วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

FWD ประกันชีวิต ลุยสร้าง Brand Experience ผ่าน Music ชวนทุกคนมาสนุก สร้างความสุข นำทัพศิลปินสุดฮอต บุกสยาม กับ “FWD Music Live Fest”

 

          FWD ประกันชีวิต รุกหนักอย่างต่อเนื่องกับกลยุทธ์ Brand Experience ผ่าน Music สร้างการจดจำแบรนด์เพื่อให้เข้าไปอยู่ในใจและไลฟ์สไตล์ของผู้คน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับงาน “FWD Music Live Fest” ขนทัพศิลปินวัยรุ่นสุดฮอตสร้างความสุขกับเพลงฮิตติดชาร์ต ระเบิดความมันส์แบบจัดเต็ม พร้อมเปิดเวทีให้น้องๆ School Band ปล่อยพลังโชว์ความสามารถทั้งร้อง เต้น เล่นดนตรี เพื่อให้ทุกคนได้ Celebrate living ในทุกๆวัน พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมอีกมากมายตลอด 4 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 25 – 28 พฤษภาคม 2566 นี้ ณ ลานอัฒจันทร์ Siam Square One

          นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า งาน “FWD Music Live Fest” นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ Brand Experience ของ FWD ประกันชีวิต ที่ยังคงเน้นย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตที่แตกต่าง สะท้อน vision การเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต โดยการสื่อสารแบรนด์ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส หรือ 5 sensory ในคอนเซ็ปต์ “Experience of Celebrate living” ครั้งนี้เราใช้ Music Experience เป็นสื่อกลางในการคอนเนคให้ทุกคนได้ Celebrate living ในทุกๆวัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เป็นนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่ young at heart มีความคิดสร้างสรรค์ มองโลกในแง่ดี และพร้อมเปิดใจให้กับประกันชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับผลวิจัยที่เราศึกษามาอย่างต่อเนื่องจาก YPulse Survey* (2022) และ Facebook Business** (2023) ที่พบว่า ดนตรี (Music) เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กลุ่มคน Young Generation สนใจ ชื่นชอบเป็นลำดับต้นๆ และพร้อมให้การสนับสนุนแบรนด์ที่จัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับดนตรี

          “หลักสำคัญของการกลยุทธ์ในการสร้าง Brand Experience ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว แต่จะต้องทำให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่จับต้องได้ และเข้าไปอยู่ในใจและไลฟ์สไตล์ของผู้คน ทำให้ผู้บริโภคเกิดความคุ้นเคย ใกล้ชิด และจดจำแบรนด์ได้อย่างชัดเจน โดยการจัดงาน “FWD Music Live Fest” มีแนวคิดการจัดงานที่สะท้อนความเป็นแบรนด์ FWD ประกันชีวิต คือ Innovative และ Differentiate ในการสร้างสรรค์จากความคิดริเริ่มที่ต้องการจัดงานเกี่ยวกับดนตรีที่มีเอกลักษณ์ แปลกใหม่ แตกต่าง และไม่เหมือนใคร จึงจัดงานเป็น Music Live Festival ที่มากกว่าการจัดคอนเสิร์ตแบบทั่วไป ด้วยการจัดงานต่อเนื่อง 4 วันเป็นครั้งแรกในธุรกิจประกันชีวิต พร้อมจัดเวที เต็มด้วย แสงสีเสียง สร้างพื้นที่เปิดเวทีให้น้องๆ School Band ได้แสดงออกในเชิงสร้างสรรค์อย่างรอบด้าน ทั้งร้อง เต้น เล่นดนตรี บนพื้นที่เดียวกับศิลปินชั้นนำ” นางสาวปวริศา กล่าว

          กิจกรรม “FWD Music Live Fest” จัดขึ้นทั้งหมด 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 – 28 พฤษภาคม 2566 ณ ลานอัฒจันทร์ Siam Square One ลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้างานเวลา 14:00 น. และคอนเสิร์ตเริ่มเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป รวมถึงยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเพื่อรับของรางวัลอีกมากมาย โดยภายในงานมีศิลปินนักร้องชื่อดัง ได้แก่

วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566              พบกับ PROUD (พราว) DISRUPTOR (ดิสรัพเตอร์) Yes Indeed (เยส อินดี้ด)  

                                                             INK WARUNTORN (อิ้งค์ วรันธร) Club After Class (คลับอาฟเตอร์คลาส)                 

                                                             และ NONT TANONT (นนท์ ธนนท์)

วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566        พบกับ LINISE (ลีนิช) SIXTH FLOOR (ซิกซ์ฟลอร์) Bonnadol (บอนซ์ ณดล) PiXXiE (พิกซี่) POLYCAT (โพลีแคท) และ MEAN (มีน)

วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566        พบกับ I LOVE WEDNESDAY (ไอเลิฟเว้นส์เดย์) MARKET FEEL (มาร์เก็ตฟิล) New Country (นิวคันทรี่) Ally (แอลลี่) Season Five (ซีซันไฟฟ์) Lipta (ลิปตา)

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2566   พบกับ SG (เอสจี) NAÏVE (นาอีฟ) Zom Marie (ส้ม มารี) Atom Chanakan (อะตอม
                                                             ชนกันต์) และ COCKTAIL (ค็อกเทล)

          “FWD ประกันชีวิต หวังว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข ได้ Celebrate living ในทุกๆวัน และได้รับรู้และเข้าถึงแบรนด์ FWD ประกันชีวิต มากขึ้น เพราะ Music เป็นสื่อกลางที่มีประสิทธิภาพในการสร้างคอนเนคชั่นให้เกิดขึ้นร่วมกันระหว่างกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และเรายังมีแผนสร้าง Brand Experience ในอีกหลากหลายรูปแบบที่อยากให้รอติดตาม เพื่อทำให้ FWD ประกันชีวิต ได้เข้าไปอยู่ในใจและใกล้ชิดกับทุกคนมากยิ่งขึ้น” นางสาวปวริศา กล่าวทิ้งท้าย

วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

OYO ปลื้มจับมือโรงแรมพันธมิตรในไทย ปั้นรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 6 เดือน

 

          OYO ปลื้มจับมือโรงแรมพันธมิตรในไทย ปั้นรายได้เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 6 เดือน มีเครือข่ายโรงแรมกว่า 170 แห่ง ให้บริการแตกต่างกันตั้งแต่ที่พักราคาประหยัดจนถึงระดับพรีเมียม  เผยโรงแรมในภูเก็ตทำรายได้สูงสุด รองลงมาคือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา

          นาย แอนคิด แทนดอน (Ankit Tandon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ (CBO) ระดับโลกและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง  OYO กล่าวว่า OYO เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านบริการระดับโลก  แถลงผลประกอบการรายได้ หรือ Gross Booking Value (GBV) ของโรงแรมที่เป็นพันธมิตรในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา  มีรายได้เฉลี่ยต่อโรงแรมสูงขึ้นเป็น ประมาณ 20,000 ดอลล่าร์ (ต.ค.22-มี.ค.23)  จาก 10,000 ดอลล่าร์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า (เม.ย.-ก.ย.22)  OYO มีเครือข่ายในประเทศไทยกระจายอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่นพัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่ และเมืองธุรกิจ เช่น กรุงเทพฯ, ระยอง, ชลบุรี มีเครือข่ายโรงแรมกว่า 170 แห่ง กระจายทั่วประเทศไทย ที่ให้บริการหลากหลายตั้งแต่ราคาประหยัดจนถึงบริการระดับพรีเมียม โดยโรงแรมในภูเก็ตทำรายได้สูงสุด รองลงมาคือ เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา

          ผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในภาพรวมนั้นเกิดจาก OYO ได้นำชุดเทคโนโลยีทันสมัย มาใช้ร่วมกับโรงแรมพันธมิตรเพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการ  เพิ่มการมองเห็นในโฆษณาหาห้องพัก โดยแอพพลิเคชั่น Co-OYO ได้เปิดโอกาสให้โรงแรมต่างๆ เสนอโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อช่วยเพิ่มอัตราการเข้าพักและสนับสนุนการเพิ่มรายได้ เว็ปไซต์และแอพลิเคชั่นของ OYO มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่จำนวนมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก  ล่าสุดได้เปิดบริการ “ชำระเงินที่โรงแรม” เพื่ออำนวยความสะดวกและยืดหยุ่นให้แขกที่เข้าพักเพิ่มขึ้น และยังมีเครื่องมือ OYO 360 ที่ใช้ AI รองรับการใช้งานด้วยตัวเองอย่างง่ายเพียงปลายนิ้ว ทำให้โรงแรมใหม่ ๆ ที่ต้องการเป็นพันธมิตรกับเราได้ง่ายขึ้น คลิก 2 ครั้งเพื่อลงทะเบียนบนแพลตฟอร์มและกดครั้งเดียวโรงแรมก็พร้อมให้บริการได้ภายใน 30 นาที 

