วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

แกนนำ-ที่ปรึกษาสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ประชุมเดินหน้าเตรียมพร้อมจัดงานคาราวานแรลลี่”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” หวังเป็นคาราวานผสานความรู้เทคโนโลยี่-กฎหมาย พร้อมสุขภาพไปพร้อมกัน

 


            นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.) พร้อมด้วย อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต), พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้” (ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์)ที่ปรึกษาสถาบันฯ, อ.เภสัชกรอธิวัฒน์ สินรัชตานันท์ (นักวิชาการด้านสาธารณสุข-ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์ทางเลือก) คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์ (ประธานฯบริษัทและนักธุรกิจด้านอาหาร), ดร.สรุชัย เลี่ยมทอง (ประธานบริษัทฯเอดจิ้ง) พร้อมด้วย นายชนแดน  พรหมเมศร์ (นักธุรกิจสมุนไพร) ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานคาราวานแรลลี่”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” ที่จะมีขึ้นในปีหน้าเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความรู้ให้กับเครือข่ายในต่างจังหวัด โดยในวันนี้ได้มีคุณชัยวัฒ อภิภูทรัพย์ไพศาล ประธานบริษัท เอสวีจีซิลเวอร์โกลด์กรุ๊ป จำกัด ที่สารวัตรแรมโบ้ชักชวนมาร่วมอุดมการณ์ และนายจิรโรจน์  มาลัยทองทิพย์ (นักธุรกิจจากภาคตะวันออก 8 จังหวัด)และอ.ดนัย หริพัฒน์กุล(ครูมวยไทย) พาเครือข่ายมาร่วมประชุมด้วย   โดยที่ประชุมสรุปประเด็นสาระของการเตรียมความพร้อมจัดงานจะลงพื้นที่จังหวัดประจวบฯ(เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน) โดยคาราวานแรลลี่ครั้งนี้จะเป็นคาราวานความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนานและความบันเทิง มีการบรรยายทางวิชาการโดยทีมงานด้าน Leadership นำโดย Prof.อิน  นฤหล้า (นักวิชาการนานาชาติ)อดีตคณะบดีคณะบริหารเอแบคและทีมวิทยากร Prof.ปีแอร์ เดอลาลองด์ , Prof.สก็อต  บัดเล่ย์ และทีมวิทยากรสุขภาพ อ.เภสัชกรอธิวัฒน์  และ ดร.สุรชัย  เลี่ยมทอง ซึ่งในปีหน้าสถาบันฯจะลงพื้นที่ไปทุกภาคเพื่อพบกับเครือข่ายแกนนำที่ร่วมกันก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์  ตามนโยบายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้มีภาวะผู้นำตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนออกไปทั่วทุกภาค

 


              สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วย คุณอำนวย  โกวิทธรรมกรณ์ (นักธุรกิจด้านดับเพลิง) คุณธรรมรัตน์  เทพหัสดิน ณ อยุธยา (คอลัมนิสต์อาหาร) ดร.ปิยวัส ผดุงสรรพ (นักธุรกิจด้านเศรษฐกิจพอเพียง), นายเทวพร  เจริญมี (นักธุรกิจด้านประกัน-และพลังทางเลือก), นายอิศรานนท์  สิทธาพิสทธิ์กุล (ที่ปรึกษาบริษัทส่งออกผลไม้)-และคอลัมม์นิสต์รถยนต์, อาจารย์เปี๊ยก-คุณเกียรติพงษ์  พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ), กชกร​ ศิริชัยกูล (ธุุรกิจส่วนตัว)​,คุณเอกวาสิทธิ์ ภู่เจริญศิลป์ โดยการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ศกนี้







วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ททท.แจกใหญ่! มอบรถยนต์และของรางวัลอื่นๆ มูลค่ารวม 10 ล้านบาท ให้กับผู้โชคดีในแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง”

 



(26 พ.ย.63) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้โชคดี แคมเปญ เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง ลุ้นรางวัลกว่า 10 ล้านบาทหรือ เที่ยวไทยได้ลุ้นโดยมีพันธมิตรและสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) บริเวณล็อบบี้ ชั้น 1

 


โครงการ เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง ลุ้นรางวัลกว่า 10 ล้านบาท จัดทำขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง โดยทำกิจกรรมแจกของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทให้กับนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าและบริการภายใต้โครงการต่าง ๆ ของของ ททท.

 


นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมมาตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 15 พฤศจิกายน 2563 มีผู้เข้าร่วมแคมเปญทั้งสิ้น 1,141,219 สิทธิ์ สร้ายรายได้กว่า 547 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ ททท. ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวหลายภาคส่วน ที่ร่วมกันมอบส่วนลดโปรโมชันทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน โรงแรม โฮมสเตย์ รถเช่า ร้านอาหาร สนามกอล์ฟ รวมไปถึงได้จับมือกับองค์กรใหญ่ เช่น CENTRAL PATTANA, แมคโดนัลด์ ไดรฟ์ ทรู (Drive Thru), Thai Smile Airways, Thai Air Asia, Thai VietjetAir.com, นครชัยแอร์, application, Wongnai, Drivehub, Klook, Golfdigg, Traveligo,Thailand Food Paradise, Specialtiewthai ช่วยผลักดันสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะช่วยโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และ ชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 อีกด้วย

 


โครงการ เที่ยวเมืองไทยให้หายคิดถึง ลุ้นรางวัลกว่า 10 ล้านบาท จัดกิจกรรมมอบรางวัลใหญ่ในวันที่ 26 พฤศจิกายน โดยมีผู้ได้รับรางวัลใหญ่กว่า 100 รางวัลเดินทางมาร่วมงานในวันนี้ โดย

รางวัลที่ 1 รถยนต์ MG MG ZS D+ จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 742,946 บาท ผู้โชคดีได้แก่ คุณกัญจนา ธรรมนันท์ ภาคกลาง

