วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เปิดปก…อกนักเขียน : “นับดาว” – “รดา ศิลปะจิตต์”

 เปิดปก…อกนักเขียน

จ้าวหัวใจจอมทัพ”ผงาด สร้างชื่อ“จอมทัพไร้พ่าย”ให้นักเขียนสะบัดพู่กันแนวนี้ต่อ




 จอมทัพไร้พ่าย” สมญานามทรงเกียรติของ หยางเฟรหรง เรื่องราวความรักที่มีด้ายแดงผูกใจสองดวงไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ระหว่างจอมทัพไร้พ่ายกับองค์หญิงเจ็ด ในนิยายจีนโบราณเรื่อง“จ้าวหัวใจจอมทัพ” ผลงานของ “นับดาว” หรือตัวจริงคือ รดา ศิลปะจิตต์ หรือ ดา ที่ร่ายพู่กันกับเรื่องราวขององค์หญิงเจ็ดได้หนีการหมั้นหมายระหว่าง เหวินเหรินหลีเจี๋ย หรือ องค์ชายปีศาจ ที่สุดท้ายก็รู้ใจตัวเองว่า แท้จริงเขารักองค์หญิงแปด (ชอบคู่นี้ที่สุด) องค์ชายปีศาจดิบเถื่อน ร้ายโดนใจ(หรือเราซาดิสม์เนี่ย) สำหรับนักอ่านที่เพิ่งอ่านนิยายจีนเรื่องนี้เรื่องแรกตัวละครเยอะมาก แนะนำให้หากระดาษมาจดชื่อตัวละครเรียงเป็นคู่ ๆ ไม่งั้นงง ถือเป็นนิยายจีนที่ถ่ายทอดให้หวนนึกถึงหนังจีนกำลังภายในกับฉากต่อสู้บนหลังมา ก่อนเปลี่ยนมาฟาดฟันด้วยดาบ นักเขียนเขียนออกมาเห็นภาพชัดเจน ส่วนฉากพลอดรักก็น่ารักตามประสานิยายจีนที่นำเสนอได้แค่ไหนแค่นั้น ไม่หวือหวาจัดจ้าน กำเดากระจายเหมือนนิยายไทย พล็อตเรื่องนี้สอดแทรกความรักของทุกตัวละคร บางตัวแฝงความโลภในอำนาจ หากความรักชาติบ้านเมืองก็เหนือเรื่องส่วนตัว เช่นจอมทัพไร้พ่ายกว่าจะเสร็จศึก เสร็จภารกิจก็ปล่อยให้นางเอกรอนานจนคลอดลูกชาย เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วเพลิดเพลิน มีบ้างหมั่นไส้นางยั่วเมืองแต่หัวใจของหยางเฟรหรงก็ไม่ไขว้เขว แม้มีหญิงมาแก้ผ้าต่อหน้าเขาก็รักมั่นฮุหยินเพียงคนเดียว จากความสำเร็จเรื่องนี้นักเขียนสะบัดปลายพู่กันเรื่องต่อไปในรูปแบบอีบุ๊กที่คว้าโบแดงเพียงวางขายไม่กี่วันเรื่อง“พันหมื่นดารา เมฆาเร้นใจ” ปกสวยมาก และจะมีเรื่องต่อไปกำลังเขียนอยู่ โดยนับเปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือกว่า

 สวัสดีค่ะ...รดา ชื่อเล่น ดาค่ะ แต่เพื่อน ๆ มักเรียกกันติดปากว่า นับ ค่ะ ปัจจุบันนับมีงานประจำอยู่แล้วค่ะ เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกเท่านั้น เพียงแต่ว่าอาจจะดูจริงจังกว่างานหลักนิดนึง (หัวเราะ) ตั้งแต่เขียนนิยายจริงจังมาได้ปีกว่า ๆ ใช้นามปากกานับดาวนามเดียวค่ะ แต่ว่านามปากกานี้ดันไปซ้ำกับนักเขียนท่านหนึ่ง นับก็เลยเปลี่ยนเป็น พราวเดือน ในการเขียนนิยายไทย และนามปากกา จิ่วซานหลิง สำหรับเขียนนิยายจีนค่ะ

