“จ้าวหัวใจจอมทัพ”ผงาด
สร้างชื่อ“จอมทัพไร้พ่าย”ให้นักเขียนสะบัดพู่กันแนวนี้ต่อ
“จอมทัพไร้พ่าย”
สมญานามทรงเกียรติของ หยางเฟรหรง
เรื่องราวความรักที่มีด้ายแดงผูกใจสองดวงไว้ตั้งแต่วัยเยาว์ระหว่างจอมทัพไร้พ่ายกับองค์หญิงเจ็ด
ในนิยายจีนโบราณเรื่อง“จ้าวหัวใจจอมทัพ” ผลงานของ “นับดาว”
หรือตัวจริงคือ รดา ศิลปะจิตต์ หรือ ดา ที่ร่ายพู่กันกับเรื่องราวขององค์หญิงเจ็ดได้หนีการหมั้นหมายระหว่าง
เหวินเหรินหลีเจี๋ย หรือ องค์ชายปีศาจ ที่สุดท้ายก็รู้ใจตัวเองว่า
แท้จริงเขารักองค์หญิงแปด (ชอบคู่นี้ที่สุด) องค์ชายปีศาจดิบเถื่อน
ร้ายโดนใจ(หรือเราซาดิสม์เนี่ย) สำหรับนักอ่านที่เพิ่งอ่านนิยายจีนเรื่องนี้เรื่องแรกตัวละครเยอะมาก
แนะนำให้หากระดาษมาจดชื่อตัวละครเรียงเป็นคู่ ๆ ไม่งั้นงง
ถือเป็นนิยายจีนที่ถ่ายทอดให้หวนนึกถึงหนังจีนกำลังภายในกับฉากต่อสู้บนหลังมา
ก่อนเปลี่ยนมาฟาดฟันด้วยดาบ นักเขียนเขียนออกมาเห็นภาพชัดเจน
ส่วนฉากพลอดรักก็น่ารักตามประสานิยายจีนที่นำเสนอได้แค่ไหนแค่นั้น
ไม่หวือหวาจัดจ้าน กำเดากระจายเหมือนนิยายไทย
พล็อตเรื่องนี้สอดแทรกความรักของทุกตัวละคร บางตัวแฝงความโลภในอำนาจ
หากความรักชาติบ้านเมืองก็เหนือเรื่องส่วนตัว เช่นจอมทัพไร้พ่ายกว่าจะเสร็จศึก
เสร็จภารกิจก็ปล่อยให้นางเอกรอนานจนคลอดลูกชาย เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วเพลิดเพลิน
มีบ้างหมั่นไส้นางยั่วเมืองแต่หัวใจของหยางเฟรหรงก็ไม่ไขว้เขว
แม้มีหญิงมาแก้ผ้าต่อหน้าเขาก็รักมั่นฮุหยินเพียงคนเดียว
จากความสำเร็จเรื่องนี้นักเขียนสะบัดปลายพู่กันเรื่องต่อไปในรูปแบบอีบุ๊กที่คว้าโบแดงเพียงวางขายไม่กี่วันเรื่อง“พันหมื่นดารา
เมฆาเร้นใจ” ปกสวยมาก และจะมีเรื่องต่อไปกำลังเขียนอยู่
โดยนับเปิดอกพูดคุยอย่างหมดเปลือกว่า
“สวัสดีค่ะ...รดา
ชื่อเล่น ดาค่ะ แต่เพื่อน ๆ มักเรียกกันติดปากว่า นับ ค่ะ
ปัจจุบันนับมีงานประจำอยู่แล้วค่ะ เขียนนิยายเป็นงานอดิเรกเท่านั้น
เพียงแต่ว่าอาจจะดูจริงจังกว่างานหลักนิดนึง (หัวเราะ)
ตั้งแต่เขียนนิยายจริงจังมาได้ปีกว่า ๆ ใช้นามปากกานับดาวนามเดียวค่ะ
แต่ว่านามปากกานี้ดันไปซ้ำกับนักเขียนท่านหนึ่ง นับก็เลยเปลี่ยนเป็น พราวเดือน
ในการเขียนนิยายไทย และนามปากกา จิ่วซานหลิง สำหรับเขียนนิยายจีนค่ะ
ตอนนี้นับกำลังลองเขียนนิยายให้ได้หลาย ๆ แนวค่ะ
แต่แนวถนัดก็คงจะเป็นแนวรักหวานแหวว โรแมนติกคอมเมดี้
