วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Doctor Mek Clinic ปล่อยแคมเปญตรวจ “ดื้อโบ” ฟรี! บริการตรวจยืนยันอาการดื้อโบ เพื่มประสิทธิภาพการปรับรูปหน้า

 

 

               Doctor Mek Clinic (ด็อกเตอร์เมฆคลินิก) นำโดย คุณหมอเมฆ - นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี อาจารย์แพทย์ผิวหนังมากประสบการณ์ด้านโปรแกรมฟิลเลอร์และร้อยไหม จากประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และ คุณหมอแอร์ - แพทย์หญิงพิชญานิน สื่อมโนธรรม ผู้ร่วมก่อตั้ง เปิดให้บริการตรวจ “ดื้อโบ” ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ให้กับผู้ที่กำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังมีอาการดื้อโบหรือไม่ หรือผู้ที่สนใจต้องการตรวจเช็คภาวะดื้อโบ โดยรูปแบบการให้บริการจะเป็นการเจาะเลือด เพื่อนำไปส่งเข้าตรวจในแลปที่โรงพยาบาลศิริราชโดยตรง ซึ่งเป็นแลปที่มีการวิจัยเรื่องโบทูลินัมท็อกซินอย่างจริงจัง สำหรับคนที่สนใจตรวจว่า มีอาการดื้อโบหรือไม่ ? สามารถติดต่อเพื่อขอรายละเอียดได้ที่ Line OA: @doctormekclinic หรือคลิก https://cnx.bz/FC6GQJ

 


 


 

               ทั้งนี้ คุณหมอแอร์ - แพทย์หญิงพิชญานิน สื่อมโนธรรม ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการดื้อโบว่า อาการดื้อโบ คืออาการที่ร่างกายไม่ตอบสนองโบทูลินัมท็อกซินเลย หรือตอบสนองน้อยลง เช่น ฉีดโบลดริ้วรอย รอยย่นหน้าผาก 10 ยูนิต ก่อนหน้านี้เคยอยู่ได้ประมาณ 3 เดือน แต่กลายเป็นว่าพอทำอีกรอบรอบนี้อยู่ได้แค่ 2 เดือน  หรืออาจจะอยู่ได้ถึง 3 เดือน แต่เห็นผลน้อยลง ริ้วรอยหายไปน้อยลงกว่าเดิม ถ้าเราฉีดแบบเดิมต่อไปเรื่อย ๆ แบบไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้เห็นผลน้อยลงเรื่อย ๆ หรือจนถึงไม่เห็นผลเลย ถ้าไม่เห็นผลเลยก็จะเป็นอาการที่คนไข้​​ดื้อโบทูลินัมท็อกซินแบบสมบูรณ์อาการดื้อโบเป็นเรื่องที่มีความอันตรายมาก เพราะถ้าร่างกายดื้อโบทูลินัมท็อกซินแบบสมบูรณ์แล้ว จะทำให้คุณไม่สามารถฉีดโบได้อีกต่อไป และหากเป็นโรคที่ต้องใช้สารโบทูลินัมท็อกซินช่วยในการรักษา จะทำให้มีความยุ่งยากอย่างมาก เพราะโบทูลินัมท็อกซินไม่ได้ใช้แค่สำหรับการลดริ้วรอย ยกกระชับ หรือการลดน่อง ลดกราม เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการรักษาโรคได้ เช่น รักษาไมเกรน ปวดกล้ามเนื้อออฟฟิศซินโดรม รักษาตากระตุก แต่ถ้าเกิดอาการดื้อโบแบบสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถใช้สารโบทูลินัมท็อกซินในการรักษาได้

 

