วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566

“มาดามหยก” ซิ่งตุ๊กตุ๊กแห่ผู้สมัคร ส.ส.รวมแผ่นดิน ปักหมุด “เชียงใหม่ล้านนามหานคร” ดันซอฟท์พาวเวอร์สร้างรายได้ ลั่นร่วมรัฐบาลได้ทุกพรรค

 

               บริเวณหน้าศูนย์การค้า วัน นิมมาน เชียงใหม่ น.ส.กชพร เวโรจน์ หรือ มาดามหยก ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดิน และหัวหน้าสาขาภาคเหนือ นายพรชัย จิตรนวเสถียร แกนนำพรรค พร้อมด้วยทีม Change Together ผู้สมัครส.ส.ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและระบบเขต ร่วมกันนั่งรถตุ๊กตุ๊กและปล่อยขบวนรถแห่หาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ทั้ง 10 เขต ออกเดินสายขอคะแนนจากประชาชน โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางไปรับฟังการเสวนานโยบายพรรคการเมือง ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทางพรรครวมแผ่นดิน ได้มอบหมายให้นายพรชัย เป็นตัวแทนพรรคเข้าร่วมการเสวนา ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่เชียงใหม่ ถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรครวมแผ่นดิน เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของน.ส.กชพร และตั้งเป้าว่าจะมีตัวแทนคนเชียงใหม่เข้าสภาฯด้วย

               ต่อมา น.ส.กชพร ให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายว่า พรรครวมแผ่นดินจะชูนโยบายเศรษฐกิจปากท้อง เป็นปัญหาเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข เรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ เขตเศรษฐกิจท่องเที่ยวพิเศษ นโยบายเชียงใหม่ล้านนามหานคร เน้นการหารายได้เข้าประเทศให้ประชาชนอยู่ได้อย่างยั่งยืน  เมื่อถามว่า จากผลสำรวจโพลพบว่าพรรครวมแผ่นดินไม่ติดอันดับ 1 ใน 5 น.ส.กชพร กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคเล็ก เพราะแม้แต่พรรคขนาดกลางก็ไม่ติด 1ใน 5 แต่ทุกคนไม่ท้อถอย เพราะเชื่อว่าโพลรายบุคคลในแต่ละเขตยังดี ในฐานะพรรคใหม่อาจจะค่อยๆเข้าไปอยู่ในใจประชาชน ขณะนี้ประชาชนเริ่มรับรู้ความตั้งใจของพวกเรา จริงๆแล้ว ไม่ได้กังวลผลการเลือกตั้ง แต่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเริ่มเปลี่ยนแปลงประเทศของเรา เชียงใหม่ของเรา ภาคเหนือของเรา

               เมื่อถามว่ามั่นใจขนาดไหน น.ส.กชพร กล่าวว่า เชียงใหม่เป็นเมืองที่พรรคใหญ่แย่งชิงกัน แต่เราขอในส่วนคะแนนพรรค เพราะมีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ประชาชนถ้ายังรักเขตไหน ก็สามารถเลือกคนที่ท่านรัก แต่พรรค ขอให้เลือกรวมแผ่นดินเบอร์ 47 ก็ได้ เหมือนแบ่งใจให้เราบ้างนิดหนึ่ง เพื่อมาเริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน

               “เชียงใหม่เราอยากปักหมุด เพราะมีนโยบายเชียงใหม่ล้านนามหานคร 9 ข้อ ซึ่งเน้นเรื่องซอฟต์ พาวเวอร์  เกษตรทันสมัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้ก้าวไกลสู่สากล ทำให้มีรายได้เข้าครัวเรือน โดยช่วงโค้งสุดท้ายก็จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ปิดท้ายที่เชียงใหม่ด้วย พร้อมกันนี้จะลงพื้นที่พบปะประชาชนมากขึ้น รับฟังแนวคิดจากประชาชนให้มากขึ้น เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข นำไปปฏิบัติงานจริง ซึ่งพรรคเราสามารถประสานงานร่วมกับทุกพรรค เราไม่มีสี ไม่มีฝ่าย ต้องการมาเพื่อปรองดอง เป็นพรรคกลางๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วม และมีทางเลือกที่ดีขึ้น”น.ส.กชพร กล่าว