รางวัลที่ 2 รถยนต์ Toyota Yaris 1.2 Entry CVT จำนวน 1 รางวัล มูลค่า  551,946 บาท ผู้โชคดีได้แก่ คุณศิริรัชฏ์ เขมะศิริ ภาคใต้

รางวัลที่ 3 ทองคำหนัก 10 บาท มูลค่ากว่า 289,500 บาท ผู้โชคดีได้แก่ คุณกองบุญ เจียมสมบัติ ภาคกลาง

             

สำหรับใครที่พลาดกิจกรรมในครั้งนี้ โปรดติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ได้ในครั้งต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หรือ https://www.tatnewsthai.org











วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)จับมือนักวิชาการ-นักธุรกิจ ประชุมจัดโครงการ”สรรค์สร้างไทย.. อนาคตไทยกิจกรรมคาราวานแรลลี่ลงท้องถิ่นในปี64 พร้อมขับเคลื่อนเดินหน้าสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ให้เป็นความหวังของประเทศในยุคเทคโนโลยี่

 

 

               วันที่ 23 พ.ย.63  นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Sangsan Instituteพร้อมนักวิชาการด้านกฎหมาย​อ.นิดาวรรณ​    เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ม.รังสิต) ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์ (นักวิชาการด้านศาสนา)​, พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้”แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์(Creativity  Party) , ดร.วัลลภ  ใหญ่ยิ่ง (นักวิชาการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์,), อ.เภสัชกรอธิวัฒน์  สินรัชตานันท์  (นักวิชาการด้านสาธารณสุข)​, ดร.ปิยะวัส ชอบพระ (นักวิชาการด้านเศรษฐกิจพอเพียง)​, ดร.สุรชัย   เลี่ยมทอง  (ประธานสถาบันเอดจิ้ง), คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์(นักธุรกิจด้านอาหาร) และคุณชนแดน พรหมเมศร์(นักธุรกิจสมุนไพร) พร้อมด้วย อ.สุพัฒก์  ชุมช่วย(นักวิชาการอิสระและGTO) ร่วมกันประชุมคณะกรรมการกับเครือข่ายรวมพลังทำดีเพื่อแผ่นดิน เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมคาราวานลงท้องถิ่นในปีหน้า ในโครงการที่ชื่อว่า”สรรค์สร้างไทย  อนาคคตไทย” โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นการรวมพลังของนักธุรกิจรุ่นใหม่และผู้คนหลากหลายสาอาชีพลงไปทำกิจกรรมในท้องถิ่น พร้อมกับเปิดรับฟังข้อมูลของเครือข่ายสถาบันฯในต่างจังหวัดที่จะรวมกันสร้างตัวแทนของผู้นำรุ่นใหม่ในทุกภาคโดยรูปแบบจะเป็นการจัดคาราวานแรลลี่ ควบคุ่ขนานไปกับเวทีเสวนาความรู้ด้านกฎหมายและเทคโนโลยี่ไปพร้อมกัน




                อาจราย์นิดาวรรณ เพราะสุนทร(ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต)และในฐานะกรรมการโครงการสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย” กล่าวว่ากิจกรรมนี้นอกจากเป็นการรวมแรงร่วมใจกันหลาย ๆฝ่ายแล้วยังได้ความรู้ควบคุูไปกับกิจกรรม ในยุคเทคโนโลยี่ทุกวันนี้เราสามารถจะเรียนรู้กฎหมายทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ เหมือนที่ม.รังสิต เรียนอยู่ที่บ้านพอสอบถึงจะมามหาวิทยาลัย วันนี้เราได้สร้างเครือข่ายและสถาบันฯเป็นตัวขับเคลื่อน และยังมีแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์ ที่มีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่หลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมมือกันอย่างเต็มที่

                 ทางด้านดร.วัลลภ  ใหญ่ยิ่ง (นักวิชาการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์)ที่เคยเป็นผู้บรรยายให้อสม. กล่าวว่าในฐานะที่เป็นกรรมการสถาบันฯและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ กล่าวว่ากิจกรรมโครงการสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย ครั้งนี้เป็นการจัดกรรมการที่ลงไปในพื้นและจะกระจายออกไปในหลาย ๆ พื้นที่ในอนาคตเป็นการรวมพลังของผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติที่มีอุดมการณ์เดียวกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่การทำประโยชน์ เพื่อสังคมและการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ไปด้วยในตัว




              พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้” ที่ปรึกษาสถาบันฯและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์ กล่าวว่าเราได้นักวิชาการที่หลากหลายจริง ๆ แม้กระทั่ง ดร.ปิยะวัส  ชอบพระ (นักวิชาการด้านเศรษฐกิจพอเพียง) ก็จะมาช่วยทางด้านสร้างอาชีพและรายได้ให้เกิดกับท้องถิ่นเอาความรู้ด้านเกษตรกรรม ในการจะสร้างนวตกรรมด้านเกษตรมาำให้เกิดรายได้กับท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนให้เกิดรายได้ในหลายมิติ กิจกรรมสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย จึงได้ทั้งความรู้และการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วยในตัว

                  คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร) กล่าวว่าดีใจที่มีส่วนได้ร่วมกิจกรรมโครงการฯดี ๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ในฐานะที่ได้ร่วมกิจกรรมกับสถาบันฯมาตั้งแต่ต้นเห็นด้วยการมีแนวคิดในการมีนโยบายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ให้มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและมีภาวะผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ อย่างต้นเองก็มีคุณศรีเวียง ไตรธีระประภาส รุ่นพี่มาร่วมเป็นจิตอาสากับโครงการฯด้วยเหมือนกัน