               “โดยปกติเวลาร่างกายได้รับสารแปลกปลอม ร่างกายจะมีการสร้างภูมิคุ้มกัน ดังนั้นเวลาฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้าไป ร่างกายเราจะมีการสร้างกลไกการปกป้องตัวเอง พอเมื่อเราฉีดไปถึงจุดนึงที่มีภูมิคุ้มกันต่อโบทูลินัมท็อกซินเยอะมาก เวลาเรารับหรือเวลาเราฉีดโบทูลินัมท็อกซินเข้ามาอีก โบทูลินัมท็อกซินก็ถูกต่อต้านไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เกิดผลใด ๆ นั่นเอง ซึ่งปัจจัยที่สำคัญมากที่สุดที่ทำให้คนดื้อโบ คือการเลือกใช้โบทูลินัมท็อกซินที่เป็นของปลอม หรือเป็นโบหิ้ว ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการดื้อโบสูงมาก เพราะเป็นตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีประสิทธิภาพ มีสารแปลกปลอมปนเปื้อนสูง และต้องใช้ในปริมาณที่มากเกินกว่าจำเป็น จนทำให้เกิดอาการดื้อโบนั่นเอง ซึ่งสารโบทูลินัมท็อกซินนั้นต้องถูกเก็บรักษาในอุณหภูมิ 2-8 องศาอยู่ตลอดเวลา เพื่อคงประสิทธิภาพของตัวยา ดังนั้นที่ Doctor Mek Clinic (ด็อกเตอร์เมฆคลินิก) เราจะเก็บไว้ในตู้ไวน์ไว้โดยเฉพาะ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ และอีกสาเหตุคือการฉีดถี่จนเกินไป โดยไม่เว้นระยะเวลาให้เหมาะสม ฉีดสลับตำแหน่งไปเรื่อย ๆ ถี่ ๆ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยนอกจากควรใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ได้มาตรฐานแล้ว ระยะเวลาการฉีดควรอยู่ภายใต้การวิเคราะห์และประเมินของแพทย์มากประสบการณ์ค่ะ”

 


 

               คุณหมอเมฆ - นายแพทย์วัชพล ธนมิตรามณี เสริมแนะนำวิธีป้องกันความเสี่ยงอาการดื้อโบเพิ่มเติมว่า “เพื่อป้องการความเสี่ยงของคนไข้ที่จะมีอาการดื้อโบ จำเป็นต้อง

                    1) เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเรา โดยควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์

                    2) ตำแหน่งการฉีด และความถี่ควรได้รับการประเมินและแนะนำจากแพทย์ 

                    3) ปริมาณที่ใช้ ต้องอยู่ภายใต้การประเมินและการดูแลของแพทย์มากประสบการณ์เท่านั้น

                    4) หาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกและแพทย์ผู้ให้บริการ เลือกที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ ไม่ควรเลือกตัดสินใจเพียงแค่ใกล้บ้าน เพราะใบหน้าเรามีเพียงใบหน้าเดียว เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับใบหน้าเรา

                อาการดื้อโบ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาภาวะดื้อโบทูลินัมท็อกซินแบบสมบูรณ์ ทำได้เพียงแค่รอให้ภูมิต้านทานของร่างกายค่อย ๆ ลดและจางหายไปเองในที่สุด ซึ่งใช้เวลาหลายปีมาก ๆ ครับ ดังนั้นถ้าสงสัยว่าตัวเองกำลังมีอาการดื้อโบรึเปล่า ให้เข้ามาตรวจเพื่อยืนยันเพื่อลดโอกาสการดื้อโบแบบสมบูรณ์ ก่อนเพิ่มปริมาณหรือเปลี่ยนยี่ห้อผลิตภัณฑ์เอง

 

ต้องการตรวจอาการดื้อโบ หรือปรึกษาปัญหารูปหน้า

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/doctormekclinic

Line OA: https://cnx.bz/FC6GQJ หรือ @doctormekclinic

 

ข้อมูลจาก: Instagram @doctormekclinic

 


 


 


 


 

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เตรียมพบกับงานนิทรรศการราชทัณฑ์ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “HOPE ความหวัง หลังกำแพง” 29 สิงหาคมนี้

 

               ลบความหลัง สร้างความหวัง ในงานนิทรรศการราชทัณฑ์ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “HOPE ความหวัง หลังกำแพง” ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 4 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 20.00 น. ณ บริเวณสนามหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมกับไฮไลท์  การแสดงจากศิลปิน แพท พาวเวอร์แพท และกิจกรรมและผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังทั่วประเทศที่น่าสนใจอีกมากมาย