ไม่นานมานี้เพิ่งได้ลองเขียนนิยายรักจีนโบราณ
อ้อ...แนวโรมานซ์ก็เขียนนะคะ สำหรับแรงบันดาลใจของนับมีเยอะมากเลยค่ะ
ส่วนใหญ่จะเกิดจากการได้อ่านนิยายหรือได้ดูซีรีส์ เรื่องราวบางเรื่องที่ได้พบเห็นมาก็สามารถจุดประกายได้เหมือนกันค่ะ
นิยายเรื่องแรกที่เผยแพร่สู่สายตาสาธารณชนเป็นนิยายรักโรแมนติก ชื่อเรื่อง just
one night ตกกระได(หัวใจ)พลอยรัก
เรื่องนี้จะออกแนวไบโพล่าร์นิด ๆ เดี๋ยวฟินเดี๋ยวเศร้า
ผลตอบรับจากผู้อ่านก็ถล่มทลายเลยค่ะ ยอดวิวในเด็กดีห้าหมื่นกว่า
ในรี้ดอะไรท์ประมาณแสนห้า ตามมาด้วยเสียงบ่นจากรี้ดว่าไรต์ชอบเขียนให้ขัดใจค่ะ
(ฮา) เรื่องนี้นับลงให้เพื่อน ๆ อ่านจนจบแล้วค่อยทำอีบุ๊กออกมาในภายหลังค่ะ
สำหรับนับถือว่าเรื่องแรกก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งนะคะ ภูมิใจมากค่ะ
ถามว่าที่ผ่านมานับเขียนนิยายกี่แนว ขอนับดูแป๊บนะคะ อืม...แทบไม่ซ้ำเลยค่ะ
มีทั้งนิยายรักโรแมนติกแนวนอร์มอล นิยายพีเรียดไทยแนวข้ามภพข้ามชาติ
ส่วนโรมานซ์ที่เขียนก็มีทั้งอิโรติกดราม่าและอิโรติกคอมเมดี้ค่ะ
แล้วก็ล่าสุดกำลังเขียนนิยายจีนโบราณอยู่ค่ะ ส่วนแนวที่ไม่ถนัดแต่อยากลองแต่งดูก็คือดราม่า
ที่อ่านแล้วตับพังตาบวม หรือไม่ก็แนวสืบสวนสอบสวนค่ะ อ้อ...แนวผี ๆ ก็น่าสนุกนะคะ
จากเริ่มเขียนนิยายไทยก็ไม่เชิงว่าเปลี่ยนแนวเขียนหรอกค่ะ
แค่อยากลองอะไรใหม่ ๆ ที่ท้าทายความสามารถมากกว่า พอดีว่าช่วงหลัง ๆ
มานับมีโอกาสได้อ่านนิยายจีนแปลบ่อยขึ้นแล้วชอบ ก็เลยเกิดแพสชั่นอันแรงกล้าขึ้นมา
จากนั้นพล็อตก็เด้งมาเองเลยค่ะ พลุ่งพล่านมากจริง ๆ (หัวเราะ)
ก็เลยต้องระบายออกด้วยการเขียนค่ะ ซึ่งนิยายจีนเรื่องแรกที่เขียนก็คือ
จอมทัพจ้าวหัวใจ นามปากกา นับดาว ซึ่งผลตอบรับจากนักอ่านก็เป็นที่น่าพอใจมากกก
ประกอบกับได้รับการติดต่อจาก สำนักพิมพ์เฟยฮุ่ย
ว่าอยากตีพิมพ์เรื่องนี้เป็นรูปเล่ม
ก็เลยกลายเป็นว่าติดใจนิยายจีนไปเลยค่ะ(หัวเราะ) แต่นิยายไทยนับก็ยังไม่ทิ้งนะคะ
เพราะหลังจากต้นฉบับนิยายจีนเรื่องแรกเสร็จเรียบร้อยดี
นับก็พักสมองด้วยการเขียนนิยายแนวอิโรติกคอมเมดี้เป็นการผ่อนคลาย
แถมยังขายเป็นอีบุ๊กได้เพลิน ๆ อีกด้วยค่ะ
ในส่วนของการค้นคว้าข้อมูลเขียนนิยายจีนคิดว่ายากคนละแบบค่ะ
นิยายไทยถ้าเราจะเขียนอิงประวัติศาสตร์หรือจะเขียนในเรื่องที่เราไม่รู้จริงก็ต้องค้นคว้ามากหน่อย