                    สำหรับรายนายคณะกรรมการโครงการสรรค์สร้างไทย  …อนาคตไทย ยังประกอบด้วยProf.อิน นฤหล้า(อดีตคณะบดีบริหารธุรกิจเอแบค)Prof.ปีแอร์ เดอลาลองด์,Prof.สก็อต บัดเล่ย์, ดร.แสวง  วิทยพิทักษ์(อาจารย์ป.เอก ม.ราชภัฎจอมบึง) ดร.โชค ชัลวาลย์ (นักธุรกิจ-ศิลปิน) ,คุณอิศรานนท์ สิทธาพิสุทธิ์กุล(ที่ปรึกษาบ.ผลไม้ส่งออกฯบ.ไรซิง จก.) คุณเกียรติพงษ์  พิณทอง(หมอเปี๊ยก-ธุรกิจส่วนตัว), อ.ดนัย  หริพัฒน์กุล  (อาจารย์ครูมวยไทย), คุณสมบูรณ์   แสงสว่าง ประธานชุมชนฯ, นายพงษ์วุฒิ  ไตรธีระประภาศ(ธุรกิจส่วนตัว),คุณอำนวย  โกวิทธรรมกรณ์(นักธุรกิจ), อ.สุพจน์  สะแกงาม(นักวิชาการอิสระกสิกรรม)







ปวดท้องน้อย..อย่าปล่อยผ่าน ภัยเงียบใกล้ตัวผู้หญิงที่ต้องเผชิญ เสี่ยงโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

 

  • สูตินรีแพทย์ แนะนำผู้หญิงไทยที่มีอาการ ‘ปวดท้องน้อย อย่าปล่อยผ่าน’ เพราะอาจมีความเสี่ยงเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เตือนให้รีบมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาแต่เนิ่นๆ



              สุขภาพของสุภาพสตรีนับเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนและบอบบาง โดยหนึ่งใน ภัยเงียบ’ ที่ใกล้ตัวมากๆ จนส่งผลลบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นคือ โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่’ หรือที่รู้จักกันดีว่า ‘โรคช็อกโกแลตซีสต์’ หากพบสัญญาณอาการป่วย ไม่ควรละเลยหรือปล่อยไว้นาน เพราะอาจลุกลาม อันตราย และถึงขั้นเสียชีวิตได้

สาเหตุของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เชื่อว่าเกิดจากภาวะประจำเดือนไหลย้อนกลับเข้าไปในช่องท้อง ซึ่งประจำเดือนเหล่านี้มี ‘เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก’ อยู่ด้วย เมื่อไปเกาะอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งก็อาจเจริญเติบโต เกิดเป็นพังผืด อาทิ สะสมอยู่ในรังไข่จนเกิดเป็นก้อนสีดำคล้ำ คล้ายช็อกโกแลต จึงมักเรียกกันว่า ถุงน้ำช็อกโกแลต’ หรือ ‘ช็อกโกแลตซีสต์’ นั่นเอง 



            นพ.อรัณ ไตรตานนท์ สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าของเพจให้ความรู้ด้านสุขภาพ อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน” กล่าวว่า ผู้หญิงเกือบทุกคนมีโอกาสที่จะเกิดภาวะประจำเดือนไหลย้อนกลับด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือมีถุงน้ำช็อกโกแลตในช่องท้อง จากการศึกษาพบผู้หญิง 100 คน มีภาวะประจำเดือนไหลย้อนกลับได้ 90 คน แต่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกฯ ประมาณ 10-15 คน

สำหรับสัญญาณเตือนภัยผู้หญิงที่เสี่ยงจะเป็นโรคนี้ นพ.อรัณ ระบุว่า มี 5 ประการหลักๆ คือ 1.ปวดท้องน้อยเป็นประจำเวลามีประจำเดือน 2.ปวดท้องน้อยรุนแรงมากขึ้นตามอายุ แม้ในระหว่างที่ไม่ได้มีประจำเดือน 3. ผู้หญิงที่มีบุตรยาก 4. ผู้หญิงที่มีอาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ 5. มีแม่ พี่สาว หรือญาติ ป่วยเป็นโรคนี้มาก่อน 

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อผู้หญิงไม่ควรละเลยอาการของตัวเอง เพราะรอยโรคอาจจะใหญ่มากขึ้น อาทิ ช็อกโกแลตซีสต์อาจจะขยายจาก 1 เซนติเมตรอาจเติบโตไปถึงขนาด 8-10 เซนติเมตรได้ และในที่สุดจะแตกและตกเลือดในท้อง จนทำให้เสียชีวิต นอกจากนั้น ยังพบผู้ป่วยสัดส่วนร้อยละ 0.1-1 เกิดภาวะ มะเร็งรังไข่ชนิด Clear Cell เนื่องจากการเซลล์กลายพันธุ์อีกด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายและส่งผลการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้ป่วยในอนาคต

โรคนี้เหมือนกับทุกโรค คือ รู้เร็ว รักษาทัน ขอให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ทันที อย่ากลัว และบอกอาการให้ชัดเจน ครบถ้วน อาทิ ปวดตรงท้องน้อยมาก ปวดมากจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เมื่อมีประจำเดือน ทั้งนี้จะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาได้อย่างทันท่วงที”

ทั้งนี้ กระบวนการรักษา นพ.อรัณ อธิบายว่า มี 2 แบบ คือรักษาด้วยยาและการผ่าตัด สำหรับการให้ยามีทั้งยาแก้ปวดสำหรับคนไข้ที่ปวดไม่มากและอัลตร้าซาวน์ไม่พบรอยโรค และการให้ยาแบบเฉพาะเจาะจงในกลุ่มที่มีถุงน้ำช็อกโกแลตหรือปวดรุนแรง แต่ยาจะไปขัดขวางการตกไข่ จึงทำให้คนไข้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ จนกว่าอาการจะดีขึ้น และหลังจากมีบุตรแล้ว แพทย์จะประเมินอาการอีกครั้ง เพื่อประเมินโอกาสการกลับเป็นซ้ำและความจำเป็นในการรับประทานยาในระยะยาว