               งานนิทรรศการราชทัณฑ์ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 “HOPE ความหวัง หลังกำแพง” ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขัง และทัณฑสถานทั่วประเทศมาไว้ที่นี่ที่เดียว และมีกิจกรรมมากมายจากผู้ต้องขังตลอดทั้ง 7 วัน ได้แก่ การแสดงดนตรีสากล, การแสดงพื้นบ้าน ฯลฯ การประกวดผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง โซนร้านอาหาร จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม จากเรือนจำ/ทัณฑสถาน และหน่วยงานเครือข่าย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังเรือนจำ/ทัณฑสถาน อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน, ภาพวาด, งานแกะสลัก, งานหัตถกรรม รวมกว่า 100 บูธ และที่พลาดไม่ได้คือ โซน โคก หนอง นา”                                

               พื้นที่และแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ ซึ่งใช้แนวคิดการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและการนำเศรษฐกิจทฤษฎีใหม่มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต สำหรับการจัดงานนิทรรศการของกรมราชทัณฑ์นี้ มุ่งหวังให้ผู้ต้องขังมีรายได้เลี้ยงตนเอง และสามารถนำความรู้ความสามารถไปประกอบอาชีพหลังพ้นโทษ

               ร่วมสนับสนุนผู้ก้าวพลาด ให้โอกาสทางสังคมกับบุคคลเหล่านี้อีกครั้ง ด้วยการมาร่วมงานนิทรรศการราชทัณฑ์ ครั้งที่ 53 ประจำปี 2565 “HOPE ความหวัง หลังกำแพง” และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง ของดีมีคุณภาพ ร่วมสร้างความหวัง หลังกำแพง คืนคนดีสู่สังคม ติดต่อสอบถาม ได้ที่ 02 967 3553  พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ เพจ Facebook ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ หรือ Line Official Account : @thaidoc 

รมว.วธ.รับมอบข้อเสนอเชิงนโยบายด้านคุณธรรมของภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒

 

               ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานภาคีเครือข่ายทางสังคม ๖ ภาคส่วน จัดงาน “สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒” ภายใต้แนวคิด “Sustainable with Moral : อยู่รอด อยู่ร่วม สังคมไทยเป็นสุขอย่างยั่งยืน” ในรูปแบบไฮบริดออนไลน์ โดยมี นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ให้เกียรติเข้าร่วมงาน เพื่อรับข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการส่งเสริมคุณธรรม จากภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรม นำโดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ประธานกรรมการจัดงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ผู้บริหาร และผู้แทนภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรม เข้าร่วม ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

               นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า ในวันนี้ กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มารับข้อเสนอในการร่างแผนพัฒนาและส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ระยะที่ ๒ เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมและขับเคลื่อนคุณธรรมวิถีใหม่ สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ของ ๖ ภาคีเครือข่าย ซึ่งผมจะนำข้อเสนอดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ที่มี ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และผมในฐานะรองประธานกรรมการ จะได้ดำเนินการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่วางร่วมกัน เพื่อให้สังคมไทยอุดมไปด้วยสังคมแห่งคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาประเทศสืบต่อไป

               ด้านรองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ประธานกรรมการจัดงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า คณะผู้จัดงานหลักโดยศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) ได้ประมวลสาระสำคัญจากทุกส่วนของการจัดงานสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒ จากภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรมประกอบด้วย องค์กรภาคี ๖ เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายองค์กรภาครัฐ เครือข่ายการศึกษา เครือข่ายภาคประชาสังคม ชุมชน ครอบครัว เครือข่ายธุรกิจเอกชน เครือองค์กรทางศาสนา เด็กและเยาวชน  เครือข่ายสื่อมวลชน และภาคีสมัชชาคุณธรรม ๔ ภูมิภาค  เราตระหนักดีว่าสถานการณ์คุณธรรมในสังคมไทย ต้องได้รับความร่วมมือเพื่อป้องกัน แก้ไข เฝ้าระวัง และส่งเสริมสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยสู่สังคมคุณธรรม ที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาด้านคุณธรรม  การป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ระยะที่ ๒ พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๐ สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติครั้งนี้ เราได้ข้อเสนอที่จะปฏิบัติกันเองในแต่ละเครือข่าย และมติสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติครั้งที่ ๑๒ พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อให้รัฐบาล โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้   

