัยของลูกค้าทุกคน และพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในการคุมเข้มมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด ลดความแออัด เน้นวินัย รักษาระยะห่างแบบ New Normal โดยทางเซ็นทรัลพัฒนาพร้อมให้ความร่วมมือกับทางสาธารณสุข และสำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) อย่างเต็มที่ รวมทั้งสร้างมาตรฐาน New Norm ด้วยแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” ที่ออกแบบ Journey การใช้ชีวิตของผู้คนอย่างละเอียดและรอบคอบ ทำให้สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกสถานการณ์ ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย







วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ตำรวจแห่งชาติ-ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยระวังสื่อออนไลน์ ปล้นเงินหมดบัญชี ส่งข้อความ SMS โทรศัพท์ กดลิงค์ อ้างธนาคาร ฃอข้อมูลส่วนตัว ห้ามกดลิงค์เด็ดขาด หากโดน รีบแจ้งความ

 


เร่งจับ ป้องกัน ปราบปราม สร้างการรับรู้กับประชาชน จับคนร้ายได้โทษหนัก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. กล่าวถึง กรณีที่มีการนำเสนอข่าวมิจฉาชีพส่ง ข้อความ SMS หลอกให้ผู้เสียหายหลายรายกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านลิงก์ที่แนบมา โดยอ้างว่าเป็นการอัปเดตข้อมูลกับธนาคาร ต่อมาเงินในบัญชีของผู้เสียหายได้ถูกโอนออกไปจนหมด นั้น

ขอเรียนให้ทราบเพิ่มเติมว่า  การกระทำในลักษณะดังกล่าวเรียกว่า Smishing คือ การอ้างตัวเป็นธนาคารหลอกลวงผู้เสียหายโดยการส่งข้อความ SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ แล้วให้อัปเดตข้อมูลต่างๆ หากไม่อัปเดตจะใช้งานไม่ได้ หรือถูกปิดบัญชี หรืออ้างว่าท่านได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวนมาก หากไม่ยืนยันตัวตน จะเสียโอกาสได้รับรางวัลนั้น, หรืออ้างว่าได้รับการแจ้งว่ามีความผิดทางคดี หากไม่ยืนยันข้อมูล จะถูกดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมแนบลิงก์เว็บไซต์ให้เรากดเข้าไปกรอกข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ ข้อมูลส่วนตัวเชิงลึก เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร วันเดือนปีเกิด รหัสผ่านต่างๆ และ เลข OTP

ซึ่งในเบื้องต้น การกระทำลักษณะดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายอาญา 342 ความผิดฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ, และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 5 เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 7 เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน โทษจำคุกไม่เกิน  2 ปี หรือปรับไม่เกิน  40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, มาตรา 11 ส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ปรับไม่เกิน 100,000บาท และมาตรา 14 (1)โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงภัยจากอาชญากรรมทางออนไลน์  ซึ่งที่ผ่านมามีแนวโน้มขยายวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้กำชับสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย  คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการในการป้องกัน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ให้ถูกลอกหลวงจากผู้ที่ฉวยโอกาสในการกระทำความผิด

รอง โฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน พึงระมัดระวังในการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ  ไม่เปิดลิงก์ที่แนบมาในข้อความ หรืออีเมล เพราะอาจจะเป็นเว็บไซต์ปลอมที่เตรียมไว้หลอกเอาข้อมูล อีกทั้งธนาคารต่างๆ ไม่มีนโยบายในการขอให้ลูกค้าเปิดเผยเลขประจำตัว หรือข้อมูลที่มีความสำคัญอื่นๆ ผ่านช่องทางดังกล่าวโดยเด็ดขาด หากธนาคารจะขอข้อมูลส่วนตัวจะต้องเป็นการขอซึ่งหน้าเท่านั้น  อีกทั้งต้องสังเกตเว็บไซต์ว่าเป็น URL ของธนาคารจริงหรือไม่  เว็บไซต์ที่ถูกต้องจะขึ้นด้วย https:// หรือมีสัญลักษณ์รูปกุญแจเป็นจุดสังเกต รวมทั้งต้องเช็คชื่อเว็บไซต์ว่าถูกต้องตรงกับ Official website ด้วย เพื่อความมั่นใจควรเข้าไปตรวจสอบ URL ของธนาคารนั้นๆ ซึ่งปกติเมื่อพิมพ์ชื่อธนาคารอย่างถูกต้องบน Google จะแสดง official website ของธนาคารนั้นๆ เป็นอันดับแรกอยู่แล้ว สามารถเปรียบเทียบกับชื่อเว็บที่อยู่ใน SMS ได้ทันทีว่าตรงกันหรือไม่  ส่วน LINE สังเกตหน้าชื่อ ของธนาคาร จะมีโล่สีเขียวหรือโล่สีน้ำเงิน เป็นเครื่องหมายยืนยันจากทาง LINE ว่า บัญชีนี้คือ บัญชีทางการ ที่สำคัญคือห้ามส่งมอบรหัส OTP ให้กับผู้อื่นโดยเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม หากท่านถูกหลอกได้เผลอให้ข้อมูลไปแล้ว รีบดำเนินการเปลี่ยนรหัสการทำธุรกรรม และติดต่อธนาคารโดยเร็ว เพื่อขอทำการอายัดบัญชี จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น SMS ที่ได้รับ ลิงก์ที่เข้าไปกรอกข้อมูล ข้อความแจ้งเตือนที่เงินออกจากบัญชี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