   ตอนนี้นับกำลังลองเขียนนิยายให้ได้หลาย ๆ แนวค่ะ แต่แนวถนัดก็คงจะเป็นแนวรักหวานแหวว โรแมนติกคอมเมดี้ ไม่นานมานี้เพิ่งได้ลองเขียนนิยายรักจีนโบราณ  อ้อ...แนวโรมานซ์ก็เขียนนะคะ สำหรับแรงบันดาลใจของนับมีเยอะมากเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้อ่านนิยายหรือได้ดูซีรีส์ เรื่องราวบางเรื่องที่ได้พบเห็นมาก็สามารถจุดประกายได้เหมือนกันค่ะ  นิยายเรื่องแรกที่เผยแพร่สู่สายตาสาธารณชนเป็นนิยายรักโรแมนติก ชื่อเรื่อง just one night ตกกระได(หัวใจ)พลอยรัก เรื่องนี้จะออกแนวไบโพล่าร์นิด ๆ เดี๋ยวฟินเดี๋ยวเศร้า ผลตอบรับจากผู้อ่านก็ถล่มทลายเลยค่ะ ยอดวิวในเด็กดีห้าหมื่นกว่า ในรี้ดอะไรท์ประมาณแสนห้า ตามมาด้วยเสียงบ่นจากรี้ดว่าไรต์ชอบเขียนให้ขัดใจค่ะ (ฮา) เรื่องนี้นับลงให้เพื่อน ๆ อ่านจนจบแล้วค่อยทำอีบุ๊กออกมาในภายหลังค่ะ สำหรับนับถือว่าเรื่องแรกก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งนะคะ ภูมิใจมากค่ะ ถามว่าที่ผ่านมานับเขียนนิยายกี่แนว ขอนับดูแป๊บนะคะ อืม...แทบไม่ซ้ำเลยค่ะ มีทั้งนิยายรักโรแมนติกแนวนอร์มอล นิยายพีเรียดไทยแนวข้ามภพข้ามชาติ ส่วนโรมานซ์ที่เขียนก็มีทั้งอิโรติกดราม่าและอิโรติกคอมเมดี้ค่ะ แล้วก็ล่าสุดกำลังเขียนนิยายจีนโบราณอยู่ค่ะ ส่วนแนวที่ไม่ถนัดแต่อยากลองแต่งดูก็คือดราม่า ที่อ่านแล้วตับพังตาบวม หรือไม่ก็แนวสืบสวนสอบสวนค่ะ อ้อ...แนวผี ๆ ก็น่าสนุกนะคะ