                    ๑. เราจะร่วมกันขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง โดยมุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมที่สะท้อนการมีคุณธรรมทั้ง ๕ ประการ คือ “พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู” ภายใต้หลักธรรมทางศาสนา หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และวิถีวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม โดยขอให้รัฐบาลมีการส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการนี้ ภายใต้บริบทที่เหมาะสมกับสังคมไทย การพัฒนาระบบและการเสริมสร้างขีดความสามารถของกลไกส่งเสริมการเรียนรู้ รวมถึงพัฒนาศักยภาพคนและองค์กรเครือข่าย ให้ครอบคลุมทั่วประเทศและปรากฏเป็นรูปธรรม

                    ๒. เราจะร่วมกันผลักดันการส่งเสริมคุณธรรมให้เป็นวาระของจังหวัด โดยขอให้รัฐบาลส่งเสริม สนับสนุน และผลักดัน ให้มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณธรรมในระดับจังหวัด  สนับสนุนให้มีการจัดตั้งกลไกกลาง ให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายอย่างเป็นเอกภาพ สร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเป็นพี่เลี้ยงเสริมพลังเพื่อขับเคลื่อนคุณธรรมอย่างต่อเนื่อง  โดยเชื่อมโยงกับกลไกสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติในแต่ละเครือข่าย

                    ๓. เราจะมุ่งมั่นพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านการสร้างระบบเครดิตทางสังคม ตามบริบทขององค์กร และพื้นที่ ด้วยการยกย่องเชิดชู และสนับสนุนการทำความดีในทุกรูปแบบ เพื่อให้คนดีมีพื้นที่ยืนและความดีมีพื้นที่ทางสังคม โดยขอให้รัฐบาลมีการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างและขยายผลนวัตกรรมด้านการสร้างระบบเครดิตทางสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

                    ๔. เราจะเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์คุณธรรมอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาด้านคุณธรรมของสังคมไทย  โดยขอให้รัฐบาลสนับสนุนและจัดให้มีการรายงานสถานการณ์คุณธรรมของสังคมไทยเป็นรายจังหวัด ด้วยเครื่องมือดัชนีชี้วัดคุณธรรมและทุนชีวิต การยกระดับมาตรฐานด้านคุณธรรม และพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของคนไทยที่สะท้อนการมีคุณธรรมในแต่ละพื้นที่ของประเทศต่อไป

               โดยประกาศเจตนารมณ์และส่งมอบข้อเสนอเชิงนโยบายด้านคุณธรรมของภาคีเครือข่ายสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๒ ไว้วันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ณ หอศิลป์แห่งชาติ  กระทรวงวัฒนธรรม 

แอน จักรพงษ์ และ JKN18 คว้า 2 รางวัลมณีเมขลา ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565

 

               ตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการคอนเทนต์และความบันเทิงระดับเอเชีย และตอกย้ำความเป็นสื่อบันเทิงแถวหน้าของไทย ของกลุ่มบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยคุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ที่คว้า 2 รางวัลสำคัญยิ่งใหญ่จากงานประกาศรางวัลมณีเมขลา ครั้งที่ 3 ประจำปี 2565 จัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย เพื่อให้รางวัลเชิดชูเกียรติ เป็นขวัญกำลังใจให้แก่องค์กร บุคลากรสื่อมวลชน ศิลปิน นักแสดงในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม ด้วยความตระหนักถึงอุดมการณ์ของวิชาชีพอันนำไปสู่การพัฒนาองค์กร แวดวงและสร้างประโยชน์ให้กับสังคมไทย งานถูกจัดขึ้น ณ  ULTRA ARENA HALL ชั้น 5 ศูนย์การค้า SHOW DC

