วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุยอดนิยม BEST Express แบรนด์ใหญ่ระดับประเทศ

 


ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไทย มีนักลงทุนสนใจอยากซื้อแฟรนไชส์เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีที่ผ่านมา (2563) แฟรนไชส์ประเภทธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนเอกชน เจ้าใหญ่ในตลาดอย่าง BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทย ได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มนักลงทุนทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่มองหาแหล่งรายได้ใหม่และโอกาสทำธุรกิจที่เติบโตเร็ว ทำให้เกิดการขยายสาขาได้มากกว่า 800 สาขาทั่วประเทศ เนื่องจากเทรนด์กระแสพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ออนไลน์และมีกิจกรรมการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งช่องทางอีคอมเมิร์ซกลายเป็นช่องทางที่มีอัตราเติบโตอย่างมหาศาล เฉลี่ย 26-27% ต่อปี และมีมูลค่าเม็ดเงินกว่า 66,000 ล้านบาท จึงส่งแรงผลักดันสร้างโอกาสต่อธุรกิจขนส่งพัสดุพุ่งทะลุมากกว่า 35% ต่อปี

สำหรับแฟรนไชส์ที่มาแรงและมีโอกาสโตในปี พ.ศ. 2564 นี้ จะต้องตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ในเรื่อง ความสะดวก เข้าถึงง่าย ลดการสัมผัส มีความสะอาดสุขอนามัย ใช้งานด้วยระบบดิจิทัลเทคโนโลยีได้ดี และคุ้มค่าการลงทุน ซึ่งได้แก่ แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกซัก ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในทำเลใหม่ ๆ แม้ว่าจะมีการแข่งขันสูงแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่ชอบไลฟ์สไตล์แบบนี้ แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกส่ง ประเภทบริการรับส่งสินค้า บริการแพ็ค และเก็บสินค้า หรือพื้นที่ให้เช่าเก็บสินค้า แฟรนไชส์ธุรกิจร้านสะดวกทาน ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหารไทยตามสั่ง ขนาดพื้นที่ประมาณ 40-50 ตรม. เปิดร้านนอกห้าง และมีบริการ Food Delivery เป็นต้น

 

แนวทางปรับตัวให้อยู่รอดในตลาดธุรกิจขนส่งพัสดุท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นนี้ อีไอซี หรือ Economic Intelligence Center (EIC) หน่วยงานภายใต้ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้แนะ 3 แนวทาง สำหรับปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอด คือ 1. การเป็นพันธมิตรกับ Online platform ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งพัสดุ 2. การสร้างความแตกต่างโดยเน้นให้บริการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และยกระดับการบริการเพื่อสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์ของตัวเอง 3.การสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการขนส่งพัสดุด้วยกันเอง ทั้งรูปแบบของการเป็นเครือข่ายธุรกิจและการร่วมทุนกับบริษัทขนส่งต่างชาติที่ต้องการเปิดตลาดในไทย เช่น BEST Express ที่ใช้โมเดลการขยายธุรกิจแบบเฟรนไชส์ (franchise) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจ “Global to Local (ไม่มีใครรู้จักการทำธุรกิจไปได้ดีไปกว่าคนในท้องถิ่น)” ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

แฟรนไชส์ BEST Express มีเทคนิคง่ายๆ ในการบริหารจัดการและทักษะการทำธุรกิจจนเกิดเป็นกำไรภายใน 6 เดือนแรกอย่างไร

คุณดุษณี  เกษเกษา (คุณนิด) กรรมการบริหาร แฟรนไชส์ BEST Express ศูนย์บริการสาขาสุรินทร์ 1 กล่าวว่า จากที่ได้เปิดแฟรนไชส์ BEST Express มาปีแรก เราประสบความสำเร็จมากด้วยความที่เข้ามาในช่วงจังหวะที่ดีมากของสถานการณ์โควิด ซึ่งเราสามารถคืนทุนได้ตั้งแต่ 6 เดือนแรกจากการทำธุรกิจแฟรนไชส์ รวมถึงในแต่ละเดือนเรามีกำไร 6 หลักขึ้นไปอยู่แล้ว ซึ่งถามว่าเทคนิคในการบริหารคืออะไร เรามองวิกฤตเป็นโอกาสมากกว่า แต่พอมีเรื่องของโควิดเข้ามา เราใช้สื่อโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ ทำการโปรโมทเรื่องของ Marketing เราคัดและสรรหาบุคลากรได้ในต้นทุนที่ต่ำลง เรามีสิทธิ์เลือกพนักงานที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมงานกับเราในต้นทุนที่ค่อนข้างดี เลยทำให้เราสามารถบริหารแล้วมีกำไรเกิดขึ้นในอัตราที่เติบโตค่อนข้างดีมากในช่วงภาวะแบบนี้ ซึ่งหลายคนจะมองว่าสภาวะแบบนี้ไม่น่าลงทุนเลยน่าจะชะลอการลงทุนไว้เก็บเงินสดไว้ดีกว่าแต่ที่จริงไม่ใช่พอเรามาลงทุนในธุรกิจที่ดีไม่ว่าจะภาวะเศรษฐกิจแบบไหนก็สามารถทำให้เรามีกำไรได้เหมือนกัน อย่างที่ BEST Express สาขาสุรินทร์ 1 เมื่อปีที่ผ่านมาเรากล้าการันตีว่าเราได้กำไร 7 หลักขึ้นไปใน 6 เดือนแรก ซึ่งถือว่าผลตอบรับค่อนข้างดีทั้งในตัวของลูกค้าเองและอัตราการเติบโตของกำไรด้วย