  จากเริ่มเขียนนิยายไทยก็ไม่เชิงว่าเปลี่ยนแนวเขียนหรอกค่ะ แค่อยากลองอะไรใหม่ ๆ ที่ท้าทายความสามารถมากกว่า พอดีว่าช่วงหลัง ๆ มานับมีโอกาสได้อ่านนิยายจีนแปลบ่อยขึ้นแล้วชอบ ก็เลยเกิดแพสชั่นอันแรงกล้าขึ้นมา จากนั้นพล็อตก็เด้งมาเองเลยค่ะ พลุ่งพล่านมากจริง ๆ (หัวเราะ) ก็เลยต้องระบายออกด้วยการเขียนค่ะ ซึ่งนิยายจีนเรื่องแรกที่เขียนก็คือ จอมทัพจ้าวหัวใจ  นามปากกา นับดาว ซึ่งผลตอบรับจากนักอ่านก็เป็นที่น่าพอใจมากกก ประกอบกับได้รับการติดต่อจาก สำนักพิมพ์เฟยฮุ่ย ว่าอยากตีพิมพ์เรื่องนี้เป็นรูปเล่ม ก็เลยกลายเป็นว่าติดใจนิยายจีนไปเลยค่ะ(หัวเราะ) แต่นิยายไทยนับก็ยังไม่ทิ้งนะคะ เพราะหลังจากต้นฉบับนิยายจีนเรื่องแรกเสร็จเรียบร้อยดี นับก็พักสมองด้วยการเขียนนิยายแนวอิโรติกคอมเมดี้เป็นการผ่อนคลาย แถมยังขายเป็นอีบุ๊กได้เพลิน ๆ อีกด้วยค่ะ  ในส่วนของการค้นคว้าข้อมูลเขียนนิยายจีนคิดว่ายากคนละแบบค่ะ นิยายไทยถ้าเราจะเขียนอิงประวัติศาสตร์หรือจะเขียนในเรื่องที่เราไม่รู้จริงก็ต้องค้นคว้ามากหน่อย ส่วนนิยายจีนที่ยากกว่าก็คือเรื่องของภาษา การตั้งชื่อคนก็ต้องละเอียดกว่านิยายไทย เพราะเราไม่รู้คำแปลทั้งหมด ยิ่งถ้าเป็นจีนอิงประวัติศาสตร์นี่ยิ่งยากไปใหญ่เลยค่ะ ก็เลยไม่คิดจะเขียนอิงประวัติศาสตร์เลยค่ะ จะชอบตั้งแคว้นใหม่ ตั้งกฎเกณฑ์เองใหม่หมดเลย ทำให้การเขียนง่ายขึ้นเยอะค่ะ (หัวเราะ) นิยายจีนปัญหาคือชื่อจำยาก ภาษายาก ตรงนั้นนับก็พยายามตั้งชื่อที่มันไม่ได้แปลกประหลาดพิสดารจนเกินไปค่ะ เอาแบบที่อ่านง่ายเขียนง่าย ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อที่ตัวเองคิดว่าอ่านออกเสียงแล้วไพเราะ ฟังแล้วรื่นหูค่ะ  หากถามความต่างเด่นชัดระหว่างนิยายไทยกับจีน ที่เห็นชัด ๆ ก็คือสำนวนภาษาค่ะ นิยายจีนจะต้องมีการใช้คำหรือสำนวนจีนบางอย่างแทรกเข้ามาให้ผู้อ่านอ่านแล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นหนังจีนอ่ะค่ะ (ฮา) แต่ถ้าเป็นนิยายไทย นับจะปล่อยฟรีสไตล์มากกว่า อยากเขียนอะไรก็ใส่โลดค่ะ  ณ วันนี้กระแสนิยายจีน วายมาแรง จีนนับเขียนแล้วส่วนวายนั้น อืม...ก็อยากลองเขียนดูเหมือนกันนะคะ แต่ต้องลองเสพงานวายดูก่อนว่าจะเกิดแพสชั่นไหม เพราะสำหรับนับแล้ว แพสชั่นสำคัญที่สุดค่ะ ถ้าไม่มีคือจบ ไม่ว่าจะเข็นยังไงก็ไปไม่รอด



  ตอนนี้นับมีลูกตัวน้อยทำให้เวลาเขียนนิยายลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ(หัวเราะ) เพราะช่วงลาคลอดนับเลี้ยงลูกเองคนเดียว วันวันหนึ่งก็หมดไปกับการวุ่นวายอยู่กับเจ้าตัวเล็ก โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกเหนื่อยมากกกกก แต่พอเดือนต่อมาอะไร ๆ เริ่มเข้าที่ ก็กลับมาเขียนนิยายต่อเลยค่ะ ก็อาศัยช่วงที่น้องนอนกลางวันในการเขียน ถึงแม้จะได้ไม่เยอะแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก  กับคำถามเขียนนิยายทำเป็นงานหลักเลี้ยงได้ไหม ความรู้สึกนับมันก็ขึ้นชื่อว่างานแล้ว ถ้าเรามีความตั้งใจและเพียรพยายามจริง ๆ ก็น่าจะเลี้ยงตัวเราได้สบาย ๆ อยู่แล้วค่ะ เพียงแต่นับมองว่าการเขียนนิยายเป็นแค่งานอดิเรก นับมาทำงานตรงนี้เพราะใจรัก จึงยังไม่คาดหวังว่าจะต้องร่ำรวยจากการเขียนนิยาย ไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายได้ที่จะได้รับจากมัน  แต่พอขายได้ก็ภูมิใจนะคะ เคยเอายอดเงินที่ขายอีบุ๊กได้ไปอวดสามี แต่นางบอกว่าไม่คุ้มค่าแรงหรอกค่ะ(หัวเราะ) การเขียนนิยายมีอยู่ที่ต้องตัน ตัวนับอันดับแรกเลย หาขนมอร่อย ๆ กินก่อนค่ะ ในตู้เย็นจะมีพวกช็อกโกแลตแท่งแช่ไว้เยอะแยะเลย จากนั้นก็ไปหาอย่างอื่นทำ ดูหนัง ฟังเพลง หรือไม่ก็ออกกำลังกาย พักงานเขียนไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวมันจะหายตันไปเองโดยปริยายค่ะ