               โดย คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในสาขารางวัลที่มีชื่อว่า “รางวัลมณีเมขลา สาขา ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการบันเทิงไทย” และในขณะเดียวกันช่อง JKN18 ภายใต้การกุมบังเหียนของคุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ นั้นก็ได้รับอีกหนึ่งรางวัลอันทรงเกียรติ “รางวัลมณีเมขลา สาขา สถานีโทรทัศน์นำเสนอบันเทิงเอเชียดีเด่น” โอกาสนี้คุณร่มเกล้า อมาตยกุล และคุณอัครพล ทองธราดล ผู้ประกาศข่าวช่อง JKN18 เป็นผู้แทนเข้ารับรางวัลดังกล่าว

วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565

WMA พลิกโลกสุขภาพเปิดหลักสูตรเวชศาสตร์ชะลอวัยเรียนรู้การป้องกันโรคร้ายก่อนสายเกินแก้ ชูสโลแกน “เมื่อเป้าหมาย 100 ปี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”

 

               บริษัท เวิล์ด เมดิคัล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (World Medical Alliance หรือ WMA) ร่วม ด้วย บริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด และโรงพยาบาลพานาซี จัดงาน CANABLISS HEALTH FAIR ณ ห้าง Emquartier ระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2565 ประกาศเปิดตัวโรงพยาบาลในรูปโฉมใหม่ Panacee Eternity พร้อมเปิดตัวหลักสูตร WMA WELLNESS COACHING PROGRAM หลักสูตรที่เปิดโลกด้านสุขภาพแห่งเวชศาสตร์ชะลอวัยเพี่อให้คุณและครอบครัวมีสุขภาพที่ดีตลอดอายุขัย พลิกโลกสุขภาพเพี่อคนไทยอีกครั้งกับการ เรียนรู้เพื่อป้องกันโรคร้ายก่อนสายเกินแก้ พุ่งเป้าย้ำแนวคิด “สุขภาพดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องทำเอง” พร้อม ชูสโลแกน “เมื่อเป้าหมาย100ปี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” มั่นใจเป้าหมายในการใช้ชีวิตในปีที่100ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด

นางศิริญา เทพเจริญ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิล์ด เมดิคัล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

               นางศิริญา เทพเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิล์ด เมดิคัล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ริเริ่มหลักสูตร WMA WELLNESS COACHING PROGRAM  กล่าวว่า  ที่มาของหลักสูตรด้านสุขภาพแห่งเวชศาสตร์ชะลอวัยมาจากแนวคิดที่อยากให้ประเทศไทยเป็นสังคมของคนมีสุขภาพที่ดี ตอบรับเทรนด์สุขภาพของโลก ตอบรับอัตราการที่คนทั่วโลกจะมีอายุที่ยืนยาวขึ้น กระแสเวลเนส ทำให้เกิดการดูแลสุขภาพ “เชิงป้องกัน” และการตรวจสุขภาพเชิงรุกคือ การตรวจหา การจะเกิดขึ้นของโรค เพื่อป้องกันโรคไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก การตรวจสุขภาพเชิงรุกของศาสตร์แห่งเวชศาสตร์ชะลอวัยจึงถือเป็นการตอบโจทย์ เพราะถ้าเราพบเจอก่อน เราจะสามารถป้องกันได้ และจะไม่ต้องเจ็บปวดกับการรักษาโรคระยะสุดท้าย ซึ่งบางครั้งอาจไม่มีวันรักษาได้อีกแล้ว  โรคร้ายหลายโรค เขามีระยะฟักตัวก่อนจะแสดงอาการหลายปี อย่างมะเร็ง หรือเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก โรคร้ายหลายโรคกว่าจะรู้ตัวก็มักจะเป็นช่วงขั้นสุดท้ายที่รักษาไม่ได้แล้ว แต่หลักสูตรนี้ จะให้เราสามารถรู้ทันร่างกายเรา รู้ตั้งแต่เริ่มว่า ถ้ามีเหตุนี้ จะนำไปสู่เหตุนั้น เมื่อเรารู้ทันโรค เราก็มีวิธีป้องกันก่อนจะต้องมารักษา ถ้าร่างกายเราขาดเราก็เติม ถ้ามันเกินเราก็พร่องออก