 

ลงทุนเป็นแฟรนไชส์หลักกับ BEST Express ที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า

1. ลงทุนเป็นแฟรนไชส์หลัก (First station) จะได้รับเปอร์เซ็นต์ทั้งขารับและขาส่ง: เพราะไม่ว่าจะอยู่ฝั่งรับพัสดุ หรือจัดส่งพัสดุ BEST Express ก็ให้เปอร์เซ็นต์ทั้งสองทาง ต่างจากที่อื่นที่ให้แค่ฝั่งรับพัสดุอย่างเดียว

2. BEST Express ให้กรรมสิทธิ์การขายแฟรนไชส์ในพื้นที่ที่ดูแล: หากมีผู้สนใจต้องการเปิด Shop (หน้าร้าน) หรือ Drop Point (จุดรับพัสดุ) ในพื้นที่ที่แฟรนไชส์หลักดูแลอยู่

3. ตัวแทน BEST Express เติบโตในระยะยาวตั้งแต่ 6 เดือน - 2 ปี: โดยระยะเวลาการเติบโตขึ้นอยู่กับทักษะหลายด้าน คือ ประสบการณ์บริหารงานและการจัดการ การตลาดออนไลน์และออฟไลน์ การเอาตัวรอดทันต่อกระแสตลาดอีคอมเมิร์ซ และการทุ่มเทให้เวลากับธุรกิจ

4. เครือข่ายนักลงทุน พร้อมพัฒนาธุรกิจ: โอกาสร่วมงานกับเครือข่ายนักลงทุน ช่วยพัฒนาธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจร ครอบคลุมทั้งไทย จีน และประเทศอื่น ๆ ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)

5. สนับสนุนด้านการฝึกอบรมธุรกิจ: หากมีโอกาสได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับ BEST Express แฟรนไชส์ เราให้การช่วยเหลือและสนับสนุนด้านการฝึกอบรมเกี่ยวกับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

BEST Express แบรนด์ธุรกิจขนส่งพัสดุดังในระดับประเทศ ติดอันดับ 1 ใน 5 แถวหน้าขนส่งพัสดุชั้นนำ แถมมีซุปตาร์ตัวพ่อของวงการบันเทิงชื่อดัง ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ร่วมกับมาสคอต (Mascot) น้องกวางเบสท์“ หรือ Dear (De ตี้ – Ar เอ๋อ) ซึ่งเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของแบรนด์คู่กับพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเสริมจุดแข็งสร้างความแกร่งให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์มากขึ้น นอกจากการมีพรีเซ็นเตอร์ระดับประเทศแล้ว BEST Express ยังมีแฟรนไชส์ท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ที่มากด้วยประสบการณ์และศักยภาพด้านการบริหารจัดการและการตลาดด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ฉะนั้นจึงการันตีได้ว่าเราประสบความสำเร็จในธุรกิจแฟรนส์ขนส่งพัสดุแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันเรามีปริมาณพัสดุเติบโตจากปี 2563 กว่า 380% และนอกจากนี้เรายังถูกจัดให้อยู่ในแบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนเอกชน เจ้าแรก ที่มีบริการเข้ารับพัสดุ ฟรี ถึงหน้าบ้าน ไม่มีขั้นต่ำ รวมถึงมีบริการแจ้งเตือนสถานะพัสดุอัตโนมัติผ่าน Line Official Account : @BESTExpressTH

 

สำหรับผู้สนใจลงทุนเข้าร่วมเป็น Partner (พาร์ทเนอร์) เปิดแฟรนไชส์หลักกับ BEST Express สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line Official Account โดยค้นหาคำว่า @BESTFSCENTER หรือคลิกลิงก์ที่นี่ https://lin.ee/jj3oCAb


ฉลองครบรอบ 60 ปี “แปซิฟิค เฮลธ์แคร์” สร้างสรรค์แคมเปญตอบแทนสังคม “6 of Pride: 6 โครงการส่งเสริมความยั่งยืน” พร้อมมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมนานต่อเนื่อง 6 ปี

 


บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและการตลาดผลิตภัณฑ์ด้านเวชกรรม อุปกรณ์ทางการแพทย์ โภชนาการ เวชสำอาง และ สินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อสุขภาพ นำโดย ซีริล เฟรเดอริค เบอร์แมน ประธานกรรมการ และ พาทริค โรมัน บรูล์มาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดงาน    6 of Pride: 6 โครงการส่งเสริมความยั่งยืน” ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศไทยและประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการสร้างสรรค์แคมเปญใหญ่ในรอบ 6 ทศวรรษตอบแทนสังคม พร้อมวางแผนดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนต่อเนื่องยาวนาน 6 ปี รวมมูลค่าความช่วยเหลือตลอดโครงการเป็นจำนวน 6,666,666 บาท