สมชาย/อ๊อด..รายงาน

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

นักธุรกิจจิตอาสา ประธานคณะที่ปรึกษาตำรวจกองบัญชาการตำรวจภาค 2 ส่งมอบอุปกรณ์ด้านจราจร ในโครงการถนนปลอดภัยเริ่มที่คุณ กว่า 3 ล้านบาท ตั้งเป้ารนณรงค์ลดอุบัติพื้นที่ตำรวจภาค 2 ให้มากที่สุด

 



ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2  พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ (ผบช.ภ.๒) ได้ทำพิธีรับมอบอุปกรณ์ด้านการจราจร จากนักธุรกิจกิจอาสา นายสมเจตน์  วุฒิเลิศเจริญวงศ์   ประธานคณะที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 และในฐานะประธานบ.EKCO Forging Products Co.,Ltd ที่ได้ส่งมอบอุปกรณ์ด้านการจราจร ในโครงการถนนปลอดภัยเริ่มที่คุณ มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมเสริมกิจกรรม เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.ท.วีระ  จิระวีระ (ผบช.ภ.๒) ที่ยังขาดอุปกรณ์ด้านจราจร 

        โดยประธานคณะที่ปรึกษาผบช.ภ.2 ได้มอบอุปกรณ์จราจร ประกอบด้วย

1.กรวยจราจร จำนวน 4,400 ลูก 

2.ชุดกระบองไฟ พร้อมถ่านไฟฉาย จำนวน 1,600 อัน 

3.หมวกนิรภัย 2,300ใบ 

4.ชุดเสื้อสะท้อนแสง(ชุดใหญ่)  1,000 ชุด

5.สีสเปรย์สำหรับมาร์คจุดอุบัติเหตุ 720 กระป๋อง  

6.ลูกบอลดับเพลิง 240 ลูก 

7. แผ่นไวนิ้วล์ ร่วมรณรงค์โครงการฯจำนวน 1,150 แผ่น

 ซึ่งในงานมอบอุปกรณ์ด้านจราจร ดังกล่าวนี้มีการสาธิตการใช้ลูกบอลดับเพลิงจากผู้เชี่ยวชาญในพิธีส่งมอบด้วย พร้อมกันนั้นยังมีการรับมอบรูปถ่าย และสำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตเพื่อจัดทำเอกสารแสดงตนที่ปรึกษาฯ

       นายสมเจตน์  วุฒิเลิศเจริญวงศ์   ประธานคณะที่ปรึกษาตำรวจภูธรภาค 2 ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการถนนปลอดภัย เริ่มที่คุณจะมีสติกเกอร์ไวนิล ที่แสดงถึงคนใช้รถใช้ถนนว่า ดื่ม ง่วง ห้ามขับขี่  ตัวอักษรรณรงค์ด้วยคำว่า 3 พร้อม   3 มี และ 3 ไม่  3 พร้อมคือ คนพร้อม รถพร้อม ถนนพร้อม   ,  “3 มี คือ มีสติ  มีวินัย และมีน้ำใจ  และ “3 ไม่คือ  ไม่ประมาท ไม่เกิดอุบัติเหตุ  ไม่ต้องไปรพ.  ขับขี่ปลอดภัยเมื่อเลือกใช้อะไหล่คุณภาพเท่านั้น  หรือแม้กระทั่งสติกเกอร์ไวนิล ดื่ม ง่วง ขับ อาจตาย อุบัติเหตุป้องกันได้ วินัยจราจร สะท้อนวินัยชาติ

   โครงการฯดั้งกล่าวนับเป็นโครงการที่ดีที่มีภาคเอกชนมีส่วนร่วมรณรงค์การลดอุบัติเหตุการใช้รถใช้ถนน และส่วนหนึ่งของอุบัติก็มาจากการใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่ไม่ใช่ของแท้และไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดอุบัติเหตุด้วยเหมือนกัน.












วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล" ครั้งที่ 5 คัดทีมชาติลุย ชิงแชมป์โลก 2021 ที่ อยุธยา ปีหน้า


สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมกีฬาจังหวัดตราด จัดการแข่งขันเปตองโครงการเปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล " ครั้งที่ 5 ประจำปี 2563 ที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จังหวัดตราด วันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.2563 เพื่อเฟ้นหานักเปตองเยาวชนชาย-เยาวชนหญิง เป็นตัวแทนทีมชาติไปร่วมการแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก 2021 ที่ พระนครศรีอยุธยา ปีหน้า     

นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.นี้ สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมกีฬาจังหวัดตราด จัดการแข่งขันเปตองโครงการเปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล" ครั้งที่ 5 ประเภทคู่เยาวชนชาย-คู่เยาวชนหญิง ที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จ.ตราด สมาคมกีฬาเปตองฯได้จัดแข่งขันรายการนี้มาอย่างต่อเนื่อง  คาดว่าจะมีทีมเข้าแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 200 กว่าทีม เพื่อส่งเสริมและพัฒนากีฬาเปตองให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น และผลักดันให้เยาวชนได้มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นตัวแทนทีมชาติไทย เตรียมเข้าแข่งขันเปตองชิงแชมป์โลก 2021 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในเดือนพ.ย.2564 

เรืออากาศตรีปรารภ ทองประเทศ เลขาธิการสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการเปตองเยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากลเป็นคนแรก กล่าวว่า โครงการเปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล" จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี2558 ปีนี้เป็นครั้งที่ 5 นับว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาตลอด จนสามารถสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ ขึ้นมาต่อยอดติดทีมชาติรุ่นใหญ่มาแล้วหลายคน อย่างเช่น "คอนโด" ธนากร สังข์แก้ว ที่มาจากโครงการนี้สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม และคว้าแชมป์มาหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาซีเกมส์ ชิงแชมป์เอเชีย และแชมป์โลก ซึ่งถือว่า "คอนโด" เป็นโมเดลสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ๆต่อไป

นอกจากนี้เด็กเยาวชนโครงการนี้ ส่วนใหญ่เป็นเด็กระดับยุวชนอายุ12-13 ปี ที่จะขึ้นมาต่อยอดสู่เยาวชนจนถึงทีมชาติรุ่นใหญ่ได้อีกด้วย เมื่อปี2562ที่ผ่านมา "โฟล" ภีมภส เรือนแก้ว นักกีฬาในโครงการเปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล สามารถคว้าแชมป์โลก 2019 ประเภทชู้ตติ้ง มาครองได้สำเร็จ ที่ กัมพูชา

สำหรับการจัดแข่งเปตองโครงการเปตอง "เยาวชนไทยก้าวไกลสู่สากล" ครั้งที่ 5 จัดที่ สนามเปตองในร่มเทศบาลเมืองตราด จ.ตราด ระหว่างวันเสาร์ที่ 26-อาทิตย์ที่ 27 ธ.ค.2563 เพื่อคัดเลือกเอาทีมเยาวชนชายที่เข้ารอบ 32 ทีม(64 คน) และเยาวชนหญิงที่เข้อรอบ 16 ทีม(32 คน) ไปแข่งขันคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทยต่อไป  เปิดรับสมัครทีมเข้าแข่งขันโดยไม่เสียค่าสมัครแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 16 ธ.ค.นี้  และสามารถถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ สมาคมกีฬาเปตองฯ โทร.02-3197622 หรือที่ 097-1361197     

 

 

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2563

“JKN Spectacular Investment for Life – อลังการเจเคเอ็นอาณาจักรแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืนอลังการงานโชว์ ขนทัพศิลปินดาราดังร่วมงานคับคั่ง เตรียมทะยานสู่หมื่นล้าน

 


(กรุงเทพมหานคร): “แอน - จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ประกาศความยิ่งใหญ่ เปิดตัวธุรกิจใหม่อย่างเต็มภาคภูมิ ในงาน “JKN Spectacular Investment for Life (เจเคเอ็น สเปคแทกคิวลาร์ อินเวสเม้นท์ ฟอร์ ไลฟ์) - อลังการเจเคเอ็นอาณาจักรแห่งการเติบโตอย่างยั่งยืน” ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์เธียเตอร์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน


เปิดงานด้วยความยิ่งใหญ่สุดอลังการโดย “แอน จักรพงษ์” นำทัพศิลปินดาราคนดังทั่วฟ้าเมืองไทย แบบฉบับซุปตาร์มาร์เก็ตติ้ง จัดเต็มโชว์เริ่ด เดินเจิดจรัสบนพรมทอง อาทิ แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์, นาว-ทิสานาฏ ศรศึก, โยชิ-รินรดา ธุระพันธ์, เคิร์ก บอนแดด, เซเลบตัวน้อย แอนดรูว์ - แองเจิ้ล, มาเรียม-เกรย์ อัลคาลาลี่, เบน ชลาทิศ, ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช และ ดู๋-สัญญา คุณากร ปิดท้ายฟินนาเล่ด้วย แอน จักรพงษ์ ควงคู่มากับ ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา ต่อด้วย ทอล์กโชว์ การเดี่ยวไมโครโฟนสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ ซีอีโอข้ามเพศหมื่นล้าน ที่ทุกคนตั้งตารอ 1 ปีมีเพียงครั้งเดียว ที่ฟังแล้วจะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล กับเรื่องราวที่ลิขิตชีวิตสวยด้วยตัวเอง


ในงานชูศักยภาพความแข็งแกร่ง แสดงแสนยานุภาพของอาณาจักรหมื่นล้านเจเคเอ็น สยายปีกรุกธุรกิจใหม่ จากผู้ค้าคอนเทนต์ระดับโลก สู่การเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ-ความงาม ธุรกิจเครื่องดื่ม และธุรกิจบริการด้านความงามและไลฟ์สไตล์ ครบวงจร โดยแบ่งออกเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ

(1) หมวดสินค้าสุขภาพและความงามมี C-TRIA by Anne JKN (ซีเทรีย) ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวสวย ขาว กระจ่างใส, Olig Fiber (โอลิก ไฟเบอร์) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อรูปร่างดีช่วยดีท็อกซ์ปรับสมดุลในลำไส้, V-Allin (วี ออลิน) ช่วยบาลานซ์และปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกาย, Fish Cap (ฟิช แคป) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับเด็ก วัย 1 ขวบขึ้นไป ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทั้ง IQ และ EQ บำรุงสมองและสารสื่อประสาทที่มีผลต่อความจำและสมาธิ, Hair Now (แฮร์ นาว) ผลิตภัณฑ์ปลูกหนวด คิ้ว ผม และบำรุงรากผมให้แข็งแรง

(2) หมวดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ได้แก่ อาหารแห้งและอาหารสำเร็จรูปแบรนด์ หมี่วอย และ ทูฟิต เครื่องดื่มสมุนไพรสกัด และ เครื่องดื่มสมุนไพรสกัดผสมวิตามิน ภายใต้แบรนด์สินค้า CUPID (คิวปิด) และ

(3) หมวดสินค้าบริการด้านความงามและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ ธุรกิจสอนทำอาหาร คลินิกศัลยกรรมตกแต่งความงาม


แอน จักรพงษ์ กล่าวว่า “ในปี 2563 นี้เป็นปีสำคัญที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของ JKN ในทุกด้านบนเส้นทางที่ยิ่งใหญ่นี้ เราก้าวจากการเป็นผู้นำตลาดในการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในภูมิภาคอาเซียน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากมายจากการเลือกสร้างคอนเทนต์ ทำการตลาดที่เชี่ยวชาญเข้าถึงและตรงใจผู้บริโภค วันนี้เราพร้อมนำความเชี่ยวชาญไปต่อยอดสู่ธุรกิจ สำหรับสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญครั้งใหม่ของ JKN ที่ต้องการนำพาบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวสู่การเป็น Content Commerce Company มูลค่า 10,000 ล้าน อย่างเต็มภาคภูมิ”













วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2563

“มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น” ครั้งแรก ประเดิมฉลองสนามในร่มแห่งใหม่ เฟ้นหานักโยนลูกเหล็ก ก้าวสู่ระดับนานาชาติ 

 



สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง เตรียมจัดการแข่งขันเปตอง "มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยเกียรติยศของ "ไกรสีห์ กรรณสูต" นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง พร้อมเงินบำรุงทีมอีก 5 หมื่นกว่าบาท ประเภทคู่ชายและคู่หญิง ที่ สนามเปตองมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ซอยรามคำแหง 9 แขงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. วันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.2563  เพื่อฉลองสนามเปตองในร่ม(อินดอร์)แห่งใหม่ และผลักดันให้นักเปตองก้าวสู่ระดับนานาชาติ ตามมาตราฐานสากล เปิดรับสมัครแบบโอเพ่นไม่จำกัดจำนวนทีม


นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง จัดการแข่งขันเปตอง "มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น" ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงต์เพื่อการส่งเสริมนักกีฬาเปตองชาย-หญิงที่มีฝีมือ มีมาตราฐานการเล่นอยู่ในขั้นก้าวหน้า เข้าสู่ระบบนานาชาติ แบบมาตราฐานสากล ตามนโยบายการพัฒนาเปตองของสมาคมกีฬาเปตองฯต่อไป  

  นายชุริน ภัทรดิลก อุปนายกสมาคมกีฬาเปตองฯ ในฐานะเหรัญญิกมูลนิธิฯ กล่าวว่า การแข่งขันเปตอง "มูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น" ครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลเกียรติยศของ นายไกรสีห์ กรรณสูต นายกสมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง พร้อมเงินบำรุงทีมรวม 56,000 บาท แข่งขัน 2 ประเภทคือ ประเภทคู่ชายและหญิงคู่ ที่ สนามมูลนิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง ซอยรามคำแหง 9 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมาหนคร วันเสาร์ที่ 19 ธ.ค.2563

สำหรับประเภทคู่ชายทีมที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศดังนี้

ทีมแชมป์จะได้รับถ้วยเกียรติยศฯ พร้อมเงินบำรุงทีม 20,000 นาท

อันดับที่ 2 ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินบำรุงทีม 1,0000 บาท

อันดันที่ 3 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินบำรุงทีม 5,000 บาท

ส่วนคู่หญิง ทีมแชมป์ได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินบำรุงทีม 10,000บาท

อันดับที่ 2 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินบำรุงทีม 8,000 บาท

อันดับที่ 3 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินบำรุงทีม 3,000 บาท

นอกจากนี้ทีมที่ชนะเลิศและรองแชมป์อันดับที่1-2 ทั้งประเภทคู่ชาย-คู่หญิง จะได้รับลูกเปตองมาราธอน รุ่น MRT TOUR-S อีกด้วย

ผู้ที่สนใเข้าร่วมการแข่งขันเปตอง "มูลินิธิเพื่อพัฒนากีฬาเปตอง โอเพ่น" ครั้งที่ 1 สามารถติดต่อสมัครได้ที่ สมาคมกีฬาเปตองแห่งประเทศไทย โทร.02-3197622 หรือที่ 097-13611197  ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันแข่งขัน โดยไม่จำกัดจำนวนทีม







วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2563

SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR จัดอบรม “โตไป…ขับเป็น” ให้เยาวชน

 



            เชิญเด็ก และเยาวชน ร่วมกิจกรรม โตไปขับเป็นฝึกขับสนามจำลอง ปลูกฝังวินัยจราจร ฟรี ! ในงาน MOTOR EXPO 2020

ชไมพร ปภัสร์พงษ์ ผู้อำนวยการโครงการ ขับเป็น..ขับปลอดภัย กับสื่อสากล” (SKILL DRIVING EXPERIENCE) เผยว่า กิจกรรม SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR “โตไปขับเป็นในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้เรียนรู้กฎจราจร และฝึกขับขี่ในถนนจำลองที่ปลอดภัย พร้อมรับใบขับขี่รุ่นเยาว์

กิจกรรมใช้เวลารวม 45 นาทีต่อรอบ รอบละไม่เกิน 10 คน แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงอบรมความปลอดภัยในการใช้รถและถนน โดยวิทยากรจากกองบังคับการตำรวจจราจร บรรยายความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ สัญญาณไฟ ความหมายของสัญลักษณ์ และป้ายต่างๆ ส่วนภาคปฎิบัติ จะได้ขับขี่รถบังคับขนาดเล็กในสนามจำลอง ฝึกฝนการมอง และควบคุมพวงมาลัย เพื่อสร้างทักษะการขับขี่ขั้นพื้นฐาน ปลูกฝังการเคารพกฎจราจรให้ขับขี่อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุได้ในอนาคต

โตไปขับเป็น เป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก และเยาวชน อายุระหว่าง 4-8 ปี สูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 30 กิโลกรัม วันธรรมดา อบรม 8 รอบ เวลา 12.00-20.45 น. วันหยุดราชการ อบรม 9 รอบ เวลา 11.00-20.45 น.

ผู้ปกครองนำบุตรหลานไปสมัครอบรมฟรี ! ได้ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” ณ บูธ SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR  ชาลเลนเจอร์ 3 IMPACT เมืองทองธานี ถึงวันที่ 13 ธันวาคม 2563








GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...