               หลักสูตร “WMA WELLNESS COACHING PROGRAM“ เราจัดอบรมโดยแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในเรื่องศาสตร์ชะลอวัยของโรงพยาบาลพานาซี  หลักสูตรที่ออกแบบโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านเวชศาสตร์  บูรณาการ ค้นหาจุดอ่อน ความเสี่ยง โรคเรื้อรังซ่อนเร้น และออกแบบการดูแลรักษาเป็นรายบุคคล เพื่อ “ปักหมุดหมายสุขภาพดี” ให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดอายุขัย  รวมทั้งเรายังสามารถเป็นโค้ชไปดูแลครอบครัว เพื่อนฝูงให้รู้ทันโรค ป้องกันก่อนเกิดโรค มีความสุขด้วยสุขภาพที่ดีใช้ชีวิตอย่างสมดุล   แข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ เป้าหมายอายุ 100 ปี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” คุณศิริญา กล่าว

               ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดหลักสูตร WMA WELLNESS COACHING PROGRAM เพิ่มเติมได้ที่ http://www.morhello.com   หรือ  Line : @morhello Tel.1608 

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565

CIO (ซีโอ้) ผู้นำเทรนด์นวัตกรรมอาหาร Functional Ingredients ผสานนวัตกรรมเหรียญทองจากสวิตฯ Cell Enhanz ขึ้นแท่นผู้นำแบรนด์อาหารเสริมที่ช่วยดูแลสุขภาพให้ดีและมีความสุข!

 

               สถานการณ์ปัจจุบันที่มีทั้งวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด 19 โรคฝีดาษลิง การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้คนหันมาตระหนักถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากยิ่งขึ้น การดูแลสุขภาพในแบบเดิมอาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน จึงมีเทรนด์การดูแลสุขภาพแบบใหม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเทรนด์อาหารแห่งอนาคตอย่าง อาหารฟังก์ชัน” หรือ Functional Food” ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในปัจจุบัน

               โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน) หรือ TCELS ได้จัดทำโครงการการวิจัย พัฒนา และทดสอบทางคลินิก สำหรับอาหารฟังก์ชัน เพื่อช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการวิจัยและพัฒนาอาหารฟังก์ชันและ Functional Ingredients รวมทั้งการวิจัยคลินิกร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้เกิดความมั่นใจต่อนวัตกรรมของอาหารแห่งอนาคต และเป็นโอกาสหนึ่งของผู้ประกอบการที่จะใช้นวัตกรรมด้านอาหารในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น

               อาหารฟังก์ชัน หรือ Functional Food คือ อาหารที่บริโภคเหมือนอาหารปกติทั่วไป แต่ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง อาจจะนิยามว่าเป็นอาหารที่ไม่ได้กินเพื่อหวังผลในการทำให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเดียว แต่รวมถึงการที่กินแล้วช่วยบำรุงร่างกาย และช่วยในการดูแลรักษาร่างกายเพื่อลดอาหารเจ็บป่วยได้ด้วย

               โดยสารประกอบที่ให้เกิดผลทางสรีรวิทยาเราเรียกว่า Physiologically Active Component หรือ Functional ingredients สามารถแบ่งออกมาได้หลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเส้นใยอาหาร (dietary fiber) เปปไทด์ (peptide) เชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่ม lactic acid bacteria กรดไขมันไม่อิ่มตัวในกลุ่ม โอเมก้า 3 (omega 3 – polyunsaturated fatty acid) สารพฤกษเคมี (phytochemicals)และ กลุ่มเกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ (Mineral and Vitamin) เป็นต้น