ซีริล เฟรเดอริค เบอร์แมน ประธานกรรมการ บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2504 โดย นายฟริทส์ เบอร์แมน ผู้ก่อตั้ง  และในปี พ.ศ. 2564 จะเป็นปีแห่งการครบรอบ 60 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งด้านการขายและการตลาดผลิตภัณฑ์ด้านเวชกรรม โภชนาการ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้ในโรงพยาบาล ทั้งในประเทศไทยและอีก 3 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม พม่า เรามีความภูมิใจภายใต้การดำเนินธุรกิจแบบครอบครัว ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการทำงานร่วมกับคู่ค้าและบุคคลากรต่างๆ  พร้อมส่งมอบคุณภาพและการบริการที่เป็นเลิศแก่เจ้าของผลิตภัณฑ์และลูกค้าของเราด้วยความโปร่งใสและยั่งยืน เรารักและภูมิใจในผลิตภัณฑ์ที่เราจำหน่าย รวมถึงผู้ที่ผลิตสินค้าต่างๆ เหล่านี้กว่า 50 แบรนด์จาก 10 ประเทศทั่วโลก

ในโอกาสครบรอบ 6 ทศวรรษแห่งการดำเนินธุรกิจ เราจึงได้จัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างสรรค์ 6 โครงการโครงการส่งเสริมความยั่งยืน (6 of Pride) ในรูปแบบการดำเนินกิจกรรมเราเรียกว่า Long Term Commitment หรือเป็นคำมั่นสัญญาแห่งความตั้งใจที่จะตอบแทนสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม สู่ชุมชนที่เราอยู่อาศัย ตลอดจนสถานที่ที่เราดำเนินธุรกิจ “เราตั้งใจดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 6 ปี เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว” สำหรับปีนี้จึงเป็นปีแห่งการเริ่มต้นวางรากฐานความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตทั้ง 6 โครงการดำเนินกิจกรรมภายใต้หัวใจแห่งความยั่งยืน 3 ประการ ได้แก่ ด้านสังคม (Social Sustainability), ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) และ ด้านเศรษฐกิจ (Economical Sustainability)  



6         โครงการส่งเสริมความยั่งยืน (6 of Pride) ได้แก่

  1. เศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) ผ่านการสนับสนุนและส่งเสริมสินค้า OTOP เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ภายในบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ของขวัญปีใหม่ ของขวัญเพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ ขณะนี้เราได้ดำเนินการซื้อผ้ามัดย้อมจากวิสาหกิจชุมชนหม้อห้อมทุ่งเจริญย้อมสีธรรมชาติ จ.แพร่ เพื่อนำมาตัดเป็นเสื้อที่ระลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากการสนับสนุนสินค้าของชุมชนแล้ว เรายังเข้าไปเติมเต็มองค์ความรู้ด้านธุรกิจที่ชุมชนยังขาดอยู่ให้ด้วย โดย แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ จะอุดหนุนสินค้าจาก 36 ตำบลตลอดโครงการ
  2. การช่วยเหลือเด็กและเยาวชน (Children and Well-Being) ปีที่ผ่านมา แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ได้ดำเนินกิจกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยเหลือเด็กยากไร้ พิการ กำพร้า แก่ มูลนิธิคุณพ่อเรย์ (Father Ray Foundation) เช่น “แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ร่วมใจวิ่งเพื่อน้องๆ มูลนิธิคุณพ่อเรย์” บริษัทฯ บริจาคเงิน 689,690 บาท และคุณซีริลได้บริจาค 500,000 บาท รวมเป็น 1,189,690 บาท รวมถึงการสนับสนุนมอบผลิตภัณฑ์นมแพะ DG เพื่อส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็ก และในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ และคุณซีริล เฟรเดอริค เบอร์แมน ยังได้ร่วมกันบริจาคเงิน 1,200,000 บาท เพื่อให้มั่นใจว่า คุณภาพชีวิตและการศึกษาของน้องๆ มูลนิธิคุณพ่อเรย์ ยังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เราได้เตรียม กิจกรรม Garage Sale ในเดือนมีนาคม 2564 โดยเปิดโอกาสให้พนักงานที่มีจิตอาสากว่า 300 คนนำสินค้ามือสองและของใช้ส่วนตัวที่ไม่ได้ใช้แล้วมาจำหน่าย เพื่อสมทบทุนเพิ่มเติมให้กับ มูลนิธิคุณพ่อเรย์   

ยิ่งไปกว่านั้น แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ และ คุณซีริล เฟรเดอริค เบอร์แมน ยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการดำรงชีวิตและการศึกษาของเด็กๆ ในสมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ (กลุ่มลูกเหรียง) ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มอบเงินจำนวน  1,200,000 บาท แก่ทางสมาคมฯ และ บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมพาเด็กๆ จากมูลนิธิคุณพ่อเรย์ และเยาวชนจากกลุ่มลูกเหรียงไปร่วมทำกิจกรรมปลูกปะการังและดูแลสัตว์ในมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับเด็กและเยาวชน