ส่วนนิยายจีนที่ยากกว่าก็คือเรื่องของภาษา การตั้งชื่อคนก็ต้องละเอียดกว่านิยายไทย
เพราะเราไม่รู้คำแปลทั้งหมด ยิ่งถ้าเป็นจีนอิงประวัติศาสตร์นี่ยิ่งยากไปใหญ่เลยค่ะ
ก็เลยไม่คิดจะเขียนอิงประวัติศาสตร์เลยค่ะ จะชอบตั้งแคว้นใหม่
ตั้งกฎเกณฑ์เองใหม่หมดเลย ทำให้การเขียนง่ายขึ้นเยอะค่ะ (หัวเราะ)
นิยายจีนปัญหาคือชื่อจำยาก ภาษายาก
ตรงนั้นนับก็พยายามตั้งชื่อที่มันไม่ได้แปลกประหลาดพิสดารจนเกินไปค่ะ
เอาแบบที่อ่านง่ายเขียนง่าย
ส่วนใหญ่จะใช้ชื่อที่ตัวเองคิดว่าอ่านออกเสียงแล้วไพเราะ ฟังแล้วรื่นหูค่ะ หากถามความต่างเด่นชัดระหว่างนิยายไทยกับจีน
ที่เห็นชัด ๆ ก็คือสำนวนภาษาค่ะ
นิยายจีนจะต้องมีการใช้คำหรือสำนวนจีนบางอย่างแทรกเข้ามาให้ผู้อ่านอ่านแล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นหนังจีนอ่ะค่ะ
(ฮา) แต่ถ้าเป็นนิยายไทย นับจะปล่อยฟรีสไตล์มากกว่า อยากเขียนอะไรก็ใส่โลดค่ะ ณ วันนี้กระแสนิยายจีน วายมาแรง
จีนนับเขียนแล้วส่วนวายนั้น อืม...ก็อยากลองเขียนดูเหมือนกันนะคะ
แต่ต้องลองเสพงานวายดูก่อนว่าจะเกิดแพสชั่นไหม เพราะสำหรับนับแล้ว
แพสชั่นสำคัญที่สุดค่ะ ถ้าไม่มีคือจบ ไม่ว่าจะเข็นยังไงก็ไปไม่รอด
ตอนนี้นับมีลูกตัวน้อยทำให้เวลาเขียนนิยายลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ(หัวเราะ)
เพราะช่วงลาคลอดนับเลี้ยงลูกเองคนเดียว
วันวันหนึ่งก็หมดไปกับการวุ่นวายอยู่กับเจ้าตัวเล็ก
โดยเฉพาะช่วงเดือนแรกเหนื่อยมากกกกก แต่พอเดือนต่อมาอะไร ๆ เริ่มเข้าที่
ก็กลับมาเขียนนิยายต่อเลยค่ะ ก็อาศัยช่วงที่น้องนอนกลางวันในการเขียน
ถึงแม้จะได้ไม่เยอะแต่ก็มีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่รัก กับคำถามเขียนนิยายทำเป็นงานหลักเลี้ยงได้ไหม
ความรู้สึกนับมันก็ขึ้นชื่อว่างานแล้ว ถ้าเรามีความตั้งใจและเพียรพยายามจริง ๆ
ก็น่าจะเลี้ยงตัวเราได้สบาย ๆ อยู่แล้วค่ะ
เพียงแต่นับมองว่าการเขียนนิยายเป็นแค่งานอดิเรก นับมาทำงานตรงนี้เพราะใจรัก
จึงยังไม่คาดหวังว่าจะต้องร่ำรวยจากการเขียนนิยาย
ไม่ได้ซีเรียสเรื่องรายได้ที่จะได้รับจากมัน
แต่พอขายได้ก็ภูมิใจนะคะ เคยเอายอดเงินที่ขายอีบุ๊กได้ไปอวดสามี
แต่นางบอกว่าไม่คุ้มค่าแรงหรอกค่ะ(หัวเราะ) การเขียนนิยายมีอยู่ที่ต้องตัน
ตัวนับอันดับแรกเลย หาขนมอร่อย ๆ กินก่อนค่ะ ในตู้เย็นจะมีพวกช็อกโกแลตแท่งแช่ไว้เยอะแยะเลย
จากนั้นก็ไปหาอย่างอื่นทำ ดูหนัง ฟังเพลง หรือไม่ก็ออกกำลังกาย พักงานเขียนไว้ก่อน