          OYO ได้ช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วย เครื่องมืออัตโนมัติ เช่น AI chatbots เพื่อช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โปรแกรมที่เชื่อถือได้ และมีความสะดวกในการชำระเงินคืนเมื่อต้องการ ส่วนลูกค้าเลือกใช้บริการค้นหาที่พักจาก OYO Platform ด้วยหลายเหตุผล ทั้งคุณภาพของที่พัก  ราคาที่แข่งขันได้  แอพพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย Platform OYO มีความเป็นส่วนตัว และมีความยืดหยุ่น ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วด้วย บริการ OYO’s 24*7 chatbot – Yo! Chat.

          OYO มีโรงแรมหลายแบรนด์ในประเทศไทย เช่น Capital O ในหมวดพรีเมี่ยม และ OYO Rooms ในหมวดราคาประหยัด ให้ลูกค้าเลือกที่พักได้สอดคล้องกับความต้องการซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะรัฐบาลได้ประกาศหลายมาตรการเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งการร่วมจ่ายสูงสุดถึง40%  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็มีแคมเปญเช่น “เราเที่ยวด้วยกัน”  เฟส 5 ที่เพิ่งสิ้นสุดเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาและ“Amazing Thailand, Go Local”

          นาย แอนคิด กล่าวต่อไปว่า  “ความสำเร็จของพันธมิตรทำให้ธุรกิจของ OYO เติบโตมากในมาเลเซีย เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือกับกลุ่มโรงแรมต่างๆ ทั้งในเมืองธุรกิจและเมืองท่องเที่ยว สินค้าและบริการในท้องถิ่นจะยังคงเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานของเราในประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญของ   OYO มุ่งมั่นจะช่วยให้คู่ค้าโรงแรมในเครือข่ายของเราสร้างรายได้เพิ่มขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุด เราจะเป็นผู้นำตลาดบริการโรงแรมและที่พักระดับพรีเมียม ราคาย่อมเยา ปลอดภัยและสะดวกสบายแก่ลูกค้าทุกท่าน”

          นางสาว อรพิณ ศรีบุญเรือง เจ้าของโรงแรม Winner Inn ในจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า “แคมเปญการตลาดเชิงกลยุทธ์ช่วยเพิ่มยอดรายได้ของโรงแรมให้เติบโตขึ้นมากก็เป็นกำลังใจที่สำคัญสำหรับเรา  การที่ OYO เน้นลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำหนดมาตรการเข้มงวดเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยนั้น เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษแก่ผู้เข้าพักทุกคน”

          ข้อมูลจากรายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ซึ่งสมาคมโรงแรมไทยและธนาคารแห่งประเทศไทยจัดทำขึ้นในเดือนมีนาคม ชี้ว่า โรงแรมส่วนใหญ่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10-30%  ผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มขนาดเล็ก -กลาง ต้องการเงินอุดหนุนในลักษณะเดียวกับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”  (We Travel Together)

          ททท. แถลงว่าในปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาถึง 11.81 ล้านคน ส่วนใหญ่มาจากมาเลเซีย รองลงมาคือ อินเดียว ลาว กัมพูชาและสิงคโปร์  พร้อมตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาเยือนเมืองไทยได้ไม่ต่ำกว่า 25 ล้านคน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2.38 ล้านล้านบาท

          OYO  เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่มีเทคโนโลยีทันสมัยเต็มรูปแบบเพื่อช่วยเพิ่มรายได้และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและที่พักขนาดเล็ก  มีผลิตภัณฑ์และ Solutions แบบบูรณากรกว่า 40 รายการ นำเสนอระบบการจองที่ง่าย สะดวก ราคาไม่แพง เชื่อถือได้แก่ลูกค้าทั่วโลก   ขณะนี้มีพันธมิตรโรงแรม บ้าน และที่พักรูปแบบต่าง ๆ กว่า 1.7 แสน แห่ง  จดทะเบียนแล้วใน 35 ประเทศ รวมทั้งอินเดีย ยุโรปและกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ณ วันที่ 30 ก.ย.2565)  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่   www.oyorooms.com/th/

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

คุณตูบสายดาร์ก ปิดเมืองกัด ได้ฤกษ์จ่อโรงภาพยนตร์ 22 มิย.66 นี้

 