  1. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Environmental Conservation) ผ่านกิจกรรม PHC Blue Ocean ปลูกปะการัง คืนความอุดมสมบูรณ์ให้ทะเลแสมสาร จ.ชลบุรี เพื่อให้เกิดเป็นความยั่งยืนทางธรรมชาติ เราจะดำเนินกิจกรรมนี้ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 ปี ปะการังที่ปลูกในแต่ละปีจะค่อยๆ เจริญเติบโตเป็น “ธนาคารปะการัง” (Coral Bank) ที่สามารถนำปะการังเหล่านี้ไปขยายพันธุ์ต่อไป เกิดเป็นประโยชน์ให้กับท้องทะเลไทยได้ตราบนานเท่านาน โดยกิจกรรมนี้จะเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2564
  2. การอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า (Wildlife Preservation) ผ่านมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า วัดเขาลูกช้าง จ.เพชรบุรี เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมภายใต้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  (Environmental Conservation) โดยทางมูลนิธิฯ มีสัตว์กว่า 400 ชีวิตในการดูแลทั้ง ลิง ชะนี ค่าง นางอาย อีเห็น หมี หรือแม้กระทั่งช้างและเสือ สัตว์เหล่านี้มีทั้งที่เป็นสัตว์ป่าตามธรรมชาติและสัตว์ป่าที่ถูกมนุษย์นำมากักขังเลี้ยงดูไว้ บ้างเคยถูกทารุณกรรมและถูกทอดทิ้งมาก่อนที่จะได้มาอยู่ที่มูลนิธิฯ แห่งนี้ ทาง แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ จึงได้จัดพนักงานจิตอาสาที่จะเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ในการฟื้นฟูดูแลสัตว์ต่างๆ  ตลอดจนจัดหาเงินบริจาค อาหารสัตว์ ยาเวชภัณฑ์ ฯลฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า สามารถดำเนินโครงการต่างๆ ต่อไปได้ โดยกิจกรรมนี้คาดว่าจะเริ่มในเดือนพฤษภาคม 2564
  3. การให้โอกาสด้านอาชีพในช่วงสถานการณ์โควิด-19 (Occupational Opportunities) เนื่องจากขณะนี้อยู่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องออกจากงาน มีจำนวนผู้ว่างงานเป็นจำนวนมาก เราจึงได้ร่วมกับศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ที่เปิดอบรมวิชาชีพต่าง ๆ เช่น การสอนทำเบเกอรี่ ขนมไทย งานศิลปหัตถกรรม สอนตัดผม ที่สามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่อาชีพอันมั่นคงให้แก่ประชาชนทั่วไป โดย แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ จะเข้าไปสนับสนุนด้านการจัดหาพื้นที่จำหน่ายสินค้าฟรี เพื่อลดต้นทุนการประกอบธุรกิจให้กับผู้ที่ผ่านการฝึกอาชีพ คาดว่าจะเริ่มในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2564 ซึ่งศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินีฯ ได้มีการอบรมช่างตัดผม เราให้การสนับสนุนช่างตัดผมที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ฯ ไปให้บริการตัดผมให้กับน้องๆ ที่มูลนิธิคุณพ่อเรย์ ปีละ 2 ครั้งในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนในเดือนพฤษภาคม และ ตุลาคม ของทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่อง
  4. การดูแลด้านสุขอนามัย (Healthcare) ผ่านโครงการแพทย์อาสา ทีมงานจาก แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ได้ประสานงานร่วมกับ นพ.สุพัฒน์ ใจงาม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน และทีมบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่เข้าไปทำกิจกรรมออกค่ายแพทย์อาสา ณ  2 หมู่บ้านชาวเขา ได้แก่ บ้านปางคามน้อย และ บ้านผาเผือก ต.แม่ละนา อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน โดยทีมแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรจิตอาสาโรงพยาบาลปางมะผ้า จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพ ส่วนพนักงานจาก บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ที่เดินทางไปด้วยจะให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น สอนการใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือ และการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อที่ชาวชาติพันธุ์บนพื้นที่ห่างไกลจะได้นำความรู้ไปใช้ต่อยอดในการทำงาน และการดำเนินชีวิตต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกิจกรรมในเดือนสิงหาคม 2564


 “สำหรับ แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ความยั่งยืนไม่ได้เกิดขึ้นได้แค่จากกิจกรรมที่เห็นเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่เรายังได้ปลูกฝังความเป็นจิตอาสาของพนักงานด้วย หลายๆ กิจกรรมเราเดินทางไปทำในวันหยุด พนักงานต้องเสียสละเวลาแรงกายแรงใจ ทุกกิจกรรมจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของพนักงาน จนเกิดเป็นความรู้สึกที่อยากจะปกป้องดูแลในสิ่งที่ตนเองมีส่วนร่วม แต่ทั้งนี้ต้องไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นภาระ ไม่ไปเบียดบังเวลา หรือใช้ทรัพยากรมากเกินไป เราเชื่อว่า การปฏิบัติตามแนวคิดนี้จะเกิดเป็นความยินดีที่จะทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความยั่งยืน” ซีริล เฟรเดอริค เบอร์แมน กล่าวถึงหลักความยั่งยืนในการดำเนินกิจกรรมให้สำเร็จ 