ส่วนกลุ่มคนไข้ที่ต้องผ่าตัด คือรับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น มีปัญหามีบุตรยาก หรือมีถุงน้ำช็อกโกแลตเกิน 3 เซนติเมตร และมีอาการปวดมาก สามารถผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งเจ็บน้อยและแผลเล็กมาก อย่างไรก็ดีเพื่อลดภาระของคนไข้ แนวทางการรักษาหลักในปัจจุบันจะเป็นการใช้ยาฮอร์โมน (Empirical treatment) ซึ่งจากสถิติพบว่าอาการปวดของคนไข้ส่วนใหญ่หายได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนแรกหลักจากรับประทานยา โดยไม่ต้องเจ็บตัวและลดค่าใช้จ่ายจากการผ่าตัดได้

อย่างไรก็ตาม นพ.อรัณ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก แม้ผ่านการให้ยาหรือผ่าตัดแล้ว ตราบใดที่ผู้หญิงยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หรือมีประจำเดือนนั่นเอง ระยะปลอดจากโรคนี้จริงๆ คือเมื่อเข้าสู่วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนแล้ว 

นพ.อรัณ จึงฝากบอกผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนว่าถ้า ปวดท้องน้อย อย่าปล่อยผ่าน” รีบมารักษาเนิ่นๆ ก่อนสายเกินแก้ แค่นี้ก็จะหยุดยั้งโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และห่างไกลจากภาวะ ช็อกโกแลตซีสต์ ได้!




 

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

Netflix คอนเฟิร์มมาแน่! KINGDOM: ASHIN OF THE NORTH

 



              Netflix ประกาศสร้าง Kingdom: Ashin of the North ภาคแยกของซีรีส์ซอมบี้ ที่ทั้งโลกรอคอย พร้อมตัวละครใหม่สุดลึกลับ นำแสดงโดย จอนจีฮยอน และ พัคบยองอึน

              Kingdom: Ashin of the North จะเป็นภาคแยกพิเศษจาก Kingdom 2 บอกเล่าเรื่องราวของตัวละครลึกลับทางเหนือของอาณาจักร ที่องค์ชายอีชางและคณะได้พบระหว่างเดินทางไปค้นหาต้นตอของโรคร้ายปลุกคนตายกลายเป็นซอมบี้ ซึ่งการปรากฎตัวของจอนจีฮยอน ในบท ‘อาชิน’ ช่วงท้ายของ Kingdom 2 ได้กลายเป็นชนวนสำคัญ ทั้งกับเรื่องราว และทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่แพร่กระจายไปทั่วโซเชียลในตอนนั้น

              จอนจีฮยอน และพัคบยองอึน นักแสดงใหม่จากซีซั่น 2 จะมาเป็นตัวละครสำคัญ

โดย จอนจีฮยอน รับบท อาชิน ที่ในภาคนี้จะเปิดเผยความลับเบื้องหลังตัวตนของเธอ และสิ่งที่เกิดขึ้นในแคว้นทางเหนือก่อนหน้านี้ ส่วนพัคบยองอึน รับบท มินจีรอก ผู้นำกองบัญชาการหลวง ที่เราต้องติดตามว่าเขามีความเกี่ยวพันอย่างไรกับหญิงสาวจากแดนเหนือ

เพื่อคลี่คลายปริศนาของการติดเชื้อ และพืชฟื้นคืนชีวิตว่ามีต้นกำเนิดจากไหน ในภาคแยก Kingdom: Ashin of the North ผู้กำกับ คิมซองฮุน ที่ลงมือกำกับเองในซีซั่นแรก และดูแลภาพรวมซีรีส์ในซีซั่นสอง จะกลับมาร่วมงานกับนักเขียน คิมอึนฮี อีกครั้ง โดยจะเป็นการทำงานร่วมกับ Baram Pictures, BA Entertainment และ Studio Dragon   จักรวาลส่วนต่อขยายของซีรีส์ Kingdom เอพิโสดพิเศษนี้จะเป็นการขยายความเรื่องราวที่จะทำให้การดูซีรีส์ Kingdom สนุกขึ้น เดือดขึ้น ท้าทายยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นเหมือนของขวัญพิเศษระหว่างการรอคอย Kingdom SS3 ออกอากาศ

Kingdom: Ashin of the North จะออกอากาศทั่วโลกทาง Netflix เท่านั้น เตรียมตัวค้นหาปริศนากำเนิดซอมบี้กันได้ที่นี่ที่เดียว!






ททท.เปิดสัมผัส"สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง"คว้า“ใหม่ ดาวิกา”สวมชุดนางนพมาศ

 


              การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ กรมศิลปากร เปิดสัมผัสบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นกรุงเก่า สะท้อนกลิ่นอายของกรุงศรีอยุธยาที่รุ่งเรืองและงดงามในอดีต ผ่านการชูจุดเด่นด้านประเพณี วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ที่บ่งบอกคุณค่าความเป็นไทย ตั้งแต่วันที่ 29 - 31 ตุลาคม 2563 ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ผ่านมา โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า



ในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สืบสานงานประเพณีลอยกระทง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้ชื่องาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” เพื่อถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตอันทรงคุณค่า โดยภายในงานพบกับกิจกรรมส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมของไทยหลากหลาย รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาทิ การแสดงโขน ชุดกวนน้ำอมฤต การแสดงหุ่นละครเล็กคลองบางหลวง การแสดงระบำศรีอโยธยา การแสดงนบบูชามหานที การแสดงโขน ตอนหนุมานจับนางสุพรรณมัจฉา โดยจัดให้มีพิธีเปิดงานด้วยขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงวิถีไทย สุดยิ่งใหญ่ โดยนางนพมาศ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” นักแสดงชื่อดัง จัดเต็มด้วยชุดไทยงดงามสุดอลังการ และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่ไม่ควรพลาดคือพิธี "จองเปรียงลอยประทีป" ที่สืบทอดประเพณีตั้งแต่โบราณกาลที่ใช้ในราชสำนัก รวมไปถึงการออกร้านขายสินค้าหัตถกรรม Premium crafts and food นอกจากนี้ ยังมีการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังคับคั่งอาทิ กัน นภัทร, แก้ม วิชญาณี, เบน ชลาทิศ และ ไข่มุก รุ่งรัตน์ ที่มาร่วมสร้างสีสัน ตลอด 3 วันของการจัดงาน การจัดงานครั้งนี้สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายและก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการส่งเสริมกิจกรรมที่สะท้อนคุณค่าความเป็นไทย โดยใช้กิจกรรมเป็นจุดขาย สร้างการรับรู้ตอกย้ำความเข้มแข็งงานประเพณีลอยกระทงที่สำคัญของประเทศไทยไปสู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงสู่พื้นที่การจัดงานประเพณีลอยกระทงทั่วประเทศในรูปแบบ New Normal”