               ตัวอย่าง Functional ingredients ที่พบในผลิตภัณฑ์ Functional food เช่น Elderberry ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์ป้องกันไวรัส Manuka Honey มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ต้านลึกถึงระดับเซลล์ Ginger สารสกัดจากขิง ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค Ashwa-Extract โสม Ashwa ช่วยบรรเทาความเครียด ลดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ Chamomile สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ให้ความผ่อนคลาย ส่งผลต่อคุณภาพการพักผ่อนที่ดียิ่งขึ้น Red Marine Algae สารสกัดจากสาหร่ายแดง ลดอาการปวด และอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ Turmeric สารสกัดจากขมิ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เป็นต้น

               CIO SPECIALIST TEAM หรือทีมนักวิจัยจาก CIO ร่วมกันวิจัยและพัฒนาสูตรอาหารเสริม โดยการนำนวัตกรรม Functional Ingredients มาช่วยในการเลือกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ มาผสมผสานอย่างลงตัว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น สารสกัดที่มีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยปัจจุบันมีปัญหาโรคระบาดโควิด 19 และโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ คนส่วนมากจึงเริ่มสนใจการดูแลตัวเองโดยการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายจากการกินอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันมากขึ้น Functional Ingredients ที่มีส่วนช่วยเรื่องสร้างภูมิคุ้มกันจึงเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

               สารสกัดที่มีส่วนช่วยในการผ่อนคลาย และส่งเสริมการนอนอย่างมีคุณภาพ จากภาวะเศรษฐกิจและโรคระบาดอาจจะทำให้ผู้คนมีความเครียดสะสม จนกลายเป็นปัญหาการนอนไม่หลับ กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องการนอนจึงให้ความสำคัญกับอาหารเสริมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น เพราะสารที่ช่วยออกฤทธิ์จากธรรมชาติมีประสิทธิภาพมากกว่าและไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกาย ไม่ทำให้อ่อนเพลียอย่างเช่นการกินยานอนหลับ 

               สารสกัดที่มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและข้อให้แข็งแรง ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นประสาท สารช่วยออกฤทธิ์เหล่านี้จะตอบโจทย์กลุ่มคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูกและข้อต่อ หรือพนักงานออฟฟิศที่อาจจะต้องนั่งทำงานด้วยท่าเดิมนานๆ จนกลายเป็นออฟฟิศซินโดรม การเลือกกิน Fucntional Food จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาและรักษากลุ่มคนที่มีอาการเหล่านี้

               CIO SPECIALIST TEAM ให้ความสำคัญกับการเลือก Fuctional ingredients และการนำสารสกัดเหล่านั้นมาผสมผสานกันอย่างพอเหมาะพอดีเพราะ หัวใจสำคัญของอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพ คือการเลือกส่วนผสมสำคัญที่ทรงคุณค่า ผสานรวมในจังหวะที่พอเหมาะ เพื่อให้ได้รสชาติที่รับประทานแล้วมีความสุขต่อผู้บริโภค ที่ต้องการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

               นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานกับ Cell Enhanz นวัตกรรมเหรียญทอง 2021Inventions Geneva ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เทคโนโลยีขั้นสูงที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% ซึ่งเป็นสารสกัดสำคัญ ที่ช่วยนำพาสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกาย ออกฤทธิ์ได้อย่างตรงจุด พร้อมทั้งช่วยเร่งประสิทธิภาพในการนำสารอาหารไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งผลต่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

               ปัจจุบัน CIO มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบเจลลี่ที่ทำออกมาเพื่อให้รับประทานง่ายและดูดซึมได้เร็วยิ่งขึ้น

                    1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อิมมู พลัส กลิ่นเอลเดอร์เบอร์รี (IMU PLUS DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT ELDERBERRY FLAVOR) ช่วยเสริมสร้างเกราะแห่งภูมิคุ้มกัน ผสานพลังวิตามินซีช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างสุขภาพดีจากคุณประโยชน์สูงสุดของสารสกัดธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ร่วมกับสมุนไพรไทยที่มีผลงานวิจัยระดับโลก

Innovative premium ingredients

– Elderberry ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์ป้องกันไวรัส

– Manuka Honey มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ต้านลึกถึงระดับเซลล์