ติดต่อสอบถามและติดตามรายละเอียดกิจกรรม 6 โครงการส่งเสริมความยั่งยืน (6 of Pride) เพิ่มเติม ได้ที่ บริษัท แปซิฟิค เฮลธ์แคธ์ (ไทยแลนด์) จำกัด โทร 02-881-2488  หรือ https://www.phc.co.th/ ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ภายใต้ แปซิฟิค เฮลธ์แคร์ ที่นำเสนอสินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ สามารถชมสินค้าและเลือกช้อปออนไลน์ได้ที่  www.allgenhealth.com   




 


วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

เชลล์เปิดเวทีจำลองอนาคต Imagine the Future 2021 เสริมพลังคนรุ่นใหม่ ร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืน

 



กรุงเทพฯ 22 กุมภาพันธ์ 2564 บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด มุ่งส่งเสริมคนรุ่นใหม่เป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ ร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตใน “Imagine the Future Scenarios Competition 2021 Thailand” ซึ่งจัดต่อเนื่องปีที่ 4 เวทีท้าทายวิสัยทัศน์และจินตนาการ นำเสนอแบบจำลองสถานการณ์เมืองแห่งอนาคตและบทบาทของพลังงานเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี เผยยอดผู้สมัครพุ่งสูงถึง 62 ทีม ก่อนคัดเหลือ 6 ทีมสุดท้าย ได้สัมผัสประสบการณ์ Boot camp ยกระดับศักยภาพ ค้นหาทีมผู้ชนะคว้าเงินรางวัล 50,000 บาท และเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวของไทยไปแข่งขันเวทีนานาชาติ


นายปนันท์ ประจวบเหมาะ 

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า Imagine the Future (ITF) เป็นหนึ่งในโครงการที่สนับสนุนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและยั่งยืน เพื่อลงมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในวันนี้สำหรับอนาคต เชลล์ ประเทศไทย เปิดโอกาสให้ทีมที่สมัครเข้าแข่งขันนำเสนอแบบจำลองสถานการณ์อนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้าซึ่งมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ ITF นี้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4  ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีและสร้างกระแสตื่นตัวในการเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ สำหรับคนรุ่นใหม่

เชลล์ ประเทศไทย จะผสานกลยุทธ์ สัดส่วนธุรกิจ และความมุ่งมั่นตั้งใจด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ Empowering Progress เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดสำหรับโจทย์ของคุณภาพชีวิตในปี 2050 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ขณะที่ความต้องการพลังงานมากขึ้น ทุกคนมีบทบาทในการร่วมกันลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและดูแลสังคม สำคัญมากว่ามนุษย์จะอยู่อาศัย ทำงานและใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนบนโลกใบนี้ได้อย่างไร ตามเจตนารมณ์ของเชลล์ การเป็น Trusted Partner for Better Life ต้องเกิดจากความร่วมมือและการช่วยกันออกแบบอนาคตของทุกภาคส่วน ในทุกเจนเนอเรชั่น เชลล์เชื่อมั่นในพลังของคนรุ่นใหม่” นายปนันท์กล่าวเสริม

โครงการ Imagine the Future Scenarios Competition 2021 Thailand ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “More and cleaner energy in Asia Pacific and Middle East Cities in 2050: How will residents live, work, and play?” เป็นการแข่งขันในรูปแบบ Virtual Hybrid โดยมียอดผู้สมัครมากถึง 62 ทีม จาก 21 มหาวิทยาลัย ทั้งนี้มีนิสิตนักศึกษากว่า 400 คนจากมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศในปีนี้ด้วย ที่พิเศษคือแม้เป็นกิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องท่ามกลางข้อจำกัด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ยังได้รับความสนใจและมีการเปิดกว้างสำหรับนักศึกษา อาทิ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มหาวิทยาลัยเดอรัม จากประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ทั้งนี้ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอายุ เพศ หรือประเทศที่อยู่อาศัยของเหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรม


นางสาวฐิติภา ลักษณพิสุทธิ์ 

นางสาวฐิติภา ลักษณพิสุทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด  เปิดเผยว่า เชลล์ได้คัดเลือกและสัมภาษณ์ทีมที่มีคุณสมบัติจากรอบสัมภาษณ์ เข้าสู่รอบรองสุดท้ายจำนวนทั้งสิ้น 6 ทีม ได้แก่ Anonymous Dinosaurs, Cascara Consulting, Global Minds, Grand Mason, Homo Imaginalis, Two Man Down ซึ่งสมาชิกจากทุกทีมจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าสู่ Boot camp โปรแกรมฝึกฝนทักษะและประสบการณ์จากวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้แต่ละทีมเรียนรู้เครื่องมือ Shell Scenarios ซึ่งใช้ในการสร้างแบบจำลองสถานการณ์และเมืองแห่งอนาคตได้อย่างมีหลักการและเต็มไปด้วยจินตนาการไร้ขีดจำกัดของเยาวชนรุ่นใหม่ แต่ละทีมจะนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อตัดสินในรอบชิงชนะเลิศต่อไป ผู้ชนะเลิศในระดับประเทศจะได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ชิงเงินรางวัล 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์

