วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563

ชี้เป้า 10 คลินิกรักษาสิว หน้าใส ไม่เลี้ยงไข้ สิวหายไวที่สุดแห่งปี 2020!

 ชี้เป้า 10 คลินิกรักษาสิว หน้าใส ไม่เลี้ยงไข้ สิวหายไวที่สุดแห่งปี 2020!



สิว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ สิวที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย และสิวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น เครื่องสำอาง สภาพอากาศ ฯลฯ เป็นมากเป็นน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและวิธีดูแลผิวของแต่ละคนค่ะ บางคนเป็นน้อยหน่อยก็อาศัยทายาแต้มสิวบ่อยๆเดี๋ยวก็หาย แต่บางคนก็มีสิวขึ้นเยอะ จนดูแลเองไม่ไหว สร้างความทุกข์ใจให้กับเจ้าของใบหน้าทั้งเรื่องความสวยความงามและการเสียความมั่นใจในตัวเองไปเยอะเลยทีเดียวค่ะ

 

วันนี้เราจึงมี 10 คลินิกรักษาสิวที่ดีที่สุดของปี 2020 สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาทุกข์ใจเรื่องสิวๆหนักมาก มาเป็นแนวทางในการเลือกคลินิกรักษาสิวสู่หนทางหน้าใสมาฝากกันค่ะ

 

เลือกคลินิกรักษาสิวอย่างไร ให้หน้าใส ไม่เลี้ยงไข้ และเชื่อถือได้?

1.ต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยตรง

การรักษาสิวเป็นการรักษาเฉพาะทางที่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเป็นผู้ดำเนินการเท่านั้น เพื่อให้เกิดการรักษาที่ตรงจุด ทำให้สิวหายเร็ว หายขาดและไม่เป็นอันตราย เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกใช้บริการจากคลินิกรักษาสิวที่มีแพทย์เฉพาะทาง ที่มีใบรับรองการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ด้านผิวหนัง ไม่ใช่เพียงแค่หลักสูตรอบรมสั้นๆหรือ Certificate เท่านั้น ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจได้เลยว่าการรักษาสิวกับคลินิกแห่งนี้จะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

2. คลินิกรักษาสิวต้องมีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ

คลินิกรักษาสิวที่ดีต้องมีใบอนุญาตดำเนินการ สามารถเปิดกิจการได้อย่างถูกต้อง สถานที่ต้องสะอาดปลอดภัย ตัวยาต้องมี อ.. รับรองอย่างถูกต้อง เครื่องมือทางการแพทย์ต้องทันสมัยและพร้อมให้บริการ เมื่อดูภาพรวมแล้วต้องน่าเชื่อถือจึงจะไปใช้บริการได้ รวมถึงสำรวจสภาพแวดล้อมและความสะอาดของคลินิก เพราะนั่นก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงมาตรฐานของคลินิกรักษาสิวเช่นกัน

3.มีบริการที่ดียิ้มแย้มแจ่มใส สามารถให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง

ความทุกข์ใจของคนเป็นสิวก็มากพออยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อย่างก้าวเข้าไปในคลินิกรักษาสิวหากเจอพนักงานต้อนรับที่ดียิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาดี คุณหมอเก่งให้คำปรึกษาอย่างเป็นกันเองแบบนี้ จากความเครียดก็จะทำให้ผ่อนคลายไปได้มากเลยทีเดียว

4. ดูรีวิวของคลินิก คลินิกรักษาสิวส่วนใหญ่ก็จะมีรีวิวจากลูกค้าที่เคยมาใช้บริการเพื่อให้ผู้ที่สนใจได้พิจารณากันอยู่แล้ว โดยคุณสามารถดูจากรีวิวของคลินิกได้ ว่าผลลัพธ์ของลูกค้าแต่ละรายที่มารักษาสิวกับคลินิกแห่งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งคุณอาจดูจากหลายคลินิกแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน เพื่อเลือกคลินิกรักษาสิวที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั่นเองสิว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ สิวที่เกิดจากฮอร์โมนในร่างกาย และสิวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น เครื่องสำอาง สภาพอากาศ ฯลฯ เป็นมากเป็นน้อยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและวิธีดูแลผิวของแต่ละคนค่ะ บางคนเป็นน้อยหน่อยก็อาศัยทายาแต้มสิวบ่อยๆเดี๋ยวก็หาย แต่บางคนก็มีสิวขึ้นเยอะ จนดูแลเองไม่ไหว สร้างความทุกข์ใจให้กับเจ้าของใบหน้าทั้งเรื่องความสวยความงามและการเสียความมั่นใจในตัวเองไปเยอะเลยทีเดียวค่ะ



ธาดาคลินิก คลินิกเวชกรรม

นำทีมโดยนายแพทย์ ธาดา เปี่ยมพงศ์สานต์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง  มีประสบการณ์ในการรักษาปัญหาที่เกี่ยวกับผิวพรรณโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิว ฝ้า กระ ฟิลเลอร์ ไปจนถึงปัญหาผมร่วงและการกระชับสัดส่วนของร่างกายอย่างต่อเนื่องมากว่า 46 ปี ที่นี่โดดเด่นด้วยเทคนิคการรักษาสิวแบบ Peeling ซึ่งเป็นที่เดียวในประเทศไทย โดยเป็นการใช้สารสกัดจากธรรมชาติในการผลัดเซลล์ผิว ให้กระจ่างใส ลดการอุดตันของรูขุมขน พร้อมลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น โดยไม่ผ่านการใช้เลเซอร์เหมือนคลินิกอื่นๆ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะราคาถูกกว่าการใช้เลเซอร์รักษาแล้ว ยังช่วยลดการะคายเคืองผิวจากการโดนเลเซอร์ซ้ำๆ ในคลินิกครบครันไปด้วยเครื่องมือการบริการที่ปลอดภัย ทันสมัยและได้มาตรฐาน  พร้อมให้คำแนะนำการรักษาโดยแพทย์ ที่เน้นการรักษาอย่างตรงจุด ไม่มีการเลี้ยงไข้ แถมที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องความเป็นกันเองของคุณหมอ และพยาบาลที่ทำให้ผู้บริการรู้สึกอุ่นใจและผ่อนคลายเมื่อมาใช้บริการทุกครั้งด้วยค่ะ หากคุณเป็นสิวมาอย่างยาวนานและยังไม่หายสักที  ธาดาคลินิกถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ



ราชเทวีคลินิก

คลินิกด้านความงามที่เปิดมาอย่างยาวนาน บ่งบอกถึงประสบการณ์และความไว้วางใจของผู้ใช้บริการจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นคลินิกด้านผิวหนังที่คนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆของการรรักษาสิว โดดเด่นด้วยการรักษาสิวอย่างครบวงจร ทั้งทรีทเม้นท์ เลเซอร์ ฯลฯ  เรียกได้ว่าครบสูตรใบหน้าเนียนใสไร้รอยสิวค่ะ แถมยังมีสาขากระจายอยู่เกือบทั่วประเทศทำให้สาวๆเดินทางได้สะดวกสบายเพราะหาสาขาใกล้บ้านเพื่อเดินทางไปรักษาสิวได้ง่ายขึ้นค่ะ ที่สำคัญ หากใครชื่นชอบการบริการที่เอาใจใส่ลูกค้า และดูแลดีเยี่ยม พนักงานของที่นี่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลลูกค้าและการบริการที่เป็นกันเองสุดๆด้วยค่ะ เรียกได้ว่า รักษาที่ราชเทวีคลินิก นอกจากจะหายเป็นสิวกลับมาหน้าเนียนใสแล้วยังได้รับการบริการสุดประทับใจกลับบ้านไปอีกด้วยค่ะ


พรเกษมคลินิก

อีกหนึ่งคลินิกด้านผิวหนังที่มีชื่อเสียงและสาขาทั่วประเทศ พร้อมโปรแกรมดูแลผิวที่หลากหลาย พรเกษมคลินิก ถือว่าเป็นแหล่งรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง ที่เข้าใจปัญหาผิวพรรณของคนไทยมากที่สุด โดยจุดเด่นของที่นี่จะเป็นเรื่องโปรแกรมรักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์ ที่ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องสิวเรื้อรัง ด้วยนวัตกรรมการประสานประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสิวกับเทคโนโลยี LED (แสงที่ช่วยฆ่าเชื้อสิว) +IPL (แสงที่ช่วยลดรอยสิว) + Vacuum (เครื่องช่วยดูดหัวสิวทำให้หัวสิวตื้นขึ้น) ช่วย maintain ให้ผิวหน้าสวยใส เหมาะกับผิวหน้าที่เป็นสิวง่ายและผู้ที่อยากรักษาสิวนอกเหนือจากการกดสิว ที่สำคัญการเลเซอร์ของที่นี่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บระหว่างการรักษาด้วยค่ะ ตอบโจทย์เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรัง แต่ไม่อยากทานยา


พฤกษาคลินิก

คลินิกความงามที่กำลังขยายสาขาทั่วกรุงเทพเพื่อให้ลูกค้าสะดวกต่อการเดินทางเข้าไปรับบริการ เป็นคลินิกเสริมความงามที่เปิดให้บริการตั้งแต่การรักษาสิว การดูแลผิวหน้าให้ขาวเนียนใส ไปจนถึงการศัลยกรรมหน้าอก จมูกและตาค่ะ เรียกได้ว่า ครบ จบ ในที่เดียว โดยการนำทีมของ  นายแพทย์ เศรษฐกานต์ อัตถากรพันธ์ ผู้ก่อตั้งพฤกษา คลินิกมากว่า 29 ปี พร้อมทีมแพทย์ด้านผิวหนังฝีมือดีอีกจำนวนมากที่พร้อมให้บริการรักษาสิวพฤกษา คลินิกให้ทั่วทุกสาขาแบบครบวงจรค่ะ โดดเด่นด้วยโปรแกรมรักษาสิวอุดตันด้วยเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และโปรแกรมรักษาสิวที่หลากหลายเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของคนเอเชียทุกรูปแบบ พร้อมทั้งครอบคลุมไปจนถึงการรักษาหลุมสิวทั้งแบบที่ใช้เลเซอร์และไม่ใช่เลเซอร์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักษาให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดด้วยค่ะ จัดเป็นคลินิกความงามที่พร้อมทั้งการให้บริการและคุณภาพอีกแห่งที่น่าไปใช้บริการไม่น้อยเลยทีเดียว

 


รมย์รวินท์คลินิก

คลินิกความงามที่อยู่ภายใต้การนำทีมของของแพทย์หญิงฐานิสรและทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวพรรณทุกคนที่พร้อมให้บริการและปรึกษาความงามทุกรูปแบบค่ะ โดดเด่นด้วยกระบวนการซ่อมและสร้างความแข็งแรงให้ผิวพรรณด้วยเวชภัณฑ์ควบคู่ไปกับเวชสำอาง ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการของทางคลินิกที่ต้องการรักษาสิวและสวยไปด้วยในคราวเดียวกัน พร้อมเครื่องมือแพทย์ที่ดีที่สุด โดยได้เลือกใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ผ่านการรองรับจาก อ.. สหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการของทางคลินิก ทำให้การรักษาสิว เป็นเรื่องไม่ยุ่งยาก คุ้มค่า ใช้เวลาน้อย และได้ผลลัพธ์ที่ดีจนสามารถสัมผัสได้ด้วยตัวเองค่ะ ซึ่งหากวัยรุ่นคนไหน ต้องการปรึกษาปัญหาเรื่องสิวๆ สามารถเข้ามาที่ รมย์รวินท์ คลินิก สาขาที่ใกล้บ้านคุณที่สุดซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วประเทศและกรุงเทพได้เลยค่ะ

 

แพนคลินิก

คลินิกรักษาสิวที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยเรียนและนักศึกษามาอย่างยาวนานและมีสาขากระจายอยู่เกือบทั่วประเทศ อยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลทางด้านผิวหนังโดยตรงค่ะ โดยเน้นให้การดูแลทั้งเรื่องของผิวหน้ารูปร่างและผิวพรรณแบบครบวงจร เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าพอใจแก่ผู้ใช้บริการ โดยทางแพน คลินิก มีจุดเด่นในเรื่องโปรแกรมรักษาสิวและแผลเป็นจากสิว ด้วยทรีทเม้นท์ เลเซอร์ ทายา และรับประทานยาที่จะเป็นการรักษาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการรักษาสิวมากที่สุดของทีนี่มีอยู่ 2 โปรแกรมค่ะคือ   การทำ ACNE Treatment สำหรับผิวที่มีการอักเสบของสิว  และ การใช้ AHA treatment สำหรับรอยดำสิว รอยแดงสิว รอยหลุมจากสิว เพื่อกระตุ้นการสร้าง เนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งแพนคลินิกถือถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