               เสร็จสิ้นจบขบวนการสร้างอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับภาพยนตร์ที่ทุกท่านรอคอย …เรื่อง คุณตูบสายดาร์ก ปิดเมืองกัด DarkDog LockDown ซึ่งเป็นภาพยนตร์น่ารักกับการผจญภัยของแก๊งค์สี่ขาเพื่อแลกกับการเป็นซุปตาร์ หมาเวล ช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัว ร่วมด้วยนักแสดงชั้นแนวหน้าของเมืองไทยมากมาย โดยผู้กำกับ ตั้ม กรกรรณ ใช้เวลาสร้างกว่า 3 ปี ฟาดฟันอุปสรรคกระทั่งสำเร็จได้อย่างที่เห็น ภาพยนตร์แนวครอบครัว น่ารักๆ ของเหล่าหมาเวลทั้ง 6 ตัวนั้นก็ไม่ธรรมดา แต่ล่ะตัวมี Profile ขั้นเทพ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงนำอย่าง เจ้บุ้ง หมาไหว้พระที่โด่งดังมาแล้วทุกสื่อ ทุกช่องบนโลกโชเชี่ยล น้องฟูจิ นักแสดงภาพยนตร์โฆษณา กวาดผลงานมาแล้วแทบทุกแบรนด์ผลิตภัณฑ์ น้องสิบล้าน ดีกรีร้อนแรง ไม่ธรรมดาของเหล่าสายพันธุ์ ไชบีเรียน…น้องคอปเตอร์ แสนรู้สุดๆ จัดเป็นสุนัขสายพันธุ์อัลเชเชียลที่แสนรู้ระดับต้นๆ ของสุนัขพันธุ์เดียวกันก็ว่าได้ ส่วนน้องยูมะ และน้องไอมิ ก็กำลังแจ้งเกิดในวงการสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน จักรวาลหมาเวล คืออะไร จะช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัวได้มั้ย และช่วยยังไง ติดตามได้ในโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่าน เร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

"มาดามหยก" ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดินและ หัวหน้าสาขาภาคเหนือ ขอกราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียง มอบให้ “พรรครวมแผ่นดิน” ยืนยันจะทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

 

               “มาดามหยก” ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดินและ หัวหน้าสาขาภาคเหนือ ประธานโครงการ “Change Together เปลี่ยน…ไปด้วยกัน” ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์มูลนิธิเอ็มพลัส  ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์กองประกวดนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ  ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ Miss Universe Chiang Mai 2023  ขอกราบขอบพระคุณทุกคะแนนเสียง มอบให้ “พรรครวมแผ่นดิน” ยืนยันจะทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

               ผ่านพ้นไปแล้วกับ การเลือกตั้ง ประจำปี 2566 ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเลือกครั้งประวัติศาสตร์ชาติไทยเลยทีเดียว ซึ่งในปีนี้มี พรรคการเมืองน้องใหม่ เกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “พรรครวมแผ่นดิน” โดยมี มาดามหยก หรือ นางสาวกชพร เวโรจน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และหัวหน้าสาขาภาคเหนือ พรรครวมแผ่นดิน ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่ พรรครวมแผ่นดิน ก็มีกระแสพูดถึงในวงกว้าง และยอมรับในการทำงานของพรรคน้องใหม่นี้อย่างถึงที่สุด ด้วยการชูนโยบาย 12 ข้อ ที่เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย และยังสามารถทำได้รวดเร็วอีกด้วย

               โดย มาดามหยก กล่าวคำขอบคุณมายังพ่อแม่พี่น้องและประชาชนชาวไทยทุกคนว่า

​               “หยกและทีมงานของพรรครวมแผ่นดินทุกท่าน ขอกราบขอบพระคุณทุกๆ คะแนนเสียงที่ลงคะแนนให้ พรรครวมแผ่นดิน ตลอดจนขอขอบคุณทุกๆ การสนับสนุนตั้งแต่เราเปิดพรรคมา รวมทั้งสื่อมวลชนที่การต้อนรับเราเป็นอย่างดี  พรรครวมแผ่นดิน เป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ เป็นพรรคของคนเชียงใหม่ เพิ่งเปิดตัวไปเพียง 6 เดือน ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีคะแนนชนะ พรรคเพื่อไทย ได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เขต 6 เชียงดาว เวียงแหง ไชยปราการ พร้าว แม้จะพ่ายต่อ พรรคก้าวไกล ที่มาแรงมากในขณะนี้ และยังมีอีกหลายเขตที่สามารถทำคะแนน เข้าไปอยู่ในใจของคนไทยบางส่วน เช่น ในพื้นที่จังหวัดลำพูน แม่อายฝาง ชัยภูมิ  ฯลฯ 