“ไฮไลท์ของการแข่งขันในปีนี้คือ เชลล์เชิญวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและจากนานาชาติมาถ่ายทอดความรู้ใหม่ๆ มุมมองที่เป็นประโยชน์ให้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ และหากการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย เราจะสามารถนำทีมที่ชนะระดับประเทศไทย ไปแข่งระดับภูมิภาค Asia Pacific & Middle East ที่สิงคโปร์ พร้อมเข้าร่วมโปรแกรมพิเศษด้วยตนเองในช่วงเดือนกันยายน 2564 เรามีช่องทางที่ผู้สนใจเกี่ยวกับการแข่งขันและเกี่ยวกับการออกแบบอนาคตสามารถติดตามได้ที่ เฟสบุคเพจ Imagine the Future Competition (https://www.facebook.com/imaginethefuturecompetition/) ทั้งนี้ เป็นโอกาสที่น้องๆ จะได้สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เชื่อมั่นว่าจะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับทุกคนนางสาวฐิติภากล่าวเสริม

การแข่งขัน ITF ในปีนี้ ยังมีอาสาสมัครพนักงานเชลล์ ประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการจำนวน  12 คน โดยจะทำหน้าที่ดูแล ให้คำแนะนำน้องๆ อย่างใกล้ชิด พร้อมด้วยมูลนิธิก้าวไปคู่ไทยซึ่งเป็นมูลนิธิที่ดำเนินการโดยพนักงานเชลล์จะจัดให้มีโครงการส่งเสริมให้ทีมที่เคยร่วมโครงการ ITF ทั้งในปีนี้และปีที่ผ่านมา ได้นำเสนอโครงการเพื่อสังคม ด้านการศึกษาและผู้สูงวัย ต่อยอดศักยภาพและมุมมองในการเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสังคมไทยให้เข้มแข็งอีกด้วย


นายพีรณัฐ สังวรเจต

ด้าน นายพีรณัฐ สังวรเจต ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายธุรกิจจัดหาสินค้า บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด หนึ่งในอาสาสมัครโครงการ ITF กล่าวว่า โจทย์สำคัญของปีนี้คือสถานการณ์ COVID-19 เป็นปัจจัยเร่งการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคตให้เร็วขึ้น เป็นความท้าทายที่ทุกคนต้องร่วมกันรับมือ

การเป็นอาสาสมัครโครงการ ITF สามารถแชร์ประสบการณ์ ให้คำแนะนำแก่เยาวชนนำไปสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันก็ได้เปิดการรับรู้ มุมมองแนวคิดใหม่ๆ ที่หลากหลายและกว้างขวางขึ้น เป็นแนวทางปรับตัวสำหรับการทำงานและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตที่คนหลายๆ รุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบโลกที่เราอยากอยู่อาศัยอย่างมีความสุขและอยากให้เกิดขึ้นจริง”

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.shell.co.th/en_th/energy-and-innovation/imagine-the-future-competition.html

 



วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ บริการใหม่ล่าสุด “Em Quick Drive Thru” จำหน่ายอาหารเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ

 


                  “Em Quick Drive Thru” บริการใหม่ล่าสุดของ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ด้วยการจำหน่ายอาหารเมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อ ระหว่างเวลา 07.00-13.00 น. เฉพาะวันจันทร์ – วันศุกร์ เพื่อให้คุณลูกค้าสะดวกมากยิ่งขึ้นกับการได้ทานของโปรดที่ชื่นชอบกว่า 25 รายการโดยไม่ต้องลงจากรถ ทั้งอาหารจานเดียว ของว่างทานเล่น เบเกอรี่ ในราคา Street Food เริ่มต้นเพียง 29 บาทเท่านั้น อาทิ ข้าวขาหมู ผัดไทยกุ้งสด ราดหน้าหมูหมัก ผัดซีอิ๊ว ข้าวต้มปลากะพง หมูเค็มกับข้าวเหนียว กล้วยทอด ครัวซองต์ ชาไทย กาแฟโบราณ ฯลฯ

                   เชิญเลือกสั่งอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ถูกหลักอนามัยตามมาตรฐาน SHA ในยุค New Normal ที่ซุ้มอาหารบริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมฯ หรือเพียงนัดหมายล่วงหน้า โดยเปิดรับออร์เดอร์ผ่านช่องทางไลน์ @theemeraldhotel  หรือโทร. 0-2276-4567 ดังนี้

 

            07.00 -12.00 น. เพื่อมารับอาหารภายใน 13.00 น. ของวันเดียวกัน

            13.00 - 20.00 น. เพื่อนัดรับอาหารในวันถัดไป

 