               เมื่อถามว่า ร่วมกับทุกฝ่ายหมายถึงร่วมรัฐบาลได้กับทุกพรรคหรือไม่ น.ส.กชพร กล่าวว่า เราร่วมรัฐบาลได้กับทุกพรรค  ไม่สลายสีเสื้อ แต่เราจะรวมกันได้ไม่ว่าสีใด สังเกตจากโลโก้พรรคจะมีทุกสี รวมได้หมด

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2566

มาดามหยก ลุย !!! เดินหน้าเต็มกำลัง นำขบวนส.ส. ปาร์ตี้ลิสท์ “รวมแผ่นดิน” หมายเลข 47 ขึ้นรถแห่รอบกรุง

 

           เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 มาดามหยก – กชพร เวโรจน์ ประธานที่ปรึกษาพรรครวมแผ่นดิน นำทีมสส. ปาร์ตี้ลิสท์ “รวมแผ่นดิน” หมายเลข 47 ทีมดารา Change Together เปิดตัวกับชาวกทม. โดยเริ่มที่ สวนสาธารณะลุมพินี ใจกลาง กรุงเทพฯ สร้างความตื่นเต้นยินดีที่ได้พบกับดารานักร้องขวัญใจ อาทิ ตฤณ เศรษฐโชค , ไอยศูรย์ ไมดาน (เล็ก ไอยศูรย์) , อุ้ย รวิวรรณ จินดา ,  นันทศัย พิศลยบุตร (เต้) , อาภาภัทร สุขสวัสดิ์ชล (ลาดา อาร์สยาม) , ฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ (กล้วยเชิญยิ้ม) , กวินพนธ์ พานิชย์พงส์ (กำปั้นบาซู) , ฆธาวุธ ปิ่นทอง (โฟน) , จตุภูมิ วงศาริยะ (โก๋)  พยปะพูดคุย ทักทายอย่างสนุกสนานเป็นกันเองกับทุกคน หลังจากนั้น ก็ขึ้นรถแห่ รอบเมืองตามเส้นทาง จากสวนลุมพินี สุขุมวิท วัดแขก และวัดยานนาวา

         พรรครวมแผ่นดิน มุ่งมั่นที่จะ พํฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมประชาธิปไตย รับใชัประชาชน Change Together เราจะเปลี่ยนไปด้วยกัน เปลี่ยนสิ่งเก่า ผลักดัน ปรับแก้ไข เปลี่ยนให้ทุกคนมีความสุขไปพร้อมกัน พร้อมพิสูจน์ว่า คนบันเทิงก็รักบ้านเมือง คนบันเทิงก็สามารถไปด้วยกันได้กับการเมือง … พรรครวมแผ่นดิน หมายเลข 47

วันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2566

ไบเออร์-NSM (อพวช.) ต่อยอดโครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล) ปี 2566” มอบสื่อการเรียนรู้พร้อมจัดอบรมครูโรงเรียนในเขตภาคกลาง และปริมณฑล

 

               บริษัท ไบเออร์ไทย จํากัด จับมือ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM มอบสื่อการเรียนรู้ พร้อมจัดอบรมครูในเขตภาคกลางและปริมณฑลกว่า 20 โรงเรียน ในโครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล)” ภายใต้แนวคิด “Plant Ranger : ขบวนการพิทักษ์พืช” เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนไทย ณ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. คลองห้า จ.ปทุมธานี

              นางสาวจินอา ลี กรรมการผู้จัดการบริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ไบเออร์ เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจไลฟ์ซายน์ ทำให้เราเข้าใจถึงบทบาทสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการดำรงชีวิต โดยวิทยาศาสตร์นับเป็นหัวใจหลักในทุกๆ การพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของเราในการดำเนินธุรกิจ ในกลุ่มฟาร์มาซูติคอล คอนซูเมอร์เฮลธ์ และครอปซายน์ ดังนั้นบริษัทจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญและมีความตั้งใจที่จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน ภายใต้วัตถุประสงค์ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่ดี (Science for a better life) และวิสัยทัศน์ “ทุกคนมีสุขภาพดี และไม่ขาดแคลนอาหาร (Health for all, Hunger for none)”

            โครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล)” เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2560 ได้ผลิตสื่อการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ และส่งมอบให้กับ 300 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยมีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า 3,000 คน ในระหว่างปี 2560-2563

              สำหรับโครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล)” เริ่มต้นระยะที่ 2 ในปี 2565 ที่ผ่านมา โดยจัดทำและเผยแพร่สื่อการเรียนรู้ (Tool kits) ภายใต้แนวคิด “Plant Ranger : ขบวนการพิทักษ์พืช” เพื่อมอบให้กับโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ โดยมุ่งเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์ กับ พืช (science behind plant) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กในระดับประถมศึกษา อายุระหว่าง 10-12 ปี เพื่อให้เยาวชนสามารถเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์กับพืช และการคงอยู่ของพืช เมื่อมีความเข้าใจแล้วเด็กๆ จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับพืชได้อย่างมีความหมาย และความเข้าใจมากขึ้น ขณะเดียวกันโครงการนี้จะเสริมศักยภาพครูให้สามารถต่อยอดจากการนำชุดสื่อการเรียนรู้ไปใช้สำหรับการเรียนการสอนได้

              นางสาวจินอา กล่าวว่า “ไบเออร์มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่องภายใต้วัตถุประสงค์ วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตที่ดี (Science for a better life) และวิสัยทัศน์ “ทุกคนมีสุขภาพดี และไม่ขาดแคลนอาหาร (Health for all, Hunger for none) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ที่ให้ความสำคัญกับการขจัดความหิวโหย ลดความยากจน ส่งเสริมเศรษฐกิจ และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยในวันนี้ เราได้มอบชุดสื่อความรู้ให้กับโรงเรียนในเขตพื้นที่ภาคกลางและเขตปริมณฑล กว่า 20 โรงเรียน โดยการส่งมอบครั้งนี้ เป็นการขยายโครงการจากปี 2565 ที่ผ่านมา และที่สำคัญในส่วนของโรงเรียนในจังหวัดสมุทรปราการนับเป็น พื้นที่ชุมชนของศูนย์การผลิตไบเออร์ ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู นอกเหนือจากสำนักงานที่กรุงเทพและศูนย์การผลิตและวิจัยและพัฒนาอีก 6 แห่ง ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไบเออร์ได้ดำเนินการส่งสิ่งดีๆ กลับคืนสู่จังหวัดสมุทรปราการ”

              ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM กล่าวว่า “อพวช. ได้จัดทำและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ ผ่านโครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล)” โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจาก ไบเออร์ไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนให้มีความสนใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับพืช ซึ่งในเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เราได้จัดกิจกรรมคาราวานวิทยาศาสตร์ในการนำร่องมอบสื่อการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อกระจายความรู้ให้กับเยาวชนในระดับภูมิภาค ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะได้เข้าถึงโรงเรียนในเขตพื้นที่ปริมณฑล เพื่อหวังช่วยสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กนักเรียนได้นำความรู้มาใช้ต่อยอดด้านการศึกษาและประกอบอาชีพในสายงานที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในอนาคต พร้อมทั้งได้จัดกิจกรรมอบรมครู เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะการเรียนการสอนให้กับคุณครู ให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการสอนในห้องเรียนต่อไป”

              สำหรับปีนี้ดำเนินการภายใต้ธีม “Plant Ranger : ขบวนการพิทักษ์พืช” เป็นกิจกรรมในรูปแบบการมอบสื่อการเรียนรู้ (Tool kits) และอบรมให้กับโรงเรียนที่ได้รับสื่อการเรียนรู้ เพื่อให้คุณครูนำไปใช้สร้างทักษะความรู้ในเรื่องพืช ความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์กับพืช และการคงอยู่ของพืช ให้กับนักเรียนในโรงเรียนอันจะทำให้เด็กเยาวชนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อยอดการเรียนวิชาชีพทางด้านเกษตรในอนาคต

              โครงการ “Better Science for Better Life (วิทย์ก้าวหน้า ชีวิตก้าวไกล)” ภายใต้ธีม“Plant Ranger : ขบวนการพิทักษ์พืช” โดยชุดสื่อความรู้ประกอบด้วย