               หยก และทีมงานของพรรครวมแผ่นดินทุกคน สัญญาว่าจะเดินหน้ามุ่งมั่นทำงาน สร้างความปรองดองสมานฉันท์ คงไว้ ซึ่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมพัฒนา รักษา สืบสานต่อยอด ศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี อุทิศตนทำคุณ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติต่อไป และเรายังคงเป็น พรรคการเมือง ที่ยังคงอยู่เคียงข้างประชาชนทุกคน ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด และพร้อมประสานทุกหน่วยงานของรัฐ เพื่อนำมาซึ่งเรื่องร้องเรียน ความไม่ธรรม ขัดข้อกฎหมายและศีลธรรมอันดีงาม  สามารถมาร้องเรียนมายัง พรรครวมแผ่นดิน ได้นะคะ เราพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชนทุกคนค่ะ”

               พรรครวมแผ่นดิน ChangeTogether เปลี่ยน…ไปด้วยกัน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน

               “การเลือกตั้งได้จบลงแล้ว มาดามหยก ขอให้พักเรื่องเครียด พบกันได้ที่จักรวาล เร็วๆนี้นะคะ “


วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

“มาดามหยก” สั่งลุย โค้งสุดท้ายขนแกนนำช่วย “ภาสพล” อยุธยา เขต 2 ทำแต้มตีตื้นชนพรรคใหญ่ก่อนเข้าคูหา มั่นใจชาวบ้านสนับสนุน หวังได้ผู้แทนฯ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจปากท้อง

 

               บรรยากาศการหาเสียงโค้งสุดท้าย ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นไปอย่างคึกคัก ทุกพรรคลงพื้นที่เพื่อขอคะแนนจากประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เขต 2  ซึ่งขณะนี้คะแนนของผู้สมัครยังมีความสูสี และยังมีพลังเงียบจำนวนมากยังไม่เทไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ทำให้วันนี้ พรรครวมแผ่นดิน ได้ขนแกนนำร่วมลงพื้นที่เพื่อช่วย นายภาสพล โตหอมบุตร ผู้สมัครเขต 2 เบอร์ 4  หาเสียงอย่างเข้มข้น โดยมีการขึ้นรถแห่ไปรอบๆ อ.บางปะหัน อ.มหาราช พร้อมปราศรัยย่อย ที่ตลาดนัดใหญ่ชุมชน วัดปากคลอง และแจกบัตรแนะนำเบอร์พรรค 47 และผู้สมัครเบอร์ 4 

               นายภาสพล กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าได้เสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน ซึ่งคะแนนมาสูสีมาก คิดว่ามีโอกาสที่อาจจะได้รับเลือกเข้าสภา วันนี้ได้ทางทีมแกนนำพรรคได้มาช่วยอีกแรง ทำให้ตนมีแรงใจฮึดสู้ในช่วงโค้งสุดท้าย  ขณะเดียวกันได้ตอกย้ำทำความเข้าใจเรื่องนโยบายพรรค โดยเฉพาะในเขตตลาดพ่อค้าแม่ค้าเชียร์เราอยู่มากพอสมควรได้เน้นนโยบายการจะทำให้ปากท้องพี่น้องดีขึ้น ลูกหลานเรียนดี ได้เรียนฟรี อยากเชิญชวนชาวอยุธยาเขต 2 หันมาเปลี่ยนไปด้วยกันกับพรรครวมแผ่นดิน เราไม่เป็นศัตรูกับใคร ตั้งใจทำงาน ยึดความสมานฉันท์ปรองดองเป็นที่ตั้ง มีนโยบายดีๆอีกหลายข้อที่อยากเข้าไปสานต่อ ซึ่ง น.ส.กชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดิน  มีสโลแกนอยู่แล้วว่าเรา “คบทุกพรรค รักทุกคน” แม้วันนี้มาดามหยกไม่ได้มาด้วยตัวเอง แต่มอบหมายทีมงานลงมาช่วย เพราะเล็งเห็นความสำคัญในพื้นที่และสั่งลุยเต็มที่ แม้ว่าจะต่อกรกับพรคคใหญ่ แต่เราไม่เคยกลัว สู้กันด้วยผลงาน ความจริงใจ ซึ่งพี่น้องคงจะเห็นแล้ว ดังนั้น อยากขอโอกาสให้เลือกตนเองเบอร์ 4 พรรครวมแผ่นดินเบอร์ 47 ด้วย

GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...