 


วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ส่งภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติของ บูม! สตูดิโอส์ “THE EMPTY MAN เป่าเรียกผี”

 


ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ สตูดิโอส์ ส่งภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติที่สร้างจากซีรีส์นิยายภาพสุดฮิตของ บูม! สตูดิโอส์ โดยผู้กำกับ เดวิด ไพรเออร์ กับภาพยนตร์เรื่อง“THE EMPTY MAN เป่าเรียกผี” ที่นำแสดงโดย เจมส์ แบดจ์ เดล, มาร์ติน ไอร์แลนด์, สตีเฟ่น รูท, รอน คานาดา, โรเบิร์ต อรามาโย, โจล คอร์ทนีย์ และ ซาช่า โฟรโลว่า อำนวยการสร้างโดย รอส ริชชี่ และสตีเฟ่น คริสตี้ สร้างจากนิยายภาพโดย คัลเลน บันน์  เนื้อเรื่องภาพยนตร์และบทภาพยนตร์โดย เดวิด ไพรเออร์

              The Empty Man – เป่าเรียกผี ว่าด้วยเรื่องราวหลังจากกลุ่มวัยรุ่นจากเมืองเล็ก ๆ ในฝั่งตะวันตกตอนกลางเริ่มหายตัวไปอย่างลึกลับ ชาวเมืองต่างเชื่อว่าเป็นฝีมือของตำนานพื้นบ้านที่รู้จักกันในชื่อว่า “เอมป์ตี้แมน” ตำรวจเกษียณนายนึงได้สืบสวนหาสาเหตุและเหตุผลที่ยากจะเข้าใจของเรื่องราวทั้งหมด เขาได้ค้นพบกลุ่มคนลึกลับและความพยายามที่จะอัญเชิญสิ่งลึกลับที่มีพลังอันชั่วร้าย รวมถึงตามเอาชีวิตเขา และชีวิตของคนที่ใกล้ชิดเขา กำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง

              เตรียมสัมผัสสิ่งลี้ลับใน“The Empty Man – เป่าเรียกผี” จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 12 พฤศจิกายน 2563


“กงลี่”สลัดภาพเซ็กซี่มาสวมชุดวอร์มสอนตบ! ใน“LEAP ตบให้สนั่น”

 


              มงคลภาพยนตร์ พาคุณสู่สนามการแข่งขันและสัมผัสเรื่องจริงของโค้ชชื่อดังวงการวอลเลย์บอลในภาพยนตร์เรื่อง LEAP ตบให้สนั่น” ได้นักแสดงสาวเซ็กซี่ กงลี่ มารับบท โค้ชหลางผิง โดยกงลี่เล่าถึงก่อนหน้าปฏิเสธจะรับบท โค้ชหลางผิง และการตัดสินใจรับเล่นว่า