– Ginger สารสกัดจากขิง ป้องกันการติดเชื้อ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค

– Quali-C วิตามินซีคุณภาพสูง บำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด

– Zinc Gluconate แร่ธาตุสังกะสีดูดซึมง่าย เพิ่มประสิทธิภาพระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยเพิ่มการตื่นตัว

– Vitamin D3 ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน ในการป้องกันการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ รสหวานอมเปรี้ยว สดชื่นจากเอลเดอร์เบอร์รี อร่อย รับประทานง่าย ปลุกความกระปรี้กระเปร่าระหว่างวัน

                    2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไนท์พลัส (NIGHT PLUS DIETARY SUPPLEMENT PRODUCTCHAMOMILE HONEY LEMONFLAVOR) อุดมไปด้วยสารสกัดที่มีส่วนช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า ขจัดความเครียดสะสม และช่วยส่งเสริมให้มีการพักผ่อนที่ดียิ่งขึ้น

Innovative premium ingredients

– Ashwa-Extract โสม Ashwa สกัดด้วยเทคโนโลยีจากอเมริกา ช่วยบรรเทาความเครียด ลดความเหนื่อยล้าทางอารมณ์

– Chamomile สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ให้ความผ่อนคลาย ส่งผลต่อคุณภาพการพักผ่อนที่ดียิ่งขึ้น

– Inositol สารสกัดจากจมูกข้าว มีส่วนช่วยฟื้นฟูคุณภาพการพักผ่อน

– Magnesium ลดอาการนอนหลับยากในเวลากลางคืน ลดอาการอ่อนเพลียในเวลากลางวัน

– L-Theanine บรรเทาความเครียด

– Black Sesame บรรเทาความเครียดและวิตกกังวล รสชาติแห่งความผ่อนคลาย หอมกลิ่นคาโมมายล์ รสหวานนุ่มนวล จากน้ำผึ้ง

                    3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออฟฟิศ พลัส กลิ่นส้ม (OFFICE PLUS DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT CITRUS FLAVOR) ช่วยบํารุงกระดูกและข้อให้แข็งแรง ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ และเส้นประสาท จากคุณประโยชน์สูงสุดของสารสกัดธรรมชาติชั้นเยี่ยมที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ร่วมกับสมุนไพรไทยที่มีผลงานวิจัยระดับโลก เพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม

Innovative premium ingredients

– Red Marine Algae สารสกัดจากสาหร่ายแดง ลดอาการปวด และอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

– Turmeric (TH) สารสกัดจากขมิ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อต่อ

– Calcium L-threonate สารสกัดจากข้าวโพด มีอนุภาคเล็ก ดูดซึมง่าย

– Black Sesame ต้านอาการอักเสบรูมาตอยด์

– Vitamin D ลดอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อ

               การนำ Innovative premium ingredients หรือนวัตกรรมส่วนผสมระดับพรีเมียมมาผสมผสานกันอย่างลงตัวถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าจับตามอง CIO specialist team ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Functional ingredients จึงเลือกนำนวัตกรรมเหล่านี้มาผสานกับ Cell Enhanz ที่สกัดจากธรรมชาติ ทำหน้าที่เป็น Co-Supplement เพื่อเพิ่มการดูดซึม และการนำไปใช้ประโยชน์ ทำให้สามารถใช้สารสกัดระดับพรีเมียมหรือสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในปริมาณที่น้อย แต่ดูดซึมได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้บริโภคอย่างสูงสุด ซึ่งหัวใจสำคัญของ CIO คือการเลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพมาผสานรวมกับนวัตกรรมสุดล้ำสมัยในจังหวะที่พอเหมาะ พร้อมกับการดูแลสุขภาพให้ดีแบบมีความสุขในทุกวัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกสู่ตลาดของ CIO คือส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมวงการอาหารเสริมของไทยโดยแท้จริง

Facebook : https://pxlme.me/7zbEYGjr

Shopee : https://pxlme.me/IMKlk_5l

Lazada : https://pxlme.me/BwZuOx5d

GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...