 

ธนพรคลินิก

คลินิกศัลยกรรมความงามที่มีสาขาอยู่ทั่วกรุงเทพ พร้อมเปิดให้บริการความงามครบวงจรไม่ว่าจะเป็นการรักษาสิว ปรับรูปหน้า ดูแลรูปร่างไปจนถึงศัลยกรรม ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางผิวหนัง ซึ่งจุดเด่นของธนพรคลินิกคือ การรักษาสิวด้วยโปรแกรม Magenta Light โดยแสงนี้จะช่วยรักษาสิวได้ลึกถึงต้นตอของสิว ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P.Acne ที่เป็นต้นกำเนิดของสิว ทำให้รักษาทั้งสิวอุดตันและรักษาสิวอักเสบให้ยุบเร็วขึ้น แห้งเร็วขึ้น ลดการทำงานต่อมไขมัน ลดหน้ามัน ซึ่งเป็นวิธีการที่ดีกว่ากินยาและทายา  ทำให้สิวยุบตั้งแต่ในครั้งแรกที่ทำเลเซอร์ด้วยค่ะ วิธีนี้เป็นเทคนิคเฉพาะของทางคลินิกที่โดดเด่นมากๆทำให้มีผู้เข้าใช้บริการรักษาสิวจำนวนมากเพราะจะไม่มีผลข้างเคียงจากการรักษาโดยการฉายแสงแน่นอนค่ะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวให้หายขาดและลดอาการเจ็บปวดจากการกดสิว ผลข้างเคียงจากการทานยาสิวต่างๆ จัดเป็นอีกหนึ่งคลินิกที่น่าสนใจสำหรับการรักษาสิวที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ดี่ที่สุดค่ะ  

 



นิติพลคลินิก

คลินิกความงามที่เติบโตภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับและให้บริการแก่ลูกค้าอย่างทั่วถึง จนในขณะนี้ นิติพลคลินิก มีสาขากว่า 130 สาขาทั่วประเทศ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า พร้อมการบริการจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และทีมงานที่มีความรู้ความชำนาญ ทำให้นิติพลคลินิก เป็นสถาบันดูแลความงามครบวงจรที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากอย่างต่อเนื่องค่ะ โดยที่นี่จะมีจุดเด่นอยู่ที่ โปรแกรม ACNE SURE ซึ่งเป็นโปรแกรมรักษาสิว ครอบคลุมทุกขั้นตอนการรักษาสิว ตั้งแต่สิวอุดตัน ไปจนถึงสิวอักเสบ พร้อมด้วยการมาส์กกระชับรูขุมขน  รวมถึงยาทาและยารับประทาน ให้การรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนสิวหาย เป็นการรักษาสิวควบคู่ไปกับการบำรุงดูแลผิว

 

หมอมวลชน

คลินิกความงามที่ไม่ได้มีบริการแค่การดูแลรักษาสิว แต่ยังบริการไปถึงอุปกรณ์และสกินแคร์ดูแลผิวหน้าหลังจากหายเป็นสิว เพื่อให้ผิวหน้าเนียนใสและหายขาดจากการเป็นสิว หมอมวลชนมีสาขาการให้บริการมากที่สุดถึง 280 แห่งทั่วประเทศ จึงทำให้บริการได้อย่างทั่วถึงและสามารถขอคำปรึกษาได้ฟรีจากทุกจุดของการให้บริการ โดยที่นี่จะเป็นคอร์สรักษาสิวผิวหน้าที่มาพร้อมกับเวชสำอางในการดูแลผิวหน้า จุดเด่นอยู่ที่การรักษาโดยใช้เวชสำอางควบคู่ไปกับการกดสิวและทำทรีทเมนต์ เลเซอร์ ซึ่งขั้นตอนบริการส่วนใหญ่ของหมอมวลชนสำหรับคนที่เป็นสิว จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังให้คำแนะนำ เริ่มจากวิเคราะห์ผิวหน้า และแนะนำเวชสำอางในการดูแลผิวหน้าที่ทางหมอมวลชนจำหน่าย และให้เริ่มด้วยการกดสิว มาส์กหน้า ทำทรีทเมนต์เป็นหลัก

AMED Clinic 

คลินิกศัลยกรรมชื่อดังที่ไม่ได้มีดีแค่ยกกระชับปรับรูปร่างแต่ยังโด่งดังในเรื่องของการรักษาสิวและหลุมสิวอีกด้วยค่ะ ที่นี่มีทีมแพทย์และบุคลากรที่พร้อมจะให้บริการและดูแลลูกค้าให้สวยใสทั่วทัั้งใบหน้าและรูปร่าง ครอบคลุมทุกการแต่งเสริมบนใบหน้าและร่างกาย โดยเฉพาะโปรแกรมสิว ที่มาในราคาย่อมเยา ไปจนถึงคอร์สรักษารอยดำและรอยแดงจากสิวต่อครั้งในราคาหลักพันบาทเท่านั้น เรียกได้ว่า ราคาไม่แพงเลย แถมมีโปรจัดให้ตลอดทั้งลูกค้าใหม่และเก่าแบบไม่ต้องกลัวน้อยหน้ากัน พร้อมศูนย์บริการมาตรฐานทั้ง 3 สาขาที่ใหญ่โต เพื่อรองรับผู้ใช้บริการอีกด้วยค่ะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 คลินิกรักษาสิวที่เอามาฝากกัน แต่ละแห่งล้วนเป็นคลินิกรักษาสิวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ก่อนเข้ารับบริการแต่ละแห่ง ทางเราแนะนำว่า ให้ดูรีวิวแต่ละที่รวมถึงค่าใช้จ่ายของคลินิกเพื่อศึกษาก่อนการเข้ารับบริการด้วยนะคะ  

 

 



วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563

DITP ดันรายได้ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยพุ่ง ในงาน TILOG-LOGISTIX Online Business Matching

 

DITP ดันรายได้ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยพุ่ง

ในงาน TILOG-LOGISTIX Online Business Matching


              เวทีธุรกิจ TILOG-LOGISTIX Online Business Matching จัดโดย DITP ประสบความสำเร็จเกินคาด ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและผู้ซื้อจากทั่วโลก ร่วมวงเจรจาการค้ากับโลจิสติกส์ชั้นนำของไทย ดันมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทะลุ 3,800 ล้านบาท

              นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดำเนินการภายใต้นโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการผลักดันการค้าระหว่างประเทศ เร่งพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการไทย และปรับรูปแบบกิจกรรมให้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทยผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ TILOG-LOGISTIX Online Business Matching โดยงานนี้มีบริษัทคู่ค้าจากทั่วโลกร่วมเจรจากับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยมากถึง 110 บริษัท

              งาน TILOG-LOGISTIX Online Business Matching ครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีการเจรจาจับคู่เพื่อเจรจาการค้ารวมมากถึง 264 ครั้ง เกิดมูลค่าการค้าระหว่างประเทศกว่า 3,800 ล้านบาท และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยสู่สากล



              สำหรับบรรยากาศตลอดทั้ง 2 วัน ของ TILOG-LOGISTIX Online Business Matching มีคู่ค้าในต่างประเทศจองคิวขอเจรจาผ่านระบบออนไลน์แน่นขนัดต่อเนื่องตั้งแต่เช้า เกินเป้าหมายที่คาดไว้แม้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดทั่วโลก อาทิ ผู้ประกอบการโลจิสติกส์จากต่างประเทศ อาทิ จีน มาเลเซีย พม่า อินเดีย ไต้หวัน รัสเซีย แอฟริกาใต้ ฯลฯ

              อีกทั้งงาน TILOG-LOGISTIX Online Business Matching ปีนี้ ยังมีโลจิสติกส์ไทยหลากหลายกว่า 50 บริษัท คู่ค้าจึงเลือกใช้บริการได้ตรงความต้องการทั้งบริการขนส่งสินค้าทั้งทางอากาศ เรือ และรถยนต์ บริการศุลกากร และ Startup ด้านโลจิสติกส์ ฯลฯ พร้อมเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยมีศักยภาพและโอกาสฟื้นตัวเร็วกว่าชาติอื่นในภูมิภาค

 


 



อ.ส.ค.ดัน“Chew-D” เตรียมเขย่าตลาดคนรุ่นใหม่สายเฮลท์ตี้

 อ.ส.ค.ดัน“Chew-D” เตรียมเขย่าตลาดคนรุ่นใหม่สายเฮลท์ตี้


อ.ส.ค.เตรียมเขย่าตลาดคนรุ่นใหม่สายเฮลท์ตี้ เปิดตัวโยเกิร์ตพร้อมดื่ม “Chew-D” สู้วิกฤติโควิด-19  เชื่อมั่นคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น



นายสุชาติ   จริยาเลิศศักดิ์   รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวว่า   ในปี 2563นี้ อ.ส.ค. ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ชนิดผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee และ LAZADA  คือโยเกิร์ตพร้อมดื่มปราศจากไขมัน ยูเอชที กลิ่นเสาวรส ผสมบุก (ตราไทย-เดนมาร์ค ชิวดี) “Chew-D” เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันผู้บริโภคกำลังตื่นตัวกับกระแสการรักสุขภาพมากขึ้น จากการสำรวจเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มพบว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและผลิตจากธรรมชาติมากขึ้น   โดยจะมีการปฏิวัติวิถีการบริโภคเพื่อสุขภาวะที่ดี   ทำให้ในอนาคตผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่จะออกมาใหม่นั้น จะมุ่งไปยังการนำส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติมากยิ่งขึ้น    ประกอบกับ อ.ส.ค. ได้วางเป้าหมายในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดในทุกปี   เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดธุรกิจตลาดนมพร้อมดื่มดั้งเดิมกับตลาดโมเดิร์นเทรดเป็น 50:50 ภายในปี 2564   

สำหรับ   โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ปราศจากไขมัน ยูเอชที กลิ่นเสาวรส ผสมบุก (ตราไทย-เดนมาร์ค)     มีขนาด 200 มิลลิลิตร ราคา 16.00 บาท/กล่อง  มีฐานการผลิตที่โรงงานผลิตภัณฑ์นมมวกเหล็ก สำนักงาน อ.ส.ค. ภาคกลาง อ.มวกเหล็ก จ.สาะบุรี โดยอ.ส.ค.ได้จัดวางอยู่ในหมวด อาหารว่างเพื่อสุขภาพ  (Healthy  Snacks)  ที่สามารถดื่มแทนมื้ออาหาร เพื่อควบคุมน้ำหนักได้  เนื่องจากวัตถุดิบผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง  ปราศจากไขมัน (มีไขมันทั้งหมด 0%) ใช้ชูกาเวีย เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ให้พลังงานแค่ 60 kcal  ขนาดบรรจุ 200ml.  มีชิ้นบุกให้เคี้ยวเพลินๆ ให้พลังงานน้อยแต่อร่อยและอยู่ท้องแคลอรี่ต่ำ เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนัก  เนื้อสัมผัสพิเศษจาก Chewy Beads ผลิตจากชิ้นบุก อยู่ท้องทำให้มีประโยชน์มากกว่าโยเกิร์ตสูตรปกติเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่ดูแล รักษารูปร่าง มองหาประโยชน์จากโยเกิร์ตพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ ชอบการดื่มนม แต่ก็อยากควบคุมน้ำหนัก โดยให้พลังงานทั้งหมด เพียง 60 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก  ที่สำคัญคือเป็นแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง

 



อ.ส.ค. รุกส่งเสริมเกษตรกรโคนม พึ่งตนเอง พร้อมเร่งเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมนมไทยสู่ระดับสากล เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน

 อ.ส.ค. รุกส่งเสริมเกษตรกรโคนม พึ่งตนเอง 

พร้อมเร่งเดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมนมไทยสู่ระดับสากล   

เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด โคนมอาชีพพระราชทาน 



นายสุชาติ  จริยาเลิศศักดิ์   รองผู้อำนวยการ ทำการแทน ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  กล่าวว่า   อ.ส.ค. ในฐานะองค์กรทำหน้าที่ส่งเสริมอาชีพโคนมให้แก่เกษตรกร  สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จซึ่งยังทรงพระยศในขณะนั้น   ได้พระราชดำเนินมาทรงเปิดงาน วันโคนมแห่งชาติเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2530  โดยมี มร.นีล กุนา  ซันเดอการ์ด ปูชนียบุคคลของวงการโคนมไทยเข้าเฝ้า ณ  พลับพลาพิธีเปิดงาน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  