  • กิจกรรมที่ 1 พืชเบื้องต้น (Plant Ranger Basic) เรียนรู้เรื่องพืช พืชคืออะไร พืชสุขภาพดีและไม่ดีมีลักษณะอย่างไร
  • กิจกรรมที่ 2 พืชให้อาหาร (Plant Ranger Food) เรียนรู้เรื่องพืชเป็นแหล่งอาหารของมนุษยชาติและทดสอบสารอาหารที่อยู่ในพืช
  • กิจกรรมที่ 3 พืชให้อากาศ (Plant Ranger O2) เรียนรู้เรื่องพืชเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
  • กิจกรรมที่ 4 พืชให้น้ำ (Plant Ranger H2O) เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพืชกับน้ำและวัฏจักรของน้ำ
  • กิจกรรมที่ 5 พืชให้ที่อยู่อาศัย (Plant Ranger Home) เรียนรู้เรื่องพืชคือบ้านของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เป็นระบบนิเวศขนาดเล็กที่พร้อมไปด้วยปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต เมื่อเติบโตรวมกันเป็นจำนวนมากจะกลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์
  • กิจกรรมที่ 6 พืชให้ความรื่นรมย์ (Plant Ranger Harmony) เรียนรู้พืชที่ให้ความรื่นรมย์ กลิ่นที่มีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์และส่งผลต่อการเรียนรู้ของมนุษย์

เกี่ยวกับไบเออร์

            ไบเออร์เป็นบริษัทระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญหลักในด้านไลฟ์ซายน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและโภชนาการ ผลิตภัณฑ์และบริการของไบเออร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยผู้คนและโลกของเราโดยการสนับสนุนความพยายามในการก้าวข้ามอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นกับประชากรโลกที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นและมีประชากรสูงอายุมากขึ้น ไบเออร์มุ่งมั่นที่จะผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในเชิงบวกด้วยธุรกิจของบริษัท พร้อมกันนี้ บริษัทยังได้มุ่งเป้าในการเพิ่มรายได้และสร้างคุณค่าจากนวัตกรรมใหม่ๆ และการเติบโต ภายใต้เครื่องหมายการค้าไบเออร์ ขึ้นชื่อในด้านความเชื่อถือ ความไว้วางใจ และคุณภาพในระดับโลก ในปีงบประมาณ 2564 กลุ่มบริษัทมีพนักงานราว 100,000 คน และมียอดขาย 44.1 พันล้านยูโร ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาก่อนรายการพิเศษรวมเป็น 5.3 พันล้านยูโร หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.bayer.com

วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2566

สูงวัยยกมือสนับสนุนการศึกษาตลอดชีวิตออนไลน์ “ครูพรีมมี่” อ้อนขอคะแนน เขตยานนาวา-บางคอแหลม

 

               ห้องเรียนศาลาอเนกประสงค์ริมน้ำ วัดทองบน __ นายนรเสฏฐ์ เธียรประสิทธิ์ หรือ ครูพรีมมี่ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม เบอร์10  พรรคภูมิใจไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรมจัดการเรียนการสอนกับกลุ่มนักเรียนผู้สูงวัย ในโรงเรียนผู้สูงอายุยานนาวา วัดทองบน ถนนพระราม 3 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่รับรองโดย กศน. เขตยานนาวา ตามหลักสูตรการศึกษาตลอดชีวิต ครูพรีมมี่ได้ใช้เวลาช่วงเว้นว่างจากกิจกรรมนันทนาการให้ห้องเรียนรู้ เพื่อขอโอกาสแนะนำตัวและนำเสนอนโยบาย อันเป็นที่ถูกใจชาวสูงวัยเขตยานนาวาอย่างมาก เพราะครูพรีมมี่ อาศัยความเป็น “ครู”​ สอนหนังสือมาก่อน จึงสามารถเรียกร้องความสนใจของผู้ใหญ่ในห้องเรียนได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับไมค์มา ครูพรีมมี่ก็เริ่มต้นด้วยประโยคที่คุ้นเคยทันที “หากพวกเรากำลังสบาย จงตบมือพลัน”​ ผู้สูงวัยทุกท่านก็พร้อมรับมุกโดยพร้อมเพรียง ตบมือเสียงดังๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะด้วยความเป็นกันเอง ก่อนที่นายนรเสฎฐ์ จะขอให้ทุกคนชูมือขึ้นทั้งสองข้างและถามไปว่า “ครูพรีมมี่เบอร์อะไร” แน่นอนว่า “เบอร์10″ ก็ดังประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงอีกเช่นกัน