ตอนแรกที่ปฏิเสธ เพราะรู้สึกว่าบทนี้ค่อนข้างมีความกดดันสูง เนื่องจากโค้ชหลางผิงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และเขาคือตัวแทนของผู้หญิงทั่วโลก เลยกลัวมากว่าจะแสดงเป็นหลางผิงออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่พอได้ศึกษาบท และอ่านสคริปต์แล้ว รู้สึกเหมือนกำลังได้เป็นนักวอลเลย์บอลหญิง อีกทั้งยังมีคำพูดของโค้ชหลางผิงที่กล่าวไว้ว่า “หากเธอไม่ลองทำดู จะรู้ได้ยังไงว่าจะแพ้หรือชนะ ฉะนั้นต้องมีความกล้าที่จะลองทำ” หลังจากอ่านสคริปต์นี้แล้ว ก็เลยพูดกับตัวเองว่า โอเค งั้นฉันจะลองดู นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์โค้ชหลางผิงรวมทั้งนักกีฬาคนอื่น ๆ ตอนสัมภาษณ์พวกเขามีเหงื่อไหลตลอดเวลา นอกจากนี้ตอนดำเนินการถ่ายทำ ทำให้รู้สึกเหมือนว่าตัวเองมีพลังขึ้นเรื่อย ๆ ในการแสดง ประมาณว่าถ่ายบทนี้เสร็จแล้วอยากจะถ่ายบทถัดไปต่อทันที นอกจากจะรับบทหลางผิงแล้วยังช่วยด้านการวางแผนด้วยค่ะ  คือทุกคนจะสามารถมีส่วนร่วมในการออกความคิดเห็นบทตัวละครในสคริปต์บางตัว หรือแม้แต่การสร้างตัวละครเอง ทุกคนก็สามารถปรึกษาหารือกันได้ตลอด ฉันยังรู้สึกว่าถ้าทุกคนมีส่วนร่วมแบบนี้จะสามารถทำให้สร้างหนังออกมาได้ดีมากขึ้น ส่วนคนที่มาแสดงร่วมกัน พวกเขามีความสำคัญมาก ถ้าหากสมมติว่าแค่ไปเล่นตามบทเฉย ๆ ฉันรู้สึกว่าอาจจะไม่เพียงพอ ต้องใส่ความรู้สึกการมีส่วนร่วม ความเห็นอกเห็นใจกัน รวมทั้งความคิดเห็นของแต่ละคน แบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าจะสามารถทำให้ผลงานออกมาได้ดียิ่งขึ้น สำหรับการแสดงเป็นโค้ชหลางผิง ฉันคิดว่าไม่ได้แค่แสดงเลียนแบบรูปร่างหน้าตาของเขาเท่านั้น ตอนที่ฉันไปคุยกับโค้ช ตอนนั้นเขากำลังฝึกซ้อมอยู่ ก็ดูเขาฝึกซ้อมมองไปที่แววตาของเขา และตอนที่ได้พูดกับเขา ฉันรู้สึกได้ถึงคำที่ว่าไม่มีการยอมแพ้ แสดงให้เห็นถึงพลังของการไม่ยอมแพ้ของทีมชาตินักวอลเลย์บอลหญิงจีน ที่มีแต่ความต้องการที่จะชนะทั้งนี้ก็ไม่หวาดหวั่นกับคำว่าพ่ายแพ้ ในตอนนั้นเองที่ได้เจอโค้ช ความรู้สึกนั้นก็ได้ซึมซับไปในตัว และคิดว่าจะต้องนำความรู้สึกเหล่านี้แสดงออกมาให้เหมือนกับโค้ชหลางผิงได้มากที่สุด อีกมุมของโค้ชก็มีทั้งความอ่อนโยนและสวยงาม แต่อีกมุมก็มีความเข้มแข็งซ่อนอยู่ นอกจากนี้ทางด้านจังหวะการเคลื่อนไหวทางกายยังมีความว่องไวมาก การที่มีต้นแบบเป็นบุคคลในชีวิตจริง ๆ ฉันรู้สึกว่ายากค่ะ ค่อนข้างยากเลย เนื่องจากเขาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีชีวิตจริง ๆ ผู้คนต่างประทับใจในตัวเขา หากแสดงผิดเพี้ยนไป อาจจะกลายเป็นข้อผิดพลาดได้ง่าย จึงต้องมีสมาธิอย่างมากในการแสดง ดังนั้นการที่จะแสดงให้เหมือนเขาจริง ๆ ทั้งยังเป็นบุคคลทางสังคมถือว่าเป็นบทที่ยากพอสมควร ทุกวันเห็นข่าวทางออนไลน์ บางครั้งก็คุยกับทางผู้กำกับ ว่ายังมีความรู้สึกกลัว ๆ สำหรับบทบาทนี้อยู่เลย จะแสดงบทนี้ได้จริง ๆ เหรอ แต่ระหว่างการถ่ายทำก็ทำให้เข้าใจบทมากขึ้นและสามารถสื่อออกมาได้เสมือนเป็นโค้ชหลางผิงจริง ๆ แต่บางทีก็ยังมีความรู้สึกกดดันจนทำให้พูดไม่ออกจริง ๆ และได้คุยกับ ไป๋ล่าง ที่รับบทลูกสาวตอนแต่งหน้าเสร็จแล้ว เขาก็พูดกลับมาว่า “นี่คือแม่ของฉัน” เหมือนเวลาที่เขามองแม่ของเขา แล้วก็เวลาฉันมองไปที่เขาแล้วก็คิดว่าเหมือนตัวเองจัง บุคลิกเขาจะคล้ายกับหลางผิงมาก เวลาเขายิ้มก็จะมีลักยิ้มสองข้าง แล้วก็เหมือนหลางผิงจะมีลักยิ้มหนึ่งข้าง ตอนที่เราเจอกันตอนนั้น มองตากันก็จะมีความรู้สึกถึงแววตาที่ไม่เหมือนกัน มีความรู้สึกที่ต่างกันพอสมควร