  นายสุชาติ กล่าวว่า การเสด็จมาเปิดงาน วันโคนมแห่งชาติ” ในครั้งนั้น  ทรงสร้างความปลาบปลื้มให้พสกนิกรชาวไทยและเกษตรกรชาวโคนมเป็นอย่างมากและจดจำภาพความประทับใจแห่งประวัติศาสตร์วันนั้นได้จนถึงทุกวันนี้   สร้างความประจักษ์ให้คนไทยเห็นถึงความมุ่งมั่นของพระองค์ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของในหลวงรัชการที่ 9 
ในทุกด้าน  โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ “โคนมอาชีพพระราชทาน “ ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้ทรงพระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกรไทยไว้เพื่อส่งเสริมอาชีพโคนมให้แก่เกษตรกรไทยให้มีรายได้และอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน  



               นายสุชาติ  กล่าวด้วยว่า  สำหรับ  อาชีพการเลี้ยงโคนม เกิดจากพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร”(รัชกาลที่ 9) ที่ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคนมที่มีคุณค่าและประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงมาก จากปี 2505 จวบจนถึงปัจจุบัน พ.ศ. 2563 รวมระยะยาวนานเกือบ 60ปี อาชีพการเลี้ยงโคนม อาชีพพระราชทานที่เกษตรกรไทยได้สืบสาน รักษา ต่อยอด ให้คงอยู่จากรุ่นสู่รุ่นอย่างมั่นคงและยั่งยืน จากพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ” (รัชกาลที่ 9) เข้าสู่รัชสมัยปัจจุบัน ใน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” (รัชกาลที่ 10) ทรงสานต่อพระราชปณิธานให้ อาชีพการเลี้ยงโคนม ของเกษตรกรไทยยังสืบสาน ต่อยอดกิจการโคนม  โดย อ.ส.ค. เป็นหน่วยงานที่สานต่อภารกิจ ให้การสนับสนุนพัฒนาองค์ความรู้แก่เกษตรกร เพื่อให้ การเลี้ยงโคนม เป็นอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืน และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรโคนมไทยมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

               ทั้งนี้  อ.ส.ค. มุ่งมั่นเดินหน้าพันธกิจขององค์กรสืบสานพระราชปณิธาน โคนมอาชีพพระราชทาน ส่งเสริมสหกรณ์และเกษตรกรโคนมให้ดำเนินกิจการได้อย่างมั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อผลักดันให้เกษตรกรมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมนมที่มีอัตราการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น ด้วยผลผลิตที่มีคุณภาพ ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นในทุกปี พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางข้อมูลและอุตสาหกรรมนมแบบครบวงจรในระดับสากลและสนับสนุนแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมครอบคลุมอย่างครบวงจรด้านกิจการโคนม ตลอดจนให้การสนับสนุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมแปรรูปจากน้ำนมดิบของเกษตรกรไทย มาเป็นผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์ตราไทย-เดนมาร์ค ให้ประชาชนคนไทยได้มีผลิตภัณฑ์นมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ได้บริโภคผลิตภัณฑ์นมที่ดี มีคุณค่า และมีประโยชน์ต่อร่างกาย




 


วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คุณสุภกิต เจียรวนนท์ นำคณะนักเรียน วปอ. เข้าศึกษาดูงาน ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ CPLI จ.นครราชสีมา

 คุณสุภกิต เจียรวนนท์ นำคณะนักเรียน วปอ. 

เข้าศึกษาดูงาน ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ CPLI จ.นครราชสีมา


คุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นำคณะนักเรียน วปอ. เข้าศึกษาดูงาน ณ สถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ CPLI อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี พลตรีทรงวิทย์  หนุนภักดี  (รองแม่ทัพภาคที่ 1) และ พันเอกเกรียงศักดิ์  ภัทรพงศ์สินธุ์ (รองผู้บัญชาการ ศูนย์สงครามพิเศษ จ.ลพบุรี) นำคณะวปอ. เข้าเยี่ยมชม














เจ้าของรางวัลคนดีเด่นแห่งปี ประกาศเดินหน้าทำงานเชิงรุกด้านดิจิทัลหลังได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯททท.ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา เตรียมเดินหน้างานด้านดิจิทัลเต็มรูปแบบ คาดหวังสร้างกลุ่มเครือข่ายนักท่องเที่ยวจิตอาสาด้านเทคโนโลยี่ไปพร้อมการท่องเที่ยวแบบปลอดภัยและคำนึงถึงสุขภาพในยุคโควิด 19

เจ้าของรางวัลคนดีเด่นแห่งปี ประกาศเดินหน้าทำงานเชิงรุกด้านดิจิทัลหลังได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯททท.ด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา เตรียมเดินหน้างานด้านดิจิทัลเต็มรูปแบบ คาดหวังสร้างกลุ่มเครือข่ายนักท่องเที่ยวจิตอาสาด้านเทคโนโลยี่ไปพร้อมการท่องเที่ยวแบบปลอดภัยและคำนึงถึงสุขภาพในยุคโควิด 19 





           การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซี่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการแต่งตั้งข้าราชการประจำปีในหลายตำแหน่งในส่วนของรองผู้ว่าฯททท.มีผู้เกษียณและ1ในนั้น นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผอ.ภูมิภาคกลางได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการการท่องเที่ยวด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญหน่วยงานหนึ่งในการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในยุคประเทศไทย4.0 ที่จะต้องใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อทันกับยุคสมัยในปัจจุบัน ซึ่งภายหลังได้รับประกาศแต่งตั้ง”นายอภิชัย”กล่าวถึงการที่จะต้องทำงานแบบเชิงรุกในการใช้เทคโนโลยี่ทุกด้าน เพราะภารกิจของตำแหน่งรองผู้ว่าฯด้านนี้ต้องดูแลงานด้านดิจิทัล แล้วยังรวมไปถึงงานด้านวิจัย และการพัฒนาควบคู่กันไป ซึ่งในด้านนี้ททท.มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่จะขับเคลื่อนงานด้านนี้อย่างเต็มที่ เพราะการท่องเที่ยวในปัจจุบันทุกคนสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารหาแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวกและรวดเร็วจากการใช้เทคโนโลยี่ โดยเฉพาะมือถือ หรือข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและเวปต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วกว่าในอดีต จึงเป็นยุคท่องเที่ยวใช้เทคโนโลยี่เข้ามาช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย

 



                  รองผู้ว่าฯททท.ด้านดิจิทัลฯ กล่าวต่อไปว่าตนเองพร้อมเดินหน้าทำงานในเชิงรุกด้านดิจิทัลให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างมิตรภาพและเครือข่ายกับกลุ่มคนไทยที่ใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่มาเป็นพลังเที่ยวด้วยจิตอาสา เที่ยวแบบปลอดภัยและรักษาสุขภาพในสถานการณ์โควิด19 ที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตในการเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน ซี่งในองค์กรเราผู้นำขององค์กรผู้ว่าฯททท.”ดร.ยุทธศักดิ์  สุภสร” ท่านเป็นนักบริหารชั้นยอดอยู่แล้ว เพียงแต่ทีมงานหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบร่วมกันทำงานขับเคลื่อนกันเป็นทีมเวิร์ค งานทุกอย่างก็จะไปได้ดี ผมเคยผ่านงานสำคัญ ๆในช่วงเป็นผู้อำนวยภูมิภาคภาคกลางฯ(มาหลายงานสำคัญ เช่น งาน  5ธันวา สะพานภูมิพล ทำเพื่อรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9,  งานเที่ยวตามฝันครั้งหนึ่งในชีวิต มอบให้กับผู้บำเพ็ญประโยชน์ที่มีรายได้น้อย เช่น กลุ่ม อสม. ,อพปร. ,อสส. อพม และรวมถึงงานศาสตร์พระราชาเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน  ซึ่งภารกิจด้านดิจิทัล จึงถือว่ามีบทบาทสำคัญในการมาช่วยขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานแล้วยังสนับสนุนงานในส่วนของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

 


                      สำหรับนายอภิชัยฯ รองผู้ว่าฯททท.ด้านดิจิจัล วิจัย และพัฒนาฯเคยได้รับรางวัลผู้บริหารแห่งปี 2560(CEO Thailand Awards2017)จากพล.อ.พิจิตร  กุลละวาณิชย์ (องคมนตรีในรัชกาลที่ 9) และรางวัลคนดีเด่นแห่งปี 2562 จากมูลนิธิสร้างสรรค์สังคมไทย ซี่งชีวิตการทำงานเริ่มตั้งแต่พนักงานบริหารทั่วไป 3 งานประสานงานศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและผ่านงานทั้งด้านดูแลมัคคุเทศก์, หัวหน้างานอเมริกา(ฝ่ายตลาดต่างประเทศ),หัวหน้าส่งเสริมสินค้าที่ระลึก,หัวหน้าส่งเสริมสินค้าที่ระลึกและงานกองส่งเสริมกิจกรรมฯลฯ



วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563

โครงการคืนคุณแผ่นดิน จัดงาน”ทำดีด้วยหัวใจ เทิดไท้องค์ราชัน” พร้อมมอบรางวัลโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ กว่า 2.6 ล้านบาท สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์

 โครงการคืนคุณแผ่นดิน จัดงาน

”ทำดีด้วยหัวใจ เทิดไท้องค์ราชัน” 

พร้อมมอบรางวัลโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ กว่า 2.6 ล้านบาท 

สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์



โครงการคืนคุณแผ่นดิน จัดงาน”ทำดีด้วยหัวใจ เทิดไท้องค์ราชัน” พร้อมบรรยาย ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย เพื่อให้เกิดความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งนี้มีพิธีการมอบรางวัลและเงินรางวัลการแข่งขัน โครงการเยาวชนคนสร้างชาติ รุ่นที่ 1 สนับสนุนเยาวชนในการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ต่อสังคมและประเทศชาติ ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)




โครงการคืนคุณแผ่นดิน จัดงาน”ทำดีด้วยหัวใจ เทิดไท้องค์ราชัน” พร้อมบรรยายพิเศษเรื่องประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย โดยพลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นประธานเปิดการอบรม




คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน เป็นประธานในการมอบรางวัลโครงการเยาวชน คนสร้างชาติ และได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปอ.) สนับสนุนวิทยากรคือ




นายกองโทธารณา คชเสนี เป็นวิทยากรบรรยาย การอบรมนี้มีเป้าหมายเพื่อธำรงความมั่นคงสถาบันหลักของชาติภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมปลูกฝังความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้คนในชาติเกิดความรักสามัคคี ความปรองดองในสังคมตลอดจนมีความสำนึกและจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์




โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรมได้แก่ นักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา นักศึกษาราชภัฎยะลา นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นักศึกษามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง นักศึกษามหาวิทยาลัยพิษณุโลก นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนักเรียนโรงเรียนกุนนทีรุทธารามวิทยาคม ครั้งที่ 1 จำนวน 550 คน วันที่ 22 สิงหาคม 2563 ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร




ทั้งนี้โครงการอบรมดังกล่าว เพื่อให้เยาวชนได้รับรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ อันจะก่อให้เกิดความรู้รักสามัคคี ประชาชน และประเทศชาติต่อไป




คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ประธานในการมอบรางวัลโครงการเยาวชน คนสร้างชาติ วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างเยาวชนต้นแบบจิตอาสาในระดับมหาวิทยาลัยที่มีทักษะความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับจิตอาสา เป็นนักคิด นักปฏิบัติ มีจิตสาธารณะพร้อมกับเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ สามารถส่งเสริมให้เยาวชนต้นแบบจิตอาสาในระดับมหาวิทยาลัยมีทัศนคติที่ดีต่อสังคมและมีจุดยืน ฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม จริยธรรม เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ และยังสามารถนำทักษะ ความรู้ ความเข้าใจ ไปปฏิบัติเพื่อเผยแพร่ให้แก่ชุมชน เป้าหมาย สนับสนุนให้เยาวชนได้ทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ ในกลุ่มเยาวชนของประเทศไทย ที่ได้รับการคัดเลือกจากทางมหาวิทยาลัยเพื่อให้เยาวชนได้มีขวัญ กำลังใจ และมีส่วนส่งเสริม สนับสนุน ให้เยาวชนได้ทำความดี และทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ได้มากขึ้น




โครงการคืนคุณแผ่นดิน สนับสนุนทุนการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของเยาวชน ระยะเวลา 1 ปี ทั้งหมดรางวัลที่ 1 –รางวัลที่ 7 มูลค่า 2,600,000 บาท




กิจกรรมการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ

  1. แบบการวัดผลที่ 1 : ด้านโซเชี่ยล การแข่งขันทำคลิปวิดีโอ หัวข้อเกี่ยวกับปัญหาด้านสังคมที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้
  2. แบบการวัดผลที่ 2 : แบบปฏิบัติการลงพื้นที่ ผู้เข้าแข่งขันจะได้จังหวัดที่จะทำโครงการ มหาวิทยาลัยละ 1 จังหวัด โดยมี 10 หมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถต่อยอดโครงการในพื้นที่ 
ผลการแข่งขัน 

รางวัลที่ 1 วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่า ลงพื้นที่หมู่ 5 บ้านวัดขวาง ตำบลบ้านไร่ อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก 

รางวัลที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ลงพื้นที่หมู่ 5 บ้านเกาะไหล ตำบลบ้านหาร อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา 

รางวัลที่ 3 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ลงพื้นที่หมู่ 3 บ้านดงป่าสัก ตำบลบ้านด้าย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 

รางวัลที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี หมู่ 5 บ้านวังน้ำมอก ตำบลพระพุทธบาท อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย 

รางวัลที่ 5 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ลงพื้นที่หมู่ 8 บ้านปากมาบ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม 

รางวัลที่ 6 มหาวิทยาลัยขอนแก่น หมู่ 3 บ้านจอหอ ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 

รางวัลที่ 7 มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลงพื้นที่ หมู่ 9 บ้านหนองปล้อง ตำบลสุขเดือนห้า อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท





ตัวแทนวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซ่า กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้รับรางวัลที่ 1 โครงการเยาวชน คนสร้างชาติ เป็นการปลูกฝังการเป็นจิตอาสาให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญชองชาติในอนาคต บุคคลกลุ่มนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพในอนาคต ในการลงพื้นที่ทำกิจกรรมครั้งนี้สิ่งที่เราได้รับคือ ประสบการณ์และได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชน ได้รู้จักการเป็นผู้ให้ การเป็นจิตอาสา และยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกส่วนหนึ่งที่เราไม่คาดคิดว่าเราจะได้รับจากการทำกิจกรรมในครั้งนี้ นั้นก็คือ ความร่วมมือจากชุมชนไม่ว่าจะเป็น ผู้นำชุมชน กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและชาวบ้านรวมถึงน้องๆเยาวชนในชุมชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เราได้รับโอกาสดีๆในการหาประสบการณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีในห้องเรียน และสมาชิกส่วนหนึ่งในคณะทำงานของเรายังไม่เคยมีประสบการณ์ในการลงพื้นที่ทำกิจกรรมในรูปแบบนี้ แต่หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมแล้วสิ่งที่ทุกคนได้รับนอกจากประสบการณ์ในทำงานร่วมกันแล้ว เรายังได้รู้จักการอยู่ร่วมกัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในสังคมรวมถึงในการทำโครงการนี้เรายังได้สร้างประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมอีกด้วย ขอขอบคุณ คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดินและโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ที่ได้มอบโอกาสดีๆให้กับนักศึกษา เยาวชน ในการลงพื้นที่ทำกิจกรรมในครั้งนี้ รวมไปถึงได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ จนกระทั่งโครงการของเราได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ อาจารย์ภูริภัทร ปัตถา /อาจารย์สุภาพร นันทศักดิ์/นายวทัต ฉายะวงษ์/นางสาวปนัดดา แจ้งเพชร / นางสาวกัญญารัตน์ โปธิเรือน / นางสาวนิติพร เพ็ชรฉกรรจ์ /นายจักพรรดิ์ จำปาเทพ /นายทวีพล คงทันดี / นางสาวสุพัตร เกษมุล / นางสาวชมพูนุท ทวีเลิศ



ตัวแทนมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (รางวัลที่ 2) กล่าวว่า สามารถนำศาสตร์ความรู้ในเรื่องของการทำเเชมพู เจลล้างมือเเละยากันยุงมาเผยเเพร่เเละต่อยอดเพื่อเป็นอาชีพเสริมให้กับคนในสังคมได้มีอาชีพที่มั่นคง ทำให้ระบบเศรษฐกิจของคนในพื้นที่เจริญยิ่งขึ้นซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนเเปลงเเละพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้ามากขึ้น ได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ได้ทำกิจกรรมเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ได้รู้จักการเสียสละเเละมีความสามัคคี เป็นการส่งเสริมให้นักศึกษาใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ได้เรียนรู้การเเก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขอบคุณโครงการเยาวชน คนสร้างชาติ ที่สร้างโครงการดีๆนี้ขึ้นมาเเละเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าร่วมโครงการเพื่อไปพัฒนาสังคมเเละประเทศชาติให้มีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ ผศ.วาสนา พิทักษ์ธรรม / นายจรัญ พิทักษ์ธรรม /นายอารีย์ จันทร์เรือง /นางสาวจีระภา บุญเกตุ / นางสาวอารีฟะห์ สะมะแอ / นายลุกมัน เส็งหลี / นางสาวนัฐยมี ปานกลาย / นางสาวอาอีเซาะห์ เจ๊ะอาแซ/ นางสาวฟาซีรา เงาะ / นายมูฮำหมัดฮาฟีซู เปาะแต




ตัวแทนมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (รางวัลที่ 3 ) กล่าวว่า โครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ทำให้เยาวชนได้ลงพื้นที่และทำงานร่วมกับชาวบ้านแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ชาวบ้านได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตในชุมชน อาชีพในชุมชน นักศึกษาได้ไปให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อยอดอาชีพที่มีอยู่ภายในชุมชุน เป็นการคืนคุณ คืนความรู้ และเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มเยาวชนและชาวบ้าน ขอบคุณทางโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ขอบคุณคุณประสิทธิ์เจัยวก๊ก ประธาน ที่ได้ จัดโครงนี้ขึ้น ให้เราได้มีโอกาสได้ตอบแทนคุณแผ่นดินโดยการทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อต่อยอดการเสริมสร้างรายได้ต่างๆให้กับชุมชน

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ ศศิชาฎา บุญจวง /ณัฐชนน ชัยอำนาจ /นราธร ยอดสง่า/ ภัทรวดี ตรีตรง/วิลาสินี มะโนชมภู / ปิยะธิดา ศรีทอง / ฌานนิช นวลคำ / ปนัดดา เข็มทอง /หัสยา วันดี


ตัวแทนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (รางวัลที่ 4 ) กล่าวว่า ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการคือ ได้เกิดไอเดียใหม่ๆ ที่เกิดจากการที่โครงการมอบหมายงานให้ ทำให้ทีมงานต้องระดมสมองช่วยกันคิดและเเก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นอีกประสบการณ์ที่ได้รับ สามารถต่อยอดในข้อบกพร่องและสิ่งที่ขาดไปของชุมชนได้ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคมหรือด้านต่างๆ หลักสำคัญคือจะทำยังไงให้คนในชุมชนเห็นความสำคัญของการพัฒนา แล้วพัฒนาไปพร้อมใจด้วยใจที่เปิดรับ ขอขอบคุณโครงการที่ให้โอกาสทางทีมงานได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน และขอบคุณที่มอบประสบการณ์ให้กับพวกเรา

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ ผศ.ว่าที่ร.ต.หญิง ยุวดี กวาตระกูล / นายปรัชญา สุพรรณแดง /นายเมธา แค่มจันทึก / นายเมธี แค่มจันทึก/ นายนลนภัทร พูลเพิ่ม/ นายทัศนัย ฮับซัน / นางสาววศินี พรมวงศ์ / นางสาวชุลีกร หรั่งศิริ




ตัวแทนมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (รางวัลที่ 5) กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ทำให้มีจิตสำนึกแห่งการเป็นพลเมือง กระตุ้นให้เกิดการสำนึกในสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว สังคมและประเทศชาติ สร้างพื้นฐานความรู้ความเข้าใจการพัฒนาประเทศรอบด้านอย่างมีปัญญา รู้คิด ครบทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพ เพื่อเตรียมพร้อมสู่บทบาทของผู้นำ เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายโครงการ คืนคุณแผ่นดิน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ ร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ในการพัฒนาสังคมและประเทศ ประโยชน์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการ ได้เรียนรู้การวางแผน การแก้ไขปัญหาและกระบวนการทำงานเป็นธีม ได้รับประสบการจริงและนำไปให้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ ชมรมค่ายอาสามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ขอขอบคุณ คุณประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ที่สนับสนุนที่โครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ทำกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อพัฒนาสังคมละประเทศชาติ และขอให้มีโครงการดีๆแบบนี้เรื่อยๆค่ะ ชมรมค่ายอาสามหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ นายอาคม ขุนทอง อาจารย์ที่ปรึกษา /นายสุรสิทธิ์ ธงทวัฒน์ เจ้าหน้าที่ /นายชนินทร์ อุดมพืช / นางสาวชนิศา สีสันต์ /นางสาวทิพวรรณ การปลื้มจิตต์ /นายชนาธิป รื่นระรส /นายยุทธพงษ์ คำเพชร /นางสาวกนกวรรณ ครองศิล / นางสาวเสาวภาคย์ วงษ์ขาว /นางสาวสุภาวิตา สกุลโอ๋ /นางสาวจุฑามาศ นีระมิตร /นางสาวสุพิชญา คงผึ้ง / นางสาวสุนันทา สิงห์ตุ๋ย /นายภาณุพันธุ์ จันทร์โต / นายพิทักษ์ เศวตนันท์ /นายกฤษณะ แก้วสุวรรณ /นางสาวธนัฏฐา ประสพสม / นางสาวกฤษณา เฟื่องฟุ้ง / นางสาววิภาวินี บุญรอด /นางสาวชลธิชา โพธิ์เผือก /นางสาวพิมพ์พิชชา เลยไธสง /นายติณณภัทร์ ยอดทอง


ตัวแทนมหาวิทยาลัยขอนแก่น (รางวัลที่ 6 ) กล่าวว่า โครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ทำให้ได้เรียนรู้ทักษะกระบวนการทำงานเป็นทีม ได้สร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ อาทิ การช่วยเหลือชาวบ้านและชุมชนให้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ได้นำองค์ความรู้ที่มีไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง ขอขอบคุณทางโครงการที่ให้โอกาสชมรมอาสาพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ จารุวัฒน์ มหามาตร / สุดารัตน์ จูมแก้ว / ปราจรีย์ บัวกอง /กัญญาณัฐ วงค์แก้ว



ตัวแทนมหาวิทยาลัยรามคำแหง (รางวัลที่ 7) กล่าวว่า โครงการเยาวชนคนสร้างชาติ ทำให้น้องๆเยาวชน อนาคตของชาติได้เรียนรู้ความหมายจิตสาธารณะ การเสียสละ การให้ และเกิดการพัฒนาจิตใจในการทำดีเพื่อสังคมส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ในนามมหาวิทยาลัยรามคำแหงขอขอบคุณโครงการคืนคุณแผ่นดินเป็นอย่างมากที่สนับสนุนการจัดโครงการในครั้งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ส่งเสริม สนับสนุน ให้เยาวชนได้เรียนรู้ความหมายจิตสาธารณะ การเสียสละ การให้ และเกิดการพัฒนาจิตใจในการทำดีเพื่อสังคมส่วนรวมมากกว่าส่วนตนและสามารถนำความรู้ 5 มิติ มาบูรณาการร่วมกับชาวบ้านในชุมชนในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ต่อไป

รายชื่ออาจารย์และนักศึกษาที่ลงพื้นที่ กิตติพงษ์ แทนคุณ / ศุภชัย กิ้มชาวสวน /ดลอาซีด ชายเร๊ะ / ราเชน คงยิ่ง/ สิทธิชัย พะยอม / วลีญา ไกรวงศ์ / จีรศักดิ์ สมสร / ไพจิตร โคตรมี / ดาริกา มากมูล / นฤชน รักษ์จันทร์


มหาวิทยาลัยทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วม “โครงการเยาวชน คนสร้างชาติ รุ่นที่ 2” เปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Facebook : โครงการคืนคุณแผ่นดิน หรือโทรสอบถามเจ้าหน้าที่เยาวชนคนสร้างชาติ อรรถพล ภูผา 063-901-1225 คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม “เยาวชน คนสร้างชาติ” โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้




ติดต่อประชาสัมพันธ์โครงการคืนคุณแผ่นดิน นุช นพวรรณ ดุจศรีวัชร์ 062-245-1457


GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...