   คำถามที่ว่านับเคยถูกก๊อปปี้นิยายไหม อาจจะเพราะนับเป็นนักเขียนหน้าใหม่มาก ๆ ๆ ก็เลยยังไม่เคยเจอกรณีก๊อปปี้ผลงานกับตัวค่ะ แต่มีเพื่อน ๆ นักเขียนด้วยกันที่โดนก๊อปให้เห็น ก็อยากฝากคนที่ชอบก๊อปนะคะว่า เลิกเถอะค่ะ กว่านักเขียนจะกลั่นกรองออกมาได้แต่ละประโยคคือต้องผ่านหนึ่งสมองและสองมือที่คุณเองก็มีเหมือนเรา ดังนั้นถ้าอยากมีผลงานที่น่าภูมิใจก็คิดเองเขียนเองดีกว่าเนอะ สบายใจดี  ส่วนผลงานที่มีตอนนี้ที่เขียนจบแล้วมีทั้งหมดแปดเรื่องค่ะ เรื่องที่ชอบที่สุดก็คือเรื่อง ‘บัวแก้วปรางขวัญ’ เป็นนิยายพีเรียดย้อนยุค เนื้อหา     ฟีลกู๊ดอบอุ่นละมุนใจ อ่านได้เพลิน ๆ ค่ะ นี่อ้างอิงมาจากรีวิวของนักอ่านนะคะ (หัวเราะ)  ส่วนที่ถามเรื่องนิยายแนวไหนไม่มีวันตาย นับว่านิยายรักนี่แหละค่ะ เพราะโลกเราหมุนด้วยความรัก อิอิ

 นิยายล่าสุดเรื่อง “พันหมื่นดารา เมฆาเร้นใจ” (ยินดีกับโบแดง) เป็นนิยายรักจีนโบราณ พล๊อตเบา ๆ หวาน ๆ  เรื่องนี้มีวางขายในรูปอีบุ๊กนะคะ นักอ่านท่านใดสนใจลองหาอ่านกันได้ (แน่ะ แอบเนียนโฆษณา อิอิ)  ในการเขียนนิยายนับไม่เคยตั้งเป้าหมายไว้เลยค่ะว่าจะต้องเขียนปีละกี่เรื่อง ว่ากันตามแพสชั่นและไฟที่มี ณ ขณะนั้นมากกว่าค่ะ หากนักอ่านต้องการติดตามนับดาวได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ นับดาวจอมเพ้อ ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/NubdaoDreamerGirl/   สำหรับตอนนี้กำลังเขียนนิยายจีนโบราณเรื่อง ยอดหมอหญิงหัตถ์เทวะ สลับกับนิยายรักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง Bad guys ตัวร้าย...ที่รัก อยู่ค่ะ ส่วนจะเขียนเรื่องไหนมากเรื่องไหนน้อยก็แล้วแต่ความขยัน (ฮา) คิดว่าทั้งสองเรื่องจะลงขายในอีบุ๊กนะคะ ฝากติดตามผลงานของนับด้วยน้า”



 เฉลยคำถามนิยาย T.O.P :  อนุ…ยอดภรรยา สำนักพิมพ์เฟยฮุ่ย

 คำถามนิยายจีนโบราณของ “นับดาว” ออกกับสำนักพิมพ์คือเรื่อง?

ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่ และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่

เปิดปก…อกนักเขียน

เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว 23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 

ผู้ตอบถูก 2 ท่าน ได้รับนิยายจาก พราวเดือน / จิ่วซานหลิง (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)

หมดเขตส่งคำตอบ 31 กรกฎาคม 2563

 


 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

GAC AION ขนที่สุดของซูเปอร์คาร์รถไฟฟ้า Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม.ต่อชั่วโมง ภายในเวลา 1.9 วินาที ให้ผู้ขับได้สัมผัสแรงกระชากในระดับ 1.7 G ในงาน Motor Expo 30 นี้

                 GAC AION  มาเหนือเมฆขนขุมพลังแห่งรถไฟฟ้า 100% ระดับไฮเอน Hyper SSR ด้วยขุมพลัง 1,225 แรงม้า 0-100 กม. ต่อชั่วโมง ภายในเวลา ...