เท่านี้คุณก็อิ่มอร่อยได้อย่างง่ายๆ สะดวกสบาย    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.0-2276-4567







วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สทฯ สนามกอล์ฟขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ สนามไดร์ฟ โรงแรม คลับเฮ้าส์ บริการแบบครบวงจร กระแสแรงเกินต้าน ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่แคดดี้ (สวย)

 


ถ้าพูดถึง สนามกอล์ฟชานเมืองย่านรังสิต จ.ปทุมธานี คงไม่มีใครไม่รู้จัก สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สทฯ สนามกอล์ฟขนาดใหญ่ให้บริการถึง 27 หลุม เป็นสนามไดร์ฟ  โรงแรม บริการแบบครบวงจร แถมมีไนท์กอล์ฟบริการสำหรับมนุษย์งาน ชาวออฟฟิศทั้งหลาย เลิกงานก็ไปออกรอบได้จะได้ไม่ต้องหนีงานมาเล่นกอล์ฟให้ตัวเองรู้สึกผิด   

ล่าสุดมีการปรับโฉมรีโนเวทคลับเฮ้าส์ใหม่ หลายท่านที่ได้มีโอกาสไปเยือนถึงกับออกปากชมว่า หรูหรา โอ่อ่า สวย อลังการ และในส่วนล็อคเกอร์ชายมีขนาดใหญ่ รองรับลูกค้าได้นับร้อย  จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่นักกอล์ฟถึงสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สทฯนี้ว่า มาลองแล้วจะรู้สึกว่า ที่นี่ “ไม่ได้มีดีแค่แคดดี้(สวย)”   

สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สทฯ ตอบโจทย์ให้กับทุกเพศทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ก๊วนเพื่อนซ่าส์ท้าดวลวงสวิง  นักกีฬา , นักท่องเที่ยวที่รักสุขภาพ ,นักธุรกิจที่รักการออกกำลังกาย, มนุษย์งานที่อยากพักผ่อนด้วยกีฬาในช่วงเวลาหลังเลิกงาน, รวมถึงครอบครัวที่มีความชอบหลากหลาย   ต้องบอกว่า “สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สทฯ ” เป็นแหล่งรวมกีฬาและสันทนาการแห่งใหม่ของคนรุ่นใหม่จริงๆ ที่สำคัญ มากันได้เป็นหมู่คณะ หรือจะมาเป็นครอบครัว รับรองไม่ผิดหวังจริงๆ
















วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

สงครามระหว่างแมวกับหนูถูกจับขึ้นจอ “Tom & Jerry” ของผู้กำกับ “ทิม สตอรี่”

 



              หนึ่งในการต่อสู้ในประวัติศาสตร์ที่ใคร ๆ ต่างหลงใหลจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อเจอร์รี่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในโรงแรมสุดหรูแห่งเมืองนิวยอร์กก่อน “วันแต่งงานแห่งศตวรรษ” ทำให้ผู้จัดอีเวนท์ต้องจ้างทอมมาช่วยจัดการกับเจอร์รี่ จึงเกิดเรื่องราว “Tom & Jerry” กำกับฯ โดย ทิม สตอรี่ จัดจำหน่ายโดย A Warner Bros. Pictures และ Warner Animation Group นำผลงานจาก a Tim Story Film จัดจำหน่ายโดย วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนท์  สงครามระหว่างแมวกับหนูกำลังจะทำลายทั้งอาชีพของเธอ งานแต่ง และน่าจะรวมถึงโรงแรมด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่า เมื่อพนักงานคนหนึ่งกำลังวางแผนที่จะจัดการทั้งสามออกไป

              ภาพยนตร์สร้างความตื่นตาด้วยการผสมผสานระหว่างภาพแอนิเมชั่นสุดคลาสสิคกับการแสดงไลฟ์แอ็คชั่น การผจญภัยบนจอยักษ์ครั้งใหม่ของทอมและเจอร์รี่มีการเดิมพันครั้งใหม่ และทำให้ตัวละครต้องพบเจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึงอย่าง...การสามัคคีกันเพื่อความอยู่รอด   