              ประสบการณ์ของฉันเกี่ยวกับวอลเลย์บอลหญิง ตอนเด็ก ๆ อยู่บ้านเคยดูทีมวอลเลย์บอลหญิงทางทีวี เลยพอได้เห็นการแข่งขันมาบ้าง ฉันก็ติดตามมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจกีฬาวอลเลย์บอลมากนัก ยิ่งตอนยังเด็กแทบจะไม่เข้าใจเลย พอโตขึ้นมาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าวอลเลย์บอลมีวิธีการเล่นหรือนับคะแนนอย่างไร แต่ว่าพอได้ดูทีมวอลเลย์บอลหญิงแล้วทำไมรู้สึกดูเท่ห์จัง หลังจากการแข่งขัน การชนะในแต่ละครั้ง พ่อแม่ พี่ชาย ฉันมีพี่ชายสามคน พี่สาวหนึ่งคน ซึ่งแก่กว่าประมาณสิบกว่าปี พวกเขารู้สึกตื่นเต้นไปด้วยทุกครั้ง เลยรู้สึกว่าความทรงจำในครั้งนั้น คิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนตัวแทนของประเทศ เป็นดั่งฮีโร่ในสายตาทุกคน พอถึงตอนที่ฉันได้รับบทนี้ ก็ไปถามพี่ชายและเพื่อน ๆ รอบตัว ว่าตอนนั้นความรู้สึกพวกเธอเป็นอย่างไรบ้าง พี่ชายฉันยังเป็นแฟนคลับตัวยงของทีมนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ตอนที่ไปหาฉัน พี่ชายยังถามว่าเมื่อไหร่โค้ชหลางผิงจะมา เขาเป็นแฟนคลับตัวจริงเลยล่ะ ตอนที่กำลังถ่ายทำก็มีแฟนคลับของทีมวอลเลย์บอลมาชิดติดขอบติดตามเสมอ ฉันก็ติดตามดู แต่ไม่ได้ถึงกับแบบแฟนคลับขนาดนั้น เพราะฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ แต่หลังจากที่ได้เข้าไปสัมผัสกับชีวิตในทีมวอลเลย์บอลหญิง เลยคิดว่าถ้าหากมีโอกาสเกิดใหม่อีกครั้ง ฉันอยากจะเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลบ้าง และเต็มใจจะทำมันจริง ๆ  ตอนที่เดินทางไปที่เป่ยหลุน ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ไม่อย่างนั้นคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นพวกเขาฝึกซ้อม พวกเขาไม่ได้ซ้อมตลอดเวลา มีช่วงพักเบรก บังเอิญเป็นสถานที่ฝึกซ้อม เลยมีเวลาประมาณสิบวันให้ฉัน ฉันก็ไปพักที่นั่นเลย และในแต่ละวันก็ตื่นแปดโมงซ้อมถึงตอนพักเที่ยง พวกเขาพักเที่ยงหนึ่งชั่วโมง ตอนบ่ายก็อยู่กับพวกเขาตลอดเวลา นอกจากนี้เพิ่งได้ทราบว่าเอวและเท้าของโค้ชหลางไม่ค่อยดี เลยต้องนั่งบ้างและมองดูลูกทีมฝึกซ้อม แต่ในช่วงเวลาที่ฉันไป ยังเคยพูดกับโค้ชหลางว่าสิบกว่าวันมานี้ ฉันยังไม่เคยเห็นโค้ชนั่งเลย ลูกทีมของโค้ชพูดขึ้นมาว่าเพื่อฉันเลยที่อยากจะให้เห็นตอนเวลาซ้อมจริง ๆ โค้ชเป็นอย่างไร ทั้งน้ำเสียง วิธีการ รวมทั้งท่าทางเล่นวอลเลย์บอล จากนั้นมาฉันก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เพราะร่างกายของโค้ชก็ไม่ค่อยดี ตอนเวลาถ่ายทำก็นั่งไม่ได้ โค้ชเลยต้องยืนตลอดเวลา กิจวัตรประจำวันของทีมวอลเลย์บอล เช่น ตอนเช้าตื่นเช้ามาเข้าแถวเรียงหนึ่ง คุยกันว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง พูดจบก็เป่านกหวีด ไปฝึกซ้อมได้ ส่วนตอนเย็นซ้อมเสร็จก็เป่านกหวีด เข้าแถว อย่างกับค่ายทหารของนักรบประมาณนั้น พอฉันได้รู้เบื้องหลังแล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าเกิดพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็จะรู้สึกน้ำตาไหล พวกเขาฝึกหนักมาก เพื่อการแข่งขัน พวกเขาหวังที่จะชนะ แต่ก็ไม่หวั่นกับความพ่ายแพ้ ตอนที่ฉันจดบันทึก ก็ได้จดทุกอย่างทั้งคำพูด หน้าที่ทั้งหมด ส่วนวิธีการฝึกซ้อมของพวกเขาเป็นการฝึกแบบสมัยใหม่ ยุคใหม่ เช่น การเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ช่วยในการฝึกซ้อม ตอนที่ฉันจดบันทึกยังรู้สึกว่าแต่ละอย่างยากเกินไป  สำหรับฉันกับหลางผิงจุดที่เหมือนกันของเราคือ การไม่ยอมแพ้ คือแค่ให้โอกาส ก็พร้อมจะสู้ต่อ อยากจะทำให้ดีที่สุด เหมือนกับคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ แบบนั้น”

 

              เตรียมไปให้กำลังใจ “LEAP ตบให้สนั่น” 5 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์








วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

“SPM Coffee” กาแฟเพื่อสุขภาพที่ผลิตโดยบริษัทที่ร่วมทุนกับ สวทช. ให้คนไทยปลอดภัย ไร้โรค

 


บริษัท ไมโครอินโนเวต จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นผู้ผลิตกาแฟปรุงสำเร็จรูป SPM Coffee กาแฟเพื่อสุขภาพ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอเลสเตอรอล อุดมไปด้วยสารสกัดเพื่อสุขภาพนานาชนิด เพื่อสุขภาพที่ดีของคอกาแฟยุคใหม่

ในปัจจุบัน กระแสการดื่มกาแฟตามร้านหรือคาเฟ่ต่างๆ กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หลายคนจริงจังถึงขึ้นติดกาแฟจนขาดไม่ได้ อาการคล้ายกับว่าถ้าวันไหนไม่ได้ดื่มก็จะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง จนกาแฟเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตเรามากขึ้น

ร้านกาแฟ คาเฟ่ต่างๆ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนสามารถพบเจอได้ทุกหัวมุมถนน แต่ถ้าหากลองมองลึกเข้าไปอีกนึดนึง ส่วนประกอบของกาแฟแก้วอร่อยที่เรากำลังดื่มอยู่นั้นมันประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ในหนึ่งแก้วเราได้รับความหวานทั้งจากน้ำตาล น้ำเชื่อมและนมข้นหวาน ความหอมมันจากนมข้นหวานและครีมเทียม แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้หากกินติดต่อกันแม้เพียงสัปดาห์เดียวก็สามารถเพิ่มน้ำหนักตัวได้หลายกิโลกรัมและเป็นตัวการสำคัญของกลุ่มโรค NCDs ที่เกิดจากไขมันทรานส์จากส่วนผสมในกาแฟแก้วโปรดของคุณอย่างครีมเทียม ที่เมื่อได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากๆ ก็จะเป็นการเพิ่มระดับไขมันเลว (LDL)  และลดไขมันดี (HDL) ในเส้นเลือด ซึ่งนำไปสู่โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ รวมถึงโรคเบาหวานอีกด้วย เราจึงพบเห็นผู้ป่วยด้วยโรคต่างๆเหล่านี้ เป็นกลุ่มอายุน้อยลงไปทุกที