แล้วเดี๋ยวมันจะหายตันไปเองโดยปริยายค่ะ
คำถามที่ว่านับเคยถูกก๊อปปี้นิยายไหม อาจจะเพราะนับเป็นนักเขียนหน้าใหม่มาก
ๆ ๆ ก็เลยยังไม่เคยเจอกรณีก๊อปปี้ผลงานกับตัวค่ะ แต่มีเพื่อน ๆ
นักเขียนด้วยกันที่โดนก๊อปให้เห็น ก็อยากฝากคนที่ชอบก๊อปนะคะว่า เลิกเถอะค่ะ
กว่านักเขียนจะกลั่นกรองออกมาได้แต่ละประโยคคือต้องผ่านหนึ่งสมองและสองมือที่คุณเองก็มีเหมือนเรา
ดังนั้นถ้าอยากมีผลงานที่น่าภูมิใจก็คิดเองเขียนเองดีกว่าเนอะ สบายใจดี
ส่วนผลงานที่มีตอนนี้ที่เขียนจบแล้วมีทั้งหมดแปดเรื่องค่ะ
เรื่องที่ชอบที่สุดก็คือเรื่อง ‘บัวแก้วปรางขวัญ’ เป็นนิยายพีเรียดย้อนยุค
เนื้อหา ฟีลกู๊ดอบอุ่นละมุนใจ
อ่านได้เพลิน ๆ ค่ะ นี่อ้างอิงมาจากรีวิวของนักอ่านนะคะ (หัวเราะ) ส่วนที่ถามเรื่องนิยายแนวไหนไม่มีวันตาย
นับว่านิยายรักนี่แหละค่ะ เพราะโลกเราหมุนด้วยความรัก อิอิ
นิยายล่าสุดเรื่อง “พันหมื่นดารา เมฆาเร้นใจ”
(ยินดีกับโบแดง) เป็นนิยายรักจีนโบราณ พล๊อตเบา ๆ หวาน ๆ เรื่องนี้มีวางขายในรูปอีบุ๊กนะคะ
นักอ่านท่านใดสนใจลองหาอ่านกันได้ (แน่ะ แอบเนียนโฆษณา อิอิ)
ในการเขียนนิยายนับไม่เคยตั้งเป้าหมายไว้เลยค่ะว่าจะต้องเขียนปีละกี่เรื่อง
ว่ากันตามแพสชั่นและไฟที่มี ณ ขณะนั้นมากกว่าค่ะ
หากนักอ่านต้องการติดตามนับดาวได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ นับดาวจอมเพ้อ ตามลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/NubdaoDreamerGirl/ สำหรับตอนนี้กำลังเขียนนิยายจีนโบราณเรื่อง
ยอดหมอหญิงหัตถ์เทวะ สลับกับนิยายรักโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง Bad guys ตัวร้าย...ที่รัก
อยู่ค่ะ ส่วนจะเขียนเรื่องไหนมากเรื่องไหนน้อยก็แล้วแต่ความขยัน (ฮา)
คิดว่าทั้งสองเรื่องจะลงขายในอีบุ๊กนะคะ ฝากติดตามผลงานของนับด้วยน้า”
เฉลยคำถามนิยาย T.O.P : อนุ…ยอดภรรยา สำนักพิมพ์เฟยฮุ่ย
คำถามนิยายจีนโบราณของ
“นับดาว” ออกกับสำนักพิมพ์คือเรื่อง?
ทราบคำตอบ เขียนชื่อ – ที่อยู่
และคำตอบให้ชัดเจน ลงไปรษณียบัตร ส่งมาที่
เปิดปก…อกนักเขียน
เลขที่ 32/15 ซ.ลาดพร้าว
23 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
ผู้ตอบถูก 2 ท่าน
ได้รับนิยายจาก พราวเดือน / จิ่วซานหลิง (ขอบคุณที่สนับสนุนของรางวัล)
หมดเขตส่งคำตอบ 31 กรกฎาคม
2563
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น