               “ครูพรีมมี่” แนะนำตัวเองว่า จบการศึกษาปริญาตรี BBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ทำงานกับกลุ่มซีพี ที่กรุงปักกิ่ง และไปศึกษาต่อปริญญาโท MBA สาขาการเงิน ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้เปิดโรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษให้กับคนจีน รวมทั้งได้เปิดคอร์สอบรมคุณครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนอนุบาลที่ปักกิ่ง  นับเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าไปเปิดธุรกิจด้านการศึกษาในประเทศจีน ต่อมาบังเอิญว่ามีผู้บริหารกระทรวงการศึกษาธิการของไทยในขณะนั้น ได้ไปศึกษาดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้มีโอกาสพบกับครูพรีมมี่ จึงได้เชิญชวนครูพรีมมี่กลับมาช่วยประเทศไทยด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาหลักสูตรภาษาจีนในไทย “ผมโตมากับครอบครัวการศึกษา ที่บ้านทำโรงเรียนอนุบาล ได้ถูกปลูกฝังมาตลอดว่าต้องช่วยเหลือสังคม สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ก็คือการศึกษา พอเรามาเห็น เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาได้คือการศึกษา วันนี้ยิ่งได้มาเห็นพี่ๆ (ครูพรีมมี่อ้อนผู้สูงวัยขอเรียกพี่)​ ยังมาเรียนกันพร้อมหน้าแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เชื่อมั่นในความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรค

               “วันนี้รู้สึกประทับใจมากที่เข้ามาเห็นคุณครูกำลังสอนเรื่องภัยคุกคามด้านออนไลน์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ให้ความรู้เรื่องออนไลน์กับผู้สูงวัย ซึ่งเหมือนกับที่ผมตั้งใจมาสนับสนุนเรื่องนี้การศึกษาเท่าเทียมอยู่แล้วโดยสอดคล้องกับนโยบายพรรคภูมิใจไทย ที่ผลักดันการศึกษาตลอดชีพผ่านการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งจะพัฒนาหลักสูตรให้เข้มแข็งและตอบโจทย์กับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะให้เหมาะกับผู้สูงวัยด้วย เพราะวัยนี้การเรียนแบบในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวนั้น อาจจะไม่คล่องตัว เพราะวัยนี้แล้วอาจจะมีภาระ มีงานมีการติดพัน ต้องค้าต้องขาย ไม่สะดวกมาเรียน แต่เชื่อว่าทุกคนอยากได้โอกาสพัฒนาตนเอง ฉะนั้นถ้ามีหลักสูตรออนไลน์ จึงจะทำให้เรียนที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ จะทำธุระอะไรอยู่ก็สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ เพราะเป็นหลักสูตรออนดีมานด์ ขอเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือก็สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม”

               ความสำคัญคือการสร้างหลักสูตร ไม่ได้มุ่งหมายเพียงให้มีแต่ “ความรู้”​ แต่หวังผลให้นำไปใช้ปฏิบัติได้จริง ประกอบอาชีพ หรือสร้างอนาคตได้   “​นโยบายภูมิใจไทยตั้งเป้าหมายจะสร้างผู้ประกอบการนักธุรกิจออนไลน์ให้ได้ถึง 9 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งผู้สูงวัยชาวยานนาวาจะเป็นส่วนหนึ่งในนี้ด้วย การเรียนให้ได้มีความรู้ขึ้นมาก็ดี แต่เราจะต้องคิดต่อไปว่า จะสอนจะอบรมอย่างไรให้ทุกคนนำไปใช้ได้จริง ยกตัวอย่าง สอนให้ทำอาหาร ทำของขายแล้ว อาจจะไม่พอ ต้องมีคอร์สอบรมสอนให้รู้จักขายสินค้า นำเสนอขายแบบอินฟลูเอนเซอร์ หรือจะเป็นยูทูบเบอร์ ต้องทำอย่างไร ลองคิดดูผู้สูงวัยบางท่านอาจจะไม่มีงานทำเพราะเกษียณแล้ว แต่อาจจะสามารถไปรีวิวสินค้า หรือ มีทักษะทำอาหารขนมเก่งอยู่แล้ว แต่อาจจะเรียนเพิ่มเรื่องขายของออนไลน์ เพื่อจะเพิ่มช่องทางการตลาดให้ได้”​