มีการเก็บข้อมูลว่า แม้ว่าบริษัทจะมีมุมกาแฟสำหรับพนักงาน แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้พอใจกับรสชาติกาแฟสวัสดิการของบริษัทเท่าไรนัก 66% ของคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำยังคงพอใจที่จะซื้อกาแฟดื่มเองเพื่อรสชาติและคุณค่าของแบรนด์ที่ชอบ และนอกจากนี้ในปัจจุบันกลุ่มของนักดื่มกาแฟยังเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุน้อยลงเมื่อเทียบกับนักดื่มกาแฟรุ่นก่อนๆอีกด้วย



อันตรายจากไขมันทรานส์

              ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขประกาศบังคับใช้กฎหมายห้ามผลิต นำเข้า และจำหน่าย ทรานส์แฟท (Trans Fat) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ไขมันทรานส์ ซึ่งถ้าหากได้รับเข้าไปในปริมาณมากๆ ก็จะก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น มะเร็ง โรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคสมองเสื่อม(อัลไซเมอร์) จอประสาทตาเสื่อมรวมถึงนิ่วในถุงน้ำดีได้

              แต่ก็ใช่ว่าจะทานไขมันทรานส์ ไม่ได้เลยนะคะ เพราะเอาเข้าจริงๆ พฤติกรรมในชีวิตประจำวันก็คงจะทำให้ใครหลายคนเลี่ยงได้ยาก องค์การอนามัยโลก (WHO) จึงแนะนำว่า  ไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 1% ของพลังงานที่เราได้รับต่อวัน ซึ่งพลังงานเฉลี่ยที่ควรได้รับอยู่ที่ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน ก็เท่ากับว่าเราไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันทรานส์เกิน 2.2 กรัมต่อวัน หรือคิดเป็น 0.5 กรัม (500 มิลลิกรัม) ต่อหน่วยบริโภค เพื่อสุขภาพที่ดี


4 ใน 5 ลำดับแรกของสถิติการเสียชีวิตของคนไทย เริ่มต้นมาจากโรคที่เกิดจากการบริโภคและการสะสมของไขมันทรานส์นั่นเอง สืบเนื่องมาจากการใช้ชีวิตประจำวันและพฤติกรรมการกิน เช่น การทำงานหนัก การกินอาหารจังก์ฟู้ดที่ให้พลังงานมากเกินความจำเป็นและไม่มีคุณภาพทางโภชนาการ การดื่มเครื่องดื่มที่มีความหวาน ไขมันและคอเลสเตอรอลในปริมาณมาก แม้สั่งแบบหวานหรือไม่หวาน พนักงานก็ยังคงใส่น้ำเชื่อมหรือน้ำตาลให้เราอยู่ดี แต่แค่ในปริมาณที่น้อยกว่าเดิมเท่านั้นเอง ถึงเวลาที่เราจะดูแลสุขภาพกันแล้วหรือยัง



ทำไมต้องเป็น SPM Coffee

SPM Coffee เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคอกาแฟที่รักสุขภาพในยุคนี้ นอกจากรสชาติที่อร่อย หอม กลมกล่อมจากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าที่มีคาเฟอีนต่ำ แต่ให้ความหอมละมุนแล้ว ยังมีสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่, สารสกัดจากถั่วขาว, ครีมเทียมจากถั่วเหลือง, เห็ดหลินจือ, สารสกัดจากใบแปะก๊วย, สารสกัดจากกระบองเพชร, ซูคราโลส(สารให้ความหวานแทนน้ำตาลทราย) รวมไปถึงไฟเบอร์ที่เป็นประโยชน์ในการช่วยบำรุงรางกายอีกด้วย บอกได้เลยว่าเพียงแค่คุณดื่ม SPM Coffee 1 แก้ว ก็จะได้รับคุณประโยชน์ไปเต็มๆ ที่สำคัญคือผู้ที่เป็นเบาหวานและความดันสามารถดื่มได้โดยไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ

 


SPM Coffee กาแฟที่เป็นมากกว่ากาแฟสำเร็จรูปทั่วไป เพราะมีส่วนช่วยในการบำรุง ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงพร้อมทั้งดูแลร่างกายให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ตลอดวัน ด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด ที่ได้รับการคัดสรรแล้วว่ามีคุณสมบัติในการบำรุงและปรับสมดุลร่างกายโดยรวม อย่างเช่น คอลลาเจนจากปลาทะเลน้ำลึกที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ สารสกัดจากถั่วขาวที่ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต ช่วยย่อยแป้งให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลง ดึงไขมันเก่าที่สะสมมาเผาผลาญ ทำให้ไขมันในร่างกายลดลง  สารสกัดจากเห็ดหลินจือที่มีส่วนช่วยระบบไหลเวียนเลือดในร่างกาย ขจัดสารพิษ บรรเทาภูมิแพ้และมีส่วนช่วยในการชะลอความแก่  สารสกัดจากโกจิเบอรี่ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา มีไฟเบอร์สูง ป้องการอัลไซเมอร์ได้ มั่นใจได้ว่าถึงแม้จะดื่มเป็นประจำทุกวันก็ยังไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอเลสเตอรอล ทำให้มีผิวพรรณผ่องใส อารมณ์ดี ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย



SPM Coffee แตกต่างจากกาแฟยี่ห้ออื่นอย่างไร

ในการผลิตกาแฟ SPM Coffee ขึ้นมาเพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพจริงๆ และใส่ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรเพื่อช่วยบำรุงและฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคอกาแฟที่รักสุขภาพ SPM Coffee ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นระดับโลก เหรียญเงินจากสถาบัน Bruxelles international qualiti institute ณ นครบลัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม ได้รับมาตรฐานการผลิต GMP  และได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) อย่างถูกต้อง ,ทำให้เรามั่นใจได้ว่า SPM Coffee นั้นเป็นกาแฟเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

ผู้ที่ดื่ม SPM Coffee บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า SPM Coffee มีรสชาติอร่อย ดื่มได้ทุกวัน ไม่อ้วน ไม่มีผลข้างเคียงและไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดกลุ่มโรค NCDs ด้วยค่ะ 





GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...