เริ่มแล้วกับงาน ทายาทรุ่นสอง : Future
Possibilities กิจกรรมเสวนาออนไลน์ส่งท้ายปีที่ตั้งใจผลักดันธุรกิจครอบครัวไทยให้ก้าวไกลรับปี
2565 อย่างยั่งยืน โดยมี The Cloud พร้อมหน่วยงานเอกชน
อาทิ SC Asset, Singha Corporation, Kiatnakin Phatra และ
dtac business จัดขึ้นอย่างคัดสรรและอัดแน่นไปด้วยวิทยากรผู้คร่ำหวอดในแวดวงธุรกิจที่มาติดอาวุธเด็ดด้านการตลาดเพื่อชี้ช่องรวยให้กับผู้ประกอบการและนักธุรกิจกันชนิดจัดเต็มผ่านมุมมองของ
5 กูรู
ที่ชวนรอบรู้การทำธุรกิจครอบครัวในบริบทโลกใหม่สู่รุ่นถัดไปอย่างยั่งยืน โดย ดร.กฤตินี
พงษ์ธนเลิศ อ.ภาควิชาการตลาดและเจ้าของคอลัมน์สุดฮิต Makoto
Marketing และ พิมพ์อร นทกุล บ.ก.บทความธุรกิจของ The
Cloud
โลกยุคดิจิทัลเต็มใบและสถานการณ์โควิด
ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
เป็นช่วงที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทุกธุรกิจ
รวมไปถึงธุรกิจครอบครัวซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะเมื่อวิกฤตต่าง
ๆ ถาโถมเขามาอย่างไม่หยุดยั้ง
ธุรกิจครอบครัวจึงไม่ได้พบเพียงปัญหาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่ยังต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่พลิกผลันของผู้คน สังคม วิถีชีวิต
และโลกที่เราต้องรับมืออย่างมีสติสูงสุด อีกทั้งต้องมีองค์ความรู้ขั้นแอ๊ดวานซ์
พร้อมด้วยเครื่องไม้เครื่องมือและตัวช่วยพิเศษต่างๆ
เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวประสบผลสำเร็จและก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนให้จงได้
ในปีนี้งานเสวนา ทายาทรุ่นสอง : Future
Possibilities ความเป็นไปได้ในอนาคต ปรับเป็นออนไลน์
ผู้ที่พลาดยังสามารถดูสรุปย้อนหลังได้ที่ Readthecloud.co กิจกรรมนี้เปิดพื้นที่ให้บรรดาผู้ประกอบการและทายาทธุรกิจได้พบปะและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้มากขึ้น
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามมีผู้เข้าร่วมงานมากถึงเกือบหนึ่งพันคน
การพูดคุยแบ่งเป็น 2 ช่วง Lecture และ
meet เรียกว่าจบงานทั้งความรอบรู้และอาวุธการตลาดครบมือพร้อมลุยสู้เศรษกิจในปีหน้าได้อย่างมั่นอกมั่นใจขึ้น
โดยเฉพาะช่วง Meet ที่ได้คอนเนคชั่นเยอะเป็นพิเศษ
จากทั้งเจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการ ทายาทธุรกิจ และซับพลายเออร์
ได้แลกคอนแทคและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต
สอดรับกับที่ ดร.กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์
ศาตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ University of California San Diego กล่าวถึง
ธุรกิจครอบครัวไทยในบริบทโลกใหม่ ด้วยหลักคิดสำคัญ โดน ‘ป่วน’ ต้อง ‘ปรับ’ อย่า
‘ป่วย’ อย่าเพิ่งท้อหรือป่วย
แม้ธุรกิจครอบครัวอาจดูเหมือนว่าจะต้องจัดการตัวป่วนที่มากกว่าธุรกิจทั่วไป
แต่ธุรกิจครอบครัวมีสินทรัพย์ที่ธุรกิจครอบครัวที่ต้องรักษาและต่อยอด
และอย่าทำให้กลายเป็นหนี้สินเพราะสินทรัพย์เหล่านี้
คือดีเอ็นเอที่ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน
ฝั่งคลื่นลูกใหม่ นัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ
ทายาทรุ่นที่ 3 โคคาสุกี้ ฉายวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการ
Disrupt ธุรกิจเพื่อลูกค้าในวันหน้า
หัวใจสำคัญที่เธอยึดใช้ในการบริหารธุรกิจ คือ ยึดมั่นใน Core Values ทายาททุกรุ่นห้ามลืมว่าอะไรคือเสน่ห์ของธุรกิจนั้น
ทำไมเราถึงรับช่วงต่อ และการทำให้ธุรกิจครอบครัวคงคุณค่าของธุรกิจนั้นในทุก ๆ รุ่น
ทุก ๆ สถานการณ์ ไม่ว่ารูปแบบหรือบริบทใดก็ตาม
ด้าน สุวภา เจริญยิ่ง ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน
ผู้อยู่เบื้องหลังการนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
หนึ่งในวิทยากรบอกไว้ในเลกเชอร์ของเธอว่า
“การบริหารจัดการเงินธุรกิจครอบครัวหลังวิกฤต ให้เริ่มต้นจากการเงิน
การทำธุรกิจครอบครัวมักเริ่มต้นจากการช่วยเหลือกันภายใน
แต่การทำงานแบบมืออาชีพเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยใช้การเงินเป็นจุดตั้งต้น เพราะการเงินเป็นตัวเลข
สามารถวัดและเปรียบเทียบสถานการณ์ของเรากับกรณีศึกษา
เพื่อนำแนวทางมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความสำเร็จต่อได้
นอกจากนี้ ประทินรัตน์ วัชรสินธุ์
ที่ปรึกษาด้านการจัดการและธุรกิจครอบครัว ยังมาแชร์คำถามยอดฮิตที่พบบ่อยในการจ้างงานและข้อตกลงว่าจ้างกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป
ให้ฟังว่า “ความท้าทายในการจัดการทรัพยากรบุคคลคือ สัญญาการจ้างงาน
แม้ว่าสัญญาการจ้างงานเกิดได้จากการพูดคุยกันแบบปากเปล่า
แต่การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร คือจุดเริ่มต้นในการสร้างความชัดเจน
ทั้งในเรื่องของบทบาท เงื่อนไข ค่าตอบแทน สวัสดิการ และภาระภาษี ที่ชัดเจนเป็นหลัก
ซึ่งจะช่วยให้องค์กรและพนักงานตกลง อีกทั้งปรับเปลี่ยนให้เท่าทันสถานการณ์
ดังนั้นการมีสัญญาจ้างงานที่ชัดเจน คือความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความเป็นมืออาชีพให้แก่บริษัทด้วย
ติดตามบทสรุปอาวุธการตลาดที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปใช้ได้จริง
จาก 5 ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจครอบครัวและทายาท
แบบเข้มข้น เจาะลึก จัดเต็ม ได้ที่ readthecloud.co
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น