              ภาพยนตร์เรื่อง Tom and Jerry” นำแสดงโดย โคลอี้ เกรซ โมเร็ตซ์ (“Neighbors 2: Sorority Rising,” “The Addams Family”), ไมเคิล พีน่า (“Cesar Chavez,” “American Hustle,” “Ant-Man”), โคลิน จอสต์ (“How to be Single,” “Saturday Night Live”), ร็อบ ดีลานีย์ (“Deadpool 2,” “Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw”), พอลลาวี ชาร์ดา (“Lion”), จอร์แดน โบลเกอร์ (“Peaky Blinders”), แพทซี่ เฟอร์แรน (“Darkest Hour”), นิคกี้ แจม (ผลงานทางทีวี “Nicky Jam: El Ganador”), บ็อบบี้ แคนนาเวล (“The Irishman,” “Ant-Man and the Wasp”), ลิล เรล โฮเวอรี่ (ผลงานที่กำลังจะฉาย “Judas and the Black Messiah,” “The Angry Birds Movie 2”) และเค็น จอง (“Crazy Rich Asians,” “The Hangover,” “Transformers: Dark of the Moon”) กำกับฯ โดย ทิม สตอรี่ (“Fantastic Four,” “Think Like a Man,” “Barbershop”) อำนวยการสร้างฯ โดย คริส เดอฟาเรีย (“The LEGO Movie 2,” “Ready Player One,” “Gravity”) งานจากบทฯ ของ เควิน คอสเทลโล สร้างอิงจากตัวละครของวิลเลียม ฮานน่า และ โจเซฟ บาร์บีรา อำนวยการสร้างฯ โดย ทิม สตอรี่, อดัม กู้ดแมน, สตีเวน ฮาร์ดิง, แซม รีจิสเตอร์, เจสซี่ เออร์แมน และ อัลลิสัน แอ็บเบท ทีมงานฝ่ายสร้างสรรค์ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ อลัน สจ๊วต ผู้ออกแบบฉาก เจมส์ แฮมบิดจ์ ผู้ลำดับภาพ ปีเตอร์ เอส. เอลเลียต และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย อลิสัน แม็คคอช ประพันธ์ดนตรีโดยคริสโตเฟอร์ เล็นเนิร์ตซ 

www.TomAndJerryMovie.net














 


วอลท์ ดิสนีย์ ปล่อยตัวอย่าง-โปสเตอร์ “RAYA AND THE LAST DRAGON – รายากับมังกรตัวสุดท้าย” เผยชื่อผู้ให้เสียงพากย์

 



              มีคิวเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 4 มีนาคม 2564 วอลท์ ดิสนีย์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นผจญภัยสุดแฟนตาซีเรื่อง Raya and the Last Dragon – รายากับมังกรตัวสุดท้าย” พร้อมภาพและโปสเตอร์ใหม่ล่าสุดสู่สายตาแฟน ๆ

              Raya and the Last Dragon – รายากับมังกรตัวสุดท้าย” ระดมเหล่านักแสดงมาร่วมพากย์เสียงในแอนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น เคลลี่ มารี ทราน ในบทนักรบสาว รายา, อควาฟิน่า เป็น ซีซู มังกรในตำนาน, เจ็มม่า ชาน ในบท นามาริ คู่ปรับของรายา, แดเนียล เด คิม เป็น เบญจา พ่อผู้มองการไกลของรายา, แซนดร้า โอ รับบท วิรนา แม่ผู้ทรงอำนาจของนามาริ, เบเนดิกท์ หว่อง เป็น ทอง พี่เบิ้มผู้น่าเกรงขาม, ไอแซค หวัง เป็น บุญ พ่อค้าหัวใสวัย 10ขวบ, ธาเลีย ทราน เป็น น้อย ทารกน้อยจอมเจ้าเล่ห์, อลัน ทูไดก์ ให้เสียง ตุ๊กตุ๊ก เพื่อนซี้และพาหนะคู่ใจของรายา, ลูซีล ซุง เป็น แดง ฮู ผู้นำดินแดนกรงเล็บ, แพตตี้ แฮริสัน เป็นผู้นำดินแดนหาง และรอส บัทเลอร์ เป็นผู้นำดินแดนกระดูกสันหลัง

              เราจะพาคอแอนิเมชั่นสู่มหากาพย์การผจญภัยในนครแฟนตาซีแห่งคูมันตรา สถานที่ที่มนุษย์และมังกรอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขมาช้านาน แต่เมื่อพลังมืดอันชั่วร้ายได้เข้าคุกคาม เหล่ามังกรได้เสียสละชีวิตของพวกมัน เพื่อปกป้องมนุษยชาติ 500 ปีผ่านไป ปีศาจตัวเดิมได้กลับมาอีกครั้ง และมันเป็นหน้าที่ของ รายา นักรบสาวผู้กล้าที่จะออกตามหามังกรตัวสุดท้ายในตำนาน เพื่อกอบกู้แผ่นดินและประชาชนที่แตกแยกให้กลับเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางของเธอจะได้เรียนรู้ว่ามันต้องใช้มากกว่ามังกร ในการปกป้องโลก – มันจะต้องใช้ความเชื่อใจและการ่วมมือของทุกคนเช่นกัน

              ดอน ฮอลล์ และคาร์ลอส โลเปซ เอสตราด้า รับหน้าที่ผู้กำกับ, พอล บริคส์ และ จอห์น ริป้า เป็นผู้กำกับร่วม ออสแนท ชูเรอร์ และปีเตอร์ เดล วีโช เป็นผู้อำนวยการสร้าง และ ควิ เกวน และ อเดล ลิม เป็นผู้เขียนบท

              เตรียมพบกับ “Raya and the Last Dragon – รายากับมังกรตัวสุดท้าย” จาก ดิสนีย์ แอนิเมชั่น สตูดิโอส์ 4 มีนาคม 2564

Facebook:  https://www.facebook.com/WaltDisneyThailand

Twitter:  https://twitter.com/DisneyRaya

Instagram:  https://twitter.com/disneythailand

Hashtag: #RayaTH

 

 


GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...