               ที่สำคัญนโยบายการศึกษาเท่าเทียมนั้นจะเป็นการร่วมมือระหว่างภาครัฐกับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ รวมทั้งจะต้องจัดหาหรือมีการให้ทุนมอบแก่ผู้ประกอบการด้วย เพื่อที่จะให้คนที่ได้เรียนแล้วมีโอกาสจะไปประกอบธุรกิจได้จริง ครูพรีมมี่ยกตัวอย่างโครงการหนึ่งที่ตนเองทำสำเร็จมาแล้วว่า “​เราเคยได้ไปสนับสนุนผู้สูงวัยกลุ่มหนึ่งทำดอกไม้จันทน์ขายในวัดในชุมชนที่เขตดุสิต ตอนนั้นเป็นโครงการจิตอาสาแต่แสดงให้เห็นว่าผู้สูงวัยนั้นมีศักยภาพ สามารถสร้างเงินสร้างรายได้ และเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความต้องการ เพียงแต่ว่าต้องการความสนับสนุนจากภาครัฐเข้ามา เช่นเรื่องการฝึกอบรม และมีผู้เชี่ยวชาญมาดูแลอย่างใกล้ชิด จึงทำให้เกิดเป็นผลสัมฤทธิ์ขึ้นมา คือจะอธิบายว่า ไม่ใช่แค่มีการเรียนการสอนเกิดขึ้น จบแล้วก็แล้วไป แต่มีการต่อยอด การเชื่อมต่อ การแนะนำทิศทางให้เสร็จว่า เมื่อมีการทำสินค้าแล้ว ต้องคิดว่าไปขายที่ไหนต่อ ไม่ใช่แค่สนับสนุนให้มีการผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนมากๆ แล้วจะระบายสินค้าไปทางไหน หรือต้องหาผู้ซื้อต่อได้อย่างไร ทางพรรคภูมิใจไทยจึงมองว่า การศึกษาออนไลน์ จะเข้ามาช่วยแก้ประเด็นปัญหาเหล่านี้”

               นายนรเสฏฐ์​ ได้กล่าวต่อไปว่า “แม้พรรคภูมิใจไทยอาจจะกล่าวได้ว่ายังเป็นพรรคใหม่ในความรู้สึกชาวกทม. แต่ผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า เราทำให้กับชาวกรุงเทพ ทำมานานแล้ว” ครูพรีมมี่เล่าถึงประสบการณ์ในช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ตนเองได้อาสาไปทำงานร่วมกับพี่น้องอสม.และอสส. ซึ่งในห้องเรียนนั้นมีอาสาสมัครเขตยานนาวาอยู่ด้วยหลายคน จึงต้องขอให้ทุกคนปรบมือให้อาสาสมัครเสื้อกาวน์ทุกคน ที่เสียสละ และยอมเหนื่อยเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ร้อนจากมหันตภัยโรคร้าย จากเหตุกการณ์ดังกล่าว ตนเองเชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ​ ได้เห็นว่า “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ”​ รวมถึงโครงการรถเมล์ไฟฟ้าที่ออกมาวิ่งแล้ว อันต่อไป ก็คือนโยบายพลังงานสะอาด ลดรายจ่ายประชาชน ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท และ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด สิ่งเหล่านี้นำเสนอในเวลาที่ทุกคนเดือดร้อนจากค่าไฟฟ้า-ค่าพลังงานที่ขึ้นราคาสูงไปมาก ครูพรีมมี่จึงขอเน้นว่านโยบายที่นำเสนอนั้นจะกลายเป็นจริงได้อย่างแน่นอน ถ้ากาเลือกครูพรีมมี่ เบอร์​ 10 และพรรคภูมิใจไทย เบอร